ตอนที่สี่ บอกได้หรือยัง 1 (NC)
ตอนที่สี่ บอกได้หรือยัง
หลินปินอินถูกจับเปลี่ยนท่าทั้งคืนเพื่อสอบสวนอย่างไม่ออมแรง หญิงสาวร้องครวญครางจนเสียงแหบแห้งแต่ไม่ยอมหลุดปากออกมาว่านางเป็นคนของผู้ใด
ก็จะให้บอกว่าอย่างไรเล่า
ไอ้ระบบบ้าก็ไม่ได้ให้ข้อมูลมาเสียด้วยว่าควรจะตอบอย่างไร ขืนตอบมั่วๆอาจโดนฆ่าตายสู่ขิตไปก่อนจะครบ7วัน
ยอมถูกสอบสวนอยู่อย่างนี้ดีกว่า
ถึงอย่างไรร่างนี้ก็ไม่ใช่ของเธอ แล้วยังมีตัวช่วยช่องทางคับแน่นอีก
อื้อ...เสียว เสียวโว๊ย เกิดมาไม่เคยเสียวขนาดนี้มาก่อน
ได้เสียวสุดยอดแบบนี้ถือเป็นลาภร่องก็แล้วกัน
องค์ชายหนุ่มคนนี้ช่างอึดถึกทนเสียจริง
“เหตุใดจึงปากแข็งเช่นนี้ โดนแท่งทวนของข้าไปถึงห้ารอบแล้วแต่ยังไม่ยอมบอกออกมาอีก รีบเอ่ยออกมา เจ้าคือคนของแคว้นใดกันแน่”
องค์ชายหนุ่มมองร่องสีแดงซึ่งบวมเป่งด้วยโดนความรุนแรงเสียดสีมากว่าค่อนคืนโดยไม่ได้หยุดพัก
ท่อนกายแกร่งของเขายังคงมุดเข้าออกจนกลีบดอกไม้ปลิ้นไหวไปมาขณะทั้งน้ำใสและน้ำขุ่นขาวผสมผสานทะลักล้นออกมาจากร่องสวาท
แจ๊บ แจ๊บ แจ๊บ
แม้ร่างกายของเขาจะได้รับการฝึกฝนจนแข็งแกร่ง แต่ผ่านการโยกขย่มมาหลายชั่วยามย่อมอ่อนล้าไม่อาจเร่งแรงได้อย่างใจนึก มีเพียงความเสียวซึ่งยังคงนำพาให้เขาพบความสุขสมจนนับครั้งไม่ถ้วน
“โอ้ววว...ร่องของเจ้ายังตอดรัดถี่ไม่มีเบาแรง”
เสียงชื่นชมหลุดออกมาอย่างพลั้งเผลอ
หลินปินอินโดนของแข็งมุดเข้ามุดออกโยกซ้ายป่ายขวาจนใบหน้าส่ายไปมาด้วยความซ่านเสียว ยามนี้หญิงสาวผมเผ้ากระจัดกระจายกระเซอะกระเซิง ใบหน้าหวานแดงก่ำเต็มไปด้วยเหงื่อ ริมฝีปากแดงยังคงปิดปากแน่นร้องเพียงเสียงครวญครางออกมาจนเหนื่อยอ่อน
“อื้อ...ซี้ดดดด...อ้า...เสียววววว”
“อืม...”
องค์ชายอู่หวังเหว่ยกระหน่ำร่องรูแคบจนน้ำรักถูกรีดออกแทบหมดตัว แต่หญิงสาวยังคงดื้อดึงไม่สารภาพคำใดได้แต่ตอดรัดถี่อยู่อย่างนั้นจนเขาแทบทนไม่ไหว
สุดท้ายด้วยอ่อนแรงเต็มทีจึงจำต้องปล่อยร่างบางซึ่งเต็มไปด้วยน้ำขุ่นขาวทั่วร่างให้นอนเปลือยกายอยู่อย่างนั้น ส่วนตัวเขาปลีกออกไปนอนที่อื่นด้วยยังคงไม่ไว้วางใจในหญิงแปลกหน้า
หลินปินอินตื่นขึ้นมาด้วยร่างกายอ่อนล้า ผิวกายขาวผ่องเต็มไปด้วยร่องรอยแดงจากการบีบขยำและขบกัด
โอ๊ย...เจ็บไปทั้งตัว ไหนบอกว่าความสามารถเดิมของฉันจะติดตัวมา แค่โดนไม่กี่ทีถึงกับหมดเรี่ยวหมดแรงขนาดนี้
อืม...แต่ จะว่าไม่กี่ทีก็ไม่ใช่นะ โดนตอกแทงทั้งคืน แต่เธอยังสอดรับได้โดยไม่สลบไปเสียก่อน ย่อมด้วยความแข็งแรงของร่างเดิมแน่
หญิงสาวสำรวจร่างกายจนทั่ว ช่องทางแคบยังเต็มไปด้วยน้ำข้นเหนียวอยู่เต็มร่องรู หว่างขาเหนอะหนะไปด้วยน้ำรักของคนทั้งสองซึ่งสาดกระจายทั้งคืน
อืม...จะว่าไป ทำไมนางจึงตอบสนองราวชื่นชอบการสอบสวนเช่นนี้
ความรู้สึกว่าของใหญ่ผลุบเข้าผลุบออกอยู่ในโพรงอุ่นยังคงคั่งค้างจนน้ำใสไหลนองออกมาอีกราวหญิงบ้ากาม
แค่นึกถึงก็เสียวจนปวดท้องแล้ว
เฮ้อ...แค่วันแรกยังโดนขนาดนี้ เหลืออีกตั้ง6วัน นางจะโดนพวกเขาจับกินจนไม่เหลือกระทั่งกระดูกหรือนางจะเป็นฝ่ายฟาดเรียบทั้งสามทัพกันแน่
“เป็นอย่างไรบ้างเจ้านาย ใช้ตัวช่วยของข้าจนเพลิดเพลินหรือไม่” เสียงระบบดังขึ้นภายในช่องหู
“เจ้าระบบส่งข้าลงไปกลางสนามรบแบบนั้นได้อย่างไร” หลินปินอินได้โอกาสโวยวายทันที
“ขอโทษที ข้าส่งลงผิดพิกัดไปหน่อย แต่ก็นับว่าดีมิใช่หรือ ไม่ต้องเสียเวลาพูดจา ได้สุขสันต์จนฟ้าสาง” เสียงตอบมาอย่างเริงร่าราวไม่ได้สำนึกผิดแต่อย่างใด
“สุขสันต์อันใด นี่ตกลงจะส่งมาห้ามศึกหรือส่งมาก่อศึกกันแน่” หญิงสาวกระแทกเสียงใส่
“ก่อศึกจนน้ำกระจายแบบเมื่อคืนหรือ หากเป็นเช่นนั้นจริงเจ้านายน่าจะชื่นชอบด้วยในชีวิตจริงคงไม่มีโอกาสอันดีเช่นนี้” เจ้าระบบบ้าพูดแทงใจดำ
“นั่นก็จริง แต่ขืนมัวแต่สาดน้ำรักกันอยู่เช่นนี้จะห้ามศึกได้อย่างไร”
“เจ้านายไม่เคยได้ยินหรือที่ว่า เจรจาบนเตียงนั้นง่ายกว่า การนอนคุยย่อมได้ผลกว่านั่งคุย”
“อืม...” หลินอินปินพยักหน้าเห็นตาม ยังไม่ทันถามเพิ่มเสียงกุกกักก็ดังขึ้นด้านหน้าประตูจึงรีบเงียบเสียง
