บท
ตั้งค่า

ความทรงจำของสงคราม

“มีสายรายงานว่าตอนนี้คุณหนูปลอดภัยแล้วครับ” ลูกน้องของสงครามเอ่ยขึ้น

“......” สงครามหยุดนิ่งชะงักเพื่อรอฟังว่าลูกน้องจะพูดอะไรต่อ

“ส่วนเด็กในครรภ์ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ครับ”

“......”

สงครามส่งสัญญาณมือไล่เพื่อให้ลูกน้องออกไปจากห้อง ก่อนที่เขาจะก้มหน้านั่งอ่านเอกสารต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เป็นอย่างที่เขาคิดมาตลอดว่าเด็กในท้องของเบลล่ามันไม่ใช่ลูกของเขา แต่เป็นลูกของใครก็ไม่รู้ที่เบลล่าใช้มันมาเพื่อเป็นที่ต่อรองจะจับเขา เพราะเขาค่อนข้างมั่นใจว่าเขาไม่มีทางพลาดเรื่องโง่ๆ แบบนี้แน่นอน แล้วอีกอย่างเบลล่าเธอไม่ได้มีอะไรกับเขาแค่คนเดียว

“มีอีกเรื่องสำคัญครับนาย”

“......” ชายหนุ่มเงยหน้าก่อนที่จะค่อยๆ หลับตาลงอย่างช้าๆ เพื่อรอฟัง

“คนที่มาช่วยคุณไตรภพไว้คือผู้หญิงคนนี้” ลูกน้องของสงครามค่อยๆ ยื่นรูปถ่ายปึกหนาให้ผู้เป็นนาย

“พวกมึงแน่ใจว่าเป็นผู้หญิงคนนี้ที่บังอาจเข้ามาช่วยพ่อกู” สงครามทวนถามขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่รู้และเห็นประวัติของหญิงสาว เพราะที่พ่อเขาหนีรอดไปได้จากการที่มีคนบังเอิญยื่นมือเข้ามาช่วย จากที่พ่อจะต้องเจ็บจนตายกลายเป็นพ่อกลับรอดมาได้อย่างไม่น่าเชื่อเพราะผู้หญิงคนนี้

“แน่ใจครับ ไม่ผิดพลาดแน่นอนครับ” ลูกน้องยืนยันคำเดิม

“ไปส่งกูที่สนามบิน กูจะกลับไทยเดี๋ยวนี้” สงครามเอ่ยคำสั่งเสียงเรียบพลางใช้นิ้วเคาะโต๊ะเพื่อประมวลผลเหตุการณ์อะไรบางอย่าง

“ครับนายน้อย”

@ประเทศไทย

เท้าของชายหนุ่มแตะลงบนผืนแผ่นดินประเทศไทยในรอบหลายปี เขาใช้เวลาร่วมหลายชั่วโมงเพื่อบินข้ามน้ำข้ามทะเลกลับมาที่นี่ ประเทศที่มีแต่ความทรงจำเลวร้ายสำหรับเขา ดวงตาคู่คมสอดส่ายสายตามองทุกสิ่งทุกอย่างที่ดูเปลี่ยนไป

“ทางนี้ครับ” ลูกน้องคนสนิทเดินนำให้เขาเดินมาขึ้นรถที่รอรับอยู่ แต่จุดหมายที่แรกมันไม่ใช่ที่เซฟเฮ้าส์เหมือนที่หลายคนคิด

“ไปตามแผนที่” สงครามยื่นเศษกระดาษที่เขาเคยเขียนแผนที่ไว้ตอนอยู่ที่รัซเซียให้ลูกน้องพาเขาไปตามที่บอก

ใช้เวลาร่วมเกือบสองชั่วโมงจากสนามบินมาถึงที่หน้าบ้านหลังนึง บ้านเดี่ยวที่เป็นสองชั้นมีต้นไม้รายล้อม บรรยากาศดูร่มรื่นให้ความรู้สึกเย็นสบายและรู้สึกปลอดภัยทุกครั้งที่เขาเข้าไปในบ้านหลังนี้ แต่เรื่องที่เขาเล่ามันก็นานมาแล้ว นานจนคนในบ้านอาจจะลืมเขาแต่สำหรับเขา เขาไม่มีวันลืมมัน

“ผู้หญิงคนนี้แหละครับที่เป็นคนช่วยคุณไตรภพ” ลูกน้องคนสนิทเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นหน้าหญิงสาวที่เป็นคนขัดขวางแผนการของผู้เป็นนาย

“......” สงครามนั่งเงียบไม่พูดอะไร

“ให้พวกผมจัดการเธอเลยไหมครับ”

“ไม่ต้อง”

ชายหนุ่มนั่งทอดสายตาผ่านแว่นสีดำกรอบหนา อยู่ภายในรถยนต์คันหรูราคาหลายสิบล้านพลางมองเข้าไปในบ้านสวนที่คุ้นเคยตอนเด็กๆ ในมือของเขาถือบางสิ่งบางอย่างไว้แน่น สิ่งของที่เขาเก็บมันไว้ตลอดระยะเวลาเกือบสิบปีที่ผ่านมา

“น้องฝ้าย!” ริมฝีปากหนาขยับเปล่งชื่อหญิงสาวออกมาหลังจากที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาเกือบสิบปี

