ตอนที่สี่ บอกได้หรือยัง 2 (NC)
ตอนที่สี่ บอกได้หรือยัง
“เอ่อ...แม่นางหลิน ข้าเข้ามาดูแลแทนองค์ชายขอรับ”
ชายหนุ่มซึ่งเดินเข้ามาสอบสวนนางพร้อมองค์ชายหนุ่มเมื่อคืนเดินเข้ามาใกล้ เมื่อเห็นร่างขาวผ่องไร้เสื้อผ้าติดกายจนแลเห็นเต้าหู้นิ่มสองก้อนเด้งไหวตามแรงหายใจจึงรีบเบนหน้าหนีอย่างรู้มารยาท
“ข้านำผ้าชุบน้ำมาให้แม่นางได้ทำความสะอาดเนื้อตัว ที่นี่เป็นค่ายทหาร ไม่มีความสะดวกสบาย อีกทั้งไม่มีสาวใช้”
“ขอบคุณมาก” หลินอินปินยื่นมือมารับผ้าพลางเอ่ยถามนามของชายตรงหน้า
“ข้าชื่อ ‘ฮุ่ยจื่อซี่’ เป็นกุนซือขององค์ชายอู่หวังเหว่ย องค์ชายสี่แห่งแคว้นอู่”
“ข้าไม่เข้าใจว่าเหตุใดพวกท่านจึงต้องทำสงครามกัน” หญิงสาวเอ่ยถามสาเหตุเพื่อหาทางห้ามได้ตรงจุด
“เนื่องด้วยภัยแล้ง แคว้นเฉียงจึงยื่นขอให้พวกเราเปิดทางกั้นน้ำเพื่อให้น้ำไหลลงไปถึงแคว้นของพวกเขา ส่วนแคว้นปาก็ขอให้พวกเราเปิดทางกั้นน้ำเพื่อแบ่งน้ำไปยังแคว้นของเขาบ้างเช่นกัน
แต่ฮ่องเต้และเหล่าขุนนางเห็นว่าไม่ควรยอมแบ่งน้ำไปง่ายๆด้วยอาจทำให้แคว้นของเราเกิดภัยแล้งเช่นกัน เมื่อตกลงกันไม่ได้สุดท้ายจึงต้องยกทัพมาแย่งชิงต้นน้ำซึ่งอยู่บนภูเขาแห่งนี้” กุนซือหนุ่มเล่าพลางลอบสังเกตใบหน้างามเพื่อจับผิด
อืม...นางงดงามจนเผลอมองแทบลืมหายใจ
ไม่น่าเชื่อว่าจะโผล่กลางสนามรบได้
ที่สำคัญองค์ชายบอกว่านางยังบริสุทธิ์
หญิงเช่นนี้หรือจะยอมพาตัวมาเป็นเหยื่อล่อหรือไส้ศึก
“แม่นางหลินมาจากที่ใดหรือ” กุนซือหนุ่มใช้น้ำเสียงนุ่มนวล
หลินปินอินได้ฟังคำถามแล้วจึงเกิดความคิดขึ้นมาทันที
“ข้ามาจากด้านบนของเขาสูงนั้น”
“ภูเขาสูงเช่นนั้นหาใช่สถานที่ซึ่งมีคนอยู่อาศัยได้” ฮุ่ยจื่อซี่ย่อมไม่เชื่อคำอ้าง หากนางอยู่บนภูเขาจริงย่อมนับเป็นอาณาเขตของแคว้นอู่
เท่าที่เขารู้มา ด้านบนมีเพียงต้นน้ำและป่ารกชัน ไม่มีชาวบ้านอยู่อาศัยแม้แต่คนเดียว
หญิงสาวฉวยจังหวะที่เขาลอบมองซาลาเปาสองลูกของตนเองคว้ามือกระชากกุนซือหนุ่มเข้ามาผลักลงบนเตียงแล้วขึ้นคร่อมร่างหนาเอาไว้ทั้งตัว
เจ้าระบบบอกว่า นอนคุยย่อมได้ผลกว่านั่งคุย เช่นนั้นก็จับเจ้าหนุ่มนี้มานอนคุยอีกคนแล้วกัน
“แม่นางหลิน เจ้าจะทำสิ่งใด” ฮุ่ยจื่อซี่ตกใจ แม้เขาไม่ได้มีพละกำลังดังเช่นทหารอื่นแต่การที่สาวน้อยอ่อนแอสามารถดึงเขาให้ล้มทั้งตัวแล้วยังกักเอาไว้ในอ้อมแขนได้นับว่าไม่ธรรมดา
นางมีเรี่ยวแรงมากเพียงนี้เชียวหรือ มิน่ารองรับพละกำลังองค์ชายได้ทั้งคืนโดยไม่สลบไปเสียก่อน
แน่นอนว่าเขานอนฟังเสียงครวญครางอยู่ในห้องข้างจนแทบไม่ได้หลับได้นอน
“ข้าเพียงไม่อยากให้เสียเวลาอีก เอาล่ะ กุนซือฮุ่ย ข้าไม่รู้ว่าเหตุใดจึงตกลงกลางวงล้อมของสามทัพ แต่ขอยืนยันว่าข้าอาศัยอยู่บนภูเขาสูงนั่นมาตลอด บางทีอาจด้วยเทวดาฟ้าดินต้องการให้ข้ามาห้ามศึกครั้งนี้กระมัง” หญิงสาวอ้างเลื่อนลอย
ห้ามศึก จะห้ามได้อย่างไร
ฮุ่ยจื่อซี่ค้านในใจ
“เจ้าเป็นเพียงหญิงสาวคนหนึ่งจะอยู่เพียงลำพังในป่าเขาอย่างไรได้”
“นั่นด้วยข้ามีพละกำลังพอสมควรจึงใช้ชีวิตในป่าได้โดยไม่ลำบาก อย่างเช่นที่ข้าสามารถปลุกปล้ำท่านได้โดยไม่อาจหลีกหนีนี่อย่างไรเล่า”
ฮุ่ยจื่อซี่มองร่างขาวกระจ่างพร้อมเต้าทรวงอวบอิ่มซึ่งเด้งไหวล่อตาล่อใจแล้วได้กลืนน้ำลาย
“แม่นางหลินอย่าได้ล้อเล่น”
“ผู้ใดว่าข้าล้อเล่น” หลินปินอินมีความชอบแกล้งอยู่เป็นทุนเดิม เมื่อเห็นสีหน้าไม่เชื่อถือของกุนซือหนุ่มจึงล้วงมือไปถอดกางเกงของเขาออกอย่างรวดเร็ว
โดนโจมตีมาทั้งคืนแล้ว ขอนางเป็นฝ่ายโจมตีบ้างเถอะ
ร่างบางโยกตัวขึ้นนั่งคร่อมแล้วจ่อร่องดอกไม้งามให้ตรงกับแท่งกายซึ่งตั้งแข็งแล้วตั้งแต่โดนร่างน้อยกักตัวไว้ มือเล็กจับปลายหัวบานถูขึ้นลงไปตามแนวร่องอย่างอ้อยอิ่ง
ฮุ่ยจื่อซี่ยังไม่ทันอ้าปากห้าม ร่องน้ำฉ่ำก็กลืนกินท่อนเอ็นอวบของเขาเข้าไปทีละนิดจนหมด แท่งเนื้อแข็งมุดเข้าไปในช่องทางสวาทจนหายไปทั้งดุ้น
“อื้อ...เสียวดีจัง”
