ตอนที่ 2 วิธีรับมือ ก็คือรับมือตามสถานการณ์
“ซือหมิงเอ๊ย อาจารย์ทำให้เจ้าต้องลำบากแล้ว” หลิงฝูเหอที่เร้นตัวแอบมองเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นเอ่ยขอโทษผู้เป็นศิษย์
“อาจารย์อย่าได้ขอโทษศิษย์อีก เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ขอรับ” ชายหนุ่มแม้จะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่ก็คงเอาไว้ด้วยความเคารพเสมอ
“อาหรงนางขาดแม่ตั้งแต่เด็ก ข้าเองก็ไม่ได้อบรมสั่งสอนนาง อย่างเข้มงวดนางถึงได้เอาแต่ใจเช่นนี้”
“ไม่หรอกขอรับอาจารย์ ศิษย์น้องสิบเอ็ดอายุยังน้อย เป็นเรื่องธรรมดาที่จะซุกซนหัวรั้นไปบ้าง” ในฐานะศิษย์เขาจึงจำต้องเอ่ย ปลอบใจอาจารย์ตนและยอมหลับหูหลับตาทนเมื่อถูกศิษย์น้องเข้ามา รบกวนความสงบ
“นางทั้งหัวรั้นทั้งหนักแน่น วันก่อนยังเขามาประจบข้า ในข้าสู่ขอเจ้าให้นางเสียด้วยซ้ำ”
เมื่อได้ฟังชายหนุ่มที่กำลังยกน้ำชาขึ้นจิบถึงกับสำลักอึกใหญ่ ตนกระแอมไออยู่หลายครั้งจึงพอทุเลาลงเล็กน้อย
“อาจารย์คงไม่ได้ตอบตกลงยกข้าให้นางไปแล้วนะขอรับ” เขาหน้าตาตื่นเอ่ยถาม ท่าทีที่มักจะนิ่งเฉยไร้อารมณ์ยามนี้ดูกระวนกระวายยิ่ง
“อาจารย์จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร ยอมต้องปฏิเสธนางกลับไปอย่างหนักแน่นอยู่แล้ว แม้ข้าจะเป็นบิดาของนางแต่ก็เป็นอาจารย์ของเจ้าด้วย ข้าจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร”
“ท่านอาจารย์ช่างมีคุณธรรมยิ่งขอรับ” หานซือหมิงรู้สึกโล่งใจได้ในที่สุด
“เพียงแต่อาหรงนางเป็นพวกตั้งมั่นแน่วแน่ นางหมายจะแต่งกับ เจ้าอย่างไรก็ต้องสู้สุดใจแน่ หากเจ้าอยากจะรอดพ้นจากนางก็คงจะต้อง ทำให้นางตัดใจไปเอง”
“เช่นนั้นท่านอาจารย์มีวิธีแล้วหรือไม่ขอรับ”
“แน่นอนว่ายังไม่มีวิธี คงต้องให้เจ้ารับมือไปตามสถานการณ์”
หลังจากคุยเรื่องของบุตรสาวเสร็จ หลิงฝูเหอก็พูดเรื่องของการคัดเลือกศิษย์นอกสำนักเพื่อให้เข้ามาเป็นศิษย์สายตรงขอสำนัก โดย-หลิงฝูหลงได้มอบหมายให้หานซือหมิงศิษย์คนที่สามของตนลงเขาไปดูการคัดเลือกในครั้งนี้ด้วยตัวเอง
ซึ่งแน่นอนว่าเมื่ออาจารย์มอบหมายให้ หานซือหมิงย่อมต้องตอบรับ อีกอย่างหลงไปแล้วก็จะได้สงบหน่อย เขาคิดไปถึงขั้นถือโอกาสออกไปเร้นกายที่นอกสำนักสักระยะเพื่อเป็นการหลบศิษย์น้องสิบเอ็ดด้วย หากเขาหายไปสักพักไม่แน่นางอาจจะตัดใจจากตนไปเอง
ยามนี้ฟูหรงกำลังขะมักเขม้นกับการเตรียมสัมภาระอยู่ เพราะ เมื่อช่วงค่ำนางแอบได้ยินบิดาสนทนากับท่านอาจารย์อาอาวุโสจะให้ศิษย์พี่ลงเขาไปที่สำนักนอกเพื่อคัดเลือกลูกศิษย์ที่โดดเด่นมี ความสามารถขึ้นมาฝึกฝนต่อที่นี่
ตอนนั้นนางก็ไม่คิดอะไร เพียงแต่รู้สึกเสียดายเพียงเท่านั้นที่อาจจะไม่ได้พบหน้าศิษย์พี่หลายวัน ทว่าคิดไปคิดมาอย่างถี่ถ้วนก็พบว่าการที่ศิษย์พี่ลงเขาในครั้งนี้ดูเหมือนจะมีเรื่องน่ากังวลใจอยู่
เรื่องนั้นก็คือ นางเคยได้ยินมาจากลั่วเจ๋อว่าสองสามปีมานี้ที่สำนักนอกมีศิษย์หญิงหน้าตางดงามจำนวนมากซ้ำพวกนางยังมีความชื่นชอบต่อศิษย์พี่ซือหมิงเป็นอย่างมากอีกด้วย
ฟูหรงจึงกลัวว่าศิษย์พี่ที่นางหมายปองอยากได้มาเป็นสามีนั้นจะถูกสตรีอื่นพวกนั้นช่วงชิงไป แน่นอนว่านางไม่อาจยอมให้เกิดเรื่องเช่นนั้นได้แน่ จึงคิดที่จะแอบติดตามศิษย์พี่ลงเขาไปด้วย
ทว่าการลงเขาของนางนั้นกลับทำไม่ได้โดยง่ายเพราะติดกฎ ศิษย์ที่ยังอายุไม่ถึงยี่สิบปีห้ามลงเขาโดยไม่มีศิษย์พี่ที่โตกว่าหรืออาจารย์ พาลง หากนางไปขอกับท่านพ่อตรง ๆ ท่านพ่อย่อมไม่ยอมแน่น หากจะ แอบลงไปเองแม้นางจะรู้ที่ทางเป็นอย่างดีแน่ใจว่าออกไปได้อย่างสบาย แต่กระนั้นก็ยังติดอยู่ตรงที่ว่าอีกไม่กี่ชั่วยามท่านพ่อก็คงพบว่านางหายตัวไป
ครุ่นคิดอยู่นานในที่สุดก็คิดวิธีหนึ่งออกมาได้ ลั่วเจ๋ออย่างไรล่ะ เขาจะช่วยนางได้
“เจ้าจะให้ข้าทำเช่นนี้จริง ๆ หรือ หากถูกอาจารย์จับได้ขึ้นมาล่ะ ก็ต้องโดนโทษหนักแน่ ๆ” ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก เขาจับไปที่ชุดของสตรีที่ตนสวมใส่อยู่อย่างท้อแท้กับชีวิตยิ่ง
“ท่านพ่อเคยลงโทษข้าหนักด้วยหรือ หากโดนลงโทษจริง หลังจากข้ากลับมาแล้วจะรับโทษแทนเจ้าเองอย่างได้กังวลไป”
“หากครั้งนี้ท่านอาจารย์โกรธเข้าจริง ๆล่ะเจ้าจะทำอย่างไร”
“ก็ออดอ้อนอย่างไรเล่า ท่านพ่อข้าใจอ่อนจะตายไปลงโทษหนัก ๆ ไม่ลงหรอก หลายวันนี้เจ้าก็ทำเป็นปิดตนฝึกบำเพ็ญเพียรอยู่ในห้องของข้าไปก่อนเท่านั้นก็พอ ท่านพ่อข้านาน ๆ จะเห็นข้าปิดเรือนฝึกบำเพ็ญเพียรย่อมไม่เข้ามารบกวนแน่”
“เจ้ายังไม่เคยลงเขาเพียงคนเดียว อย่างไรก็ต้องระวังตัวด้วย”
“ลั่วเจ๋อ เจ้าวางใจเถอะอย่างไรข้าก็เป็นถึงศิษย์สายตรงของสำนัก ถึงปกติจะไม่ค่อยตั้งใจเรียนวิชานักแต่ก็ยังรู้วิชาเอาตัวรอด และรู้วิธีขี่กระบี่”