“ไปก่อนนะคะแม่” เสียงของหญิงสาวในชุดนักศึกษารัดสัดส่วนที่ชวนน่าหลงไหล ดังขึ้นตะโกนบอกผู้เป็นแม่ พร้อมเธอที่เปิดประตูรั้วบ้านออกมาโดยที่ไม่รู้ว่ามีสายตาคู่คมเกือบนับสิบจ้องมองเธออยู่

สงครามจ้องมองใบหน้าหวานพร้อมเรือนร่างอย่างคลั่งไคล้ รูปร่างสัดส่วนของเธอที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลามันทำให้ชายหนุ่มอย่างเขาละสายตาจากเธอไม่ได้จริงๆ ตลอดระยะเวลาเกือบสิบปีที่ไม่ได้เจอเธอ ผู้หญิงที่เขาเฝ้ารอมาตลอด วันนี้มันสิ้นสุดลงแล้ว

“ไปจับตัวเธอมา กูต้องการผู้หญิงคนนี้!!”

“......”

“อย่าให้มีรอยขีดข่วนแม้แต่ปลายเล็บ เพราะคนที่จะทำให้เธอเจ็บได้ก็คือกูคนเดียวเท่านั้น!!”

“ครับนายน้อย”

ตึกตัก! ตึกตัก! เสียงฝีเท้าของฉันดังขึ้นในขณะที่กำลังเดินออกมาจากซอยบ้าน ฉันหันซ้ายหันขวาแต่ก็ไม่เห็นใครแต่ฉันรู้สึกจริง ๆ นะว่ากำลังมีคนตามฉันมาจริง ๆ

ก๊อก ก๊อก ! ฉันยืนเคาะประตูอยู่ที่หน้าห้องเช่าหลังเล็กๆ หลังนึงที่ฉันเป็นคนพาคุณลุงไตรภพมาหลบกบดานที่นี่ ซึ่งอยู่ถัดจากซอยบ้านของฉันไปไกลพอสมควร

พ่อของพี่สงครามที่เพื่อนเล่นสมัยๆ เด็กๆ ของฉัน แต่ตอนนี้พี่สงครามกับแม่ของเขาได้ตายไปหลายสิบปีแล้ว ทำให้เหลือแค่คุณลุงไตรภพแค่เพียงคนเดียว แล้วเมื่ออาทิตย์ก่อนคุณลุงไตรภพก็ถูกลอบทำร้ายอาการสาหัสนอนหายใจรวยรินอยู่ที่ป่าหลังหมู่บ้าน แล้วเป็นเรื่องบังเอิญที่ฉันผ่านไปเห็นแล้วช่วยเขาไว้ได้ทันท่วงที คุณไตรภพเลยกลับมามีชีวิตรอดอีกครั้ง ท่านเลยขอให้ฉันช่วยหาที่กบดานเพื่อให้ท่านได้พักฟื้นรักษาตัวให้หายดี แล้วให้ฉันช่วยปิดทุกอย่างเป็นความลับ ให้ทำเสมือนว่าคุณไตรภพนั้นตายหายสาบสูญไปแล้ว

“คุณลุงเป็นยังไงบ้างคะ?” ฉันถามคุณลุงที่เอาแต่นอนซมเพราะพิษไข้กำลังเล่นงาน หลายคนอาจจะกลัวหรือไม่กล้าเข้าใกล้มาเฟียอย่างคุณลุงไตรภพ แต่ฉันกลับไม่คิดแบบนั้น ฉันกลับคิดว่าเขาคือญาติผู้ใหญ่คนนึงที่ครอบครัวฉันรู้จักมาหลายสิบปี

“ยังเจ็บแผลอยู่นิดหน่อย” คุณลุงตอบกลับมา

“ฝ้ายเอาอาหารกับยามาให้” ฉันเอาปิ่นโตที่มีอาหารหลากหลายอย่างที่แม่ทำยื่นให้คุณลุงไว้ทาน เจ็บขนาดนี้น่าจะช่วยเหลือตัวเองได้ค่อนข้างลำบาก

“ขอบใจหลานมากนะ” คุณลุงเอ่ยขึ้นก่อนที่ฉันจะมองหน้าคุณลุงด้วยความสงสาร ญาติที่ไหนก็ไม่มี แถมยังต้องมาถูกลอบทำร้ายจนอาการสาหัส ไปหาหมอก็กลัวว่าคู่อริจะตามเจอ กลับไปอยู่บ้านตัวเองก็ไม่ได้ แล้วฉันก็เห็นว่าของที่ติดตัวคุณลุงอยู่ตลอดก็คือรูปถ่ายครอบครัว รูปของแม่พี่สงครามกับรูปพี่สงครามที่ตายไปแล้ว ท่านคงจะคิดถึงลูกกับเมียมาก ฉันก็คิดถึงพี่สงครามมากเช่นกัน

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฝ้ายขอตัวนะคะ พอดีมีเรียนต่อน่ะค่ะ”

“ขอบใจอีกทีนะ”

“เดี๋ยวตอนเย็นฝ้ายมาหาใหม่นะคะ ดูแลรักษาตัวนะคะคุณลุง” ฉันพูดขึ้นก่อนที่จะเดินออกจากห้องแล้วมองซ้ายมองขวาว่ามีคนแอบตามมาไหม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel