ตอนที่ 6
"ไม่ได้มาหาเรื่อง แต่เอานี่มาให้"
ถุงกระดาษใบหนึ่งถูกยื่นไปตรงหน้าช้องนาง พนิตตากับหยาดงามรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินจึงค่อย ๆ ถอยออกมานั่งมองเพื่อนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
"อะไร คะ"
เกือบลืมหางเสียงไปแล้ว ดีนะที่เธอเงยหน้ามองอชิก่อนจึงรู้ว่ากำลังพูดกับรุ่นพี่อยู่
"อือ"
อชิไม่ตอบ เขายื่นถุงนั้นเข้าไปใกล้กว่าเดิม ช้องนางจึงจำใจหยิบของในนั้นขึ้นมาดู
"น่าจะใส่ได้ ไม่ติดมั้ง...นม"
เกือบจะดีแล้วแท้ ๆ ถ้าไม่มีประโยคหลังติดมา
"รู้สึกผิดล่ะสิ แต่ควรจะเอาหมาฝากไว้ที่บ้านก่อนมาขอโทษนะ จะได้ซึ้งกว่านี้"
ช้องนางประชดแต่น้ำเสียงไม่ค่อยจริงจังเท่าไหร่ เธอไม่ได้คิดว่าตัวเองจะหุ่นดีเลิศจนต้องนมมหึมายัดเสื้อไซซ์เอสไม่ลงขนาดนั้น แค่พอมี เรียกแบบนี้ก็ไม่เสียหายสักหน่อย
"ทำไมฉันถึงชอบผู้หญิงห่าม ๆ ปากปีจอแบบเธอได้วะ"
"กรี๊ด!! แก...เมื่อกี้ได้ยินเหมือนที่ฉันได้ยินป่าว"
เสียงกรี๊ดกร๊าดของเพื่อนร่วมชั้นดังขึ้น ทันทีที่อชิหลุดความในใจออกมา
"พิมาย ๆ"
"อือ ได้ยินเหมือนกัน"
พนิตตาบอกยิ้ม ๆ กับหยาดงามที่อยากถามเธอว่าได้ยินเหมือนกันไหม ก่อนที่ทั้งสองคนจะจับมือกันแน่นเพื่อลุ้นว่าทั้งสองคนจะลงเอยกันยังไง
"เมื่อกี้พี่พูดว่าอะไรนะ"
ช้องนางเหมือนสะตั้นไปหลายนาที เธอค่อย ๆ ทวนสิ่งที่ได้ยินใหม่ แต่เพื่อให้แน่ใจไม่ใช่คิดไปเองเลยถามออกไปอีกครั้ง
"ก็ได้ยินแล้วนี่ เป็นแฟ...กันมั้ย"
"ฮะ?"
"เป็นแ...ฟ กันมั้ย"
"โธ่ ไอ้เชี่ยชิ! มึงก็พูดชัด ๆ สิวะ พวกกูยังฟังไม่รู้เรื่อง น้องเขาจะฟังมึงรู้เรื่องเหรอไม่ใช่ต่างด้าวสักหน่อยเสือกพูดไทยไม่ชัก"
"ไม่ชัด! แม่ง! มึงก็อีกคนไอ้แมลงโม้"
เพื่อนในกลุ่มที่เหลือต่างประสานเสียงด่าให้ 'โอโม่' ที่ได้ฉายาแมลงโม้ประจำแก๊ง
ครืด...เวลาสำคัญแบบนี้ใครโทรมาขัดจังหวะเสียได้
พนิตตารีบสะกิดบอกหยาดงามว่าเธอมีสายเข้า ขอออกไปรับสายด้านนอกช่วยเก็บรายละเอียดแล้วมาเล่าให้เธอฟังทีหลังที
"ค่ะแม่ มีอะไรหรือเปล่าคะ"
พนิตตารีบรับสายแม่ของเธอที่จู่ ๆ ก็โทรมาในช่วงเวลาเรียนแบบนี้
[พิมายลูกรัก ช่วยแม่ด้วย แม่กำลังจะตายแล้ว]
หากเป็นคนอื่นฟังคงตกใจไปแล้ว แต่พนิตตากลับชินชากับคำโกหกของแม่เธอที่ใช้จุดอ่อนนี้มาหลอกล่อให้เธอทำตามคำขอของท่าน
"คราวนี้ใครล่ะคะ แม่จะให้มายไปนัดบอดกับลูกหลานบ้านไหนอีก"
เธอไม่รู้ว่าครอบครัวเธอเดือดร้อนเรื่องเงินอะไรนักหนา แม่ผู้ให้กำเนิดถึงได้อยากให้เธอแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาเพื่อกินค่าสินสอดขนาดนี้
[พูดแบบนี้แปลว่าหนูตกลงจะไปดูตัวให้แม่แล้วใช่เปล่า]
พนิตตาได้แต่ถอนหายใจ หากเธอตอบปฏิเสธไป แม่บังเกิดเกล้าคงขู่ฆ่าตัวตายอีก ถึงแม้จะไม่ทำ แต่เธอก็กลัวอยู่ดี
"แค่ไปเจอเฉย ๆ ใช่ไหมคะ"
[ถ้าคลิกกันเลยจะดีมากลูก]
"แม่คะ! มายเพิ่งจะสิบเก้า แค่หาแฟนยังยากเลย จะให้มายแต่งงานเลยเนี่ยนะ"
[แกอยากเห็นฉันเป็นอะไรไปก่อนใช่มั้ย? ได้! งั้นมาดูเลย ฉันจะนอนชักดิ้นชักงอมันตรงนี้แหละ]
ฟู่...
พนิตตาได้แต่กัดปากกลั้นความขมขื่นเอาไว้ในอก
เธอไม่โทษโชคชะตาที่ให้เกิดมามีแม่แบบนี้ เพราะที่เธอโตมาได้ทุกวันนี้เพราะแม่คนนี้นี่แหละเลี้ยงดูเธอมา ท่านคงแค่อยากให้เธอทดแทนบุญคุณเร็วกว่าคนอื่นไปหน่อยแค่นั้นเอง
"แม่อยากกินอะไรเดี๋ยววันนี้มายซื้อไปฝาก"
[แกรับปากฉันก่อน]
"ก็มายจะกลับไปคุยเรื่องนี้ไง"
[จริงนะ แกรับปากแล้วนะ งั้นฉันอยากกินอะไรที่คนรวย ๆ เขากินกัน]
"มายไม่รู้หรอกนะคนรวยเขากินอะไร แต่ที่แน่ ๆ เขากินข้าวกันทั้งประเทศแหละ งั้นมายจะซื้อขาหมูไปฝาก แค่นี้นะคะ"
พนิตตาไม่รอให้แม่เธอตอบอะไรกลับมาเพราะรู้ดีว่าสิ่งที่จะได้ยินต่อจากนั้นล้วนเป็นเรื่องบั่นทอนจิตใจเธอทั้งสิ้น
"อ๊ะ! พี่แผ่นดิน"
