วุ่นดีนะคุณผีผลักรักมาให้

52.0K · จบแล้ว
Lai LA FuN / เฉิงเอ๋อร์ / มอ.อาร์.ยอ
46
บท
551
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เพราะไม่อยากเห็นเพื่อนรักจมปรักอยู่กับอดีตที่ลืมไม่ลง จนไม่ยอมเปิดใจคบกับใครสักที 'ข้องนาง' จึงต้องพึ่งศาสตร์ลี้ลับช่วยให้เพื่อนรักสมหวังกับคนใหม่ให้ได้! "สาธุ... ตาจ๋า ยายจ๋า โปรดช่วยเหวี่ยงเนื้อคู่มาให้เพื่อนรักหนูทีเถอะ เพี้ยง!" "ช้องนาง! แกบ้าหรือสติไม่มาขอเนื้อคู่ให้คนอื่น แถมยังมาขอกับศาลไม้เก่า ๆ เนี่ยนะ" "แกน่ะสิบ้า! สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีทุกที่เว้ย ขอแค่ใจเราศรัทธา จริงมั้ยยัยหยาด" ช้องนางหาแนวร่วม "มีที่ตั้งเยอะแยะ ทำไมแกต้องเลือกที่นี่ด้วย" พนิตตามองรอบ ๆ ศาลาตายายที่อยู่ใต้ต้นโพธิ์แห่งนี้ บรรยากาศรอบตัวชวนขนลุกฟีลถ่ายรายการผีหรือไม่ก็ถ่ายหนังสยองขวัญมากกว่ามาขอเนื้อคู่อย่างที่เพื่อนรักทำอยู่ "แกฟังนะ ที่ฉันมาขอเนื้อคู่กับศาลตายายเพราะอยากให้คนที่ฉันขอคู่ให้อยู่ครองรักกันจนหัวหงอกหัวขาวอย่างตากับยายที่อยู่ในศาลนี้" "แล้วแกขอเนื้อคู่ให้ใครอะ" "นอกจากแก! ในกลุ่มนี้มีใครไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนบ้าง" อ้าว! ไหงแจ็กพ็อตมาลงที่เธอได้ "แกขอเนื้อคู่ให้ฉัน?" "Yes!" "ครั้งนี้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แกคงช่วยไม่ได้แล้วละ" "แกเสียเวลาแล้วละช้อง ครั้งนี้ตายายก็ช่วยฉันไม่ได้จริง ๆ" "ปากดีแบบแกระวังเถอะ! สักวันผีตายายจะผลักรักแท้มาให้ ไม่เชื่อคอยดู!" น้ำเสียงช้องนางหนักแน่น เหมือนกับสายลมที่พัดมาต้องผิวกายเธอเพียงคนเดียวจนขนลุกซู่อยู่เงียบ ๆ

นิยายรักโรแมนติกโรงแรม/มหาลัยโรแมนติกจีบเมียเก่าผู้ชายอบอุ่น21+แฟนเก่าเจ้าเล่ห์ผีวิญญาณ

ตอนที่ 1

"เร็ว ๆ สิเธอ เดินช้าแบบนี้เดี๋ยวรุ่นพี่ก็สั่งลงโทษหรอก"

'ช้องนาง' เฟรชชี่หน้าใหม่ดึงมือเพื่อนใหม่ที่เพิ่งเจอกันหน้ามหาลัยให้รีบวิ่งสี่คูณร้อยไปที่ลานคหกรรมเพื่อร่วมงานต้อนรับนักศึกษาปีหนึ่ง

"ช้าหน่อย มายปวดท้อง"

วันนี้เป็นวันแดงเดือดของ 'พนิตตา' หรือ 'พิมาย' นักศึกษาปีหนึ่ง คณะคหกรรมศาสตร์เช่นเดียวกับช้องนาง เมื่อถูกเพื่อนหน้าใหม่ลากให้วิ่งแบบไม่ถามไม่ไถ่ อาการวันนั้นของเดือนจึงเล่นงานเธอจนวิ่งต่อไม่ได้

"ไม่สบายเหรอ"

ช้องนางหยุดวิ่งตามเสียงร้องขอของเพื่อนใหม่ เธอค่อย ๆ หันมามองพนิตตาด้วยสายตาเป็นห่วงปนขอโทษ

"เราขอโทษนะ เราไม่รู้ว่าเธอไม่สบาย"

น้ำเสียงและแววตาสำนึกผิดทำให้พนิตตารีบส่ายหน้าบอก

"เธอรีบไปเถอะตอนนี้ยังทัน เดี๋ยวเราตามไป"

พรึ่บ!

ช้องนางได้ยินแบบนั้นเหมือนไม่ถูกใจสิ่งนี้ เธอรวบกระโปรงจีบรอบที่สั้นเสมอเข่าแล้วนั่งขัดสมาธิลงตรงหน้าเพื่อนใหม่

"จะให้เราทิ้งคนป่วยไว้ตรงนี้แล้วตัวเองไปเข้ากิจกรรมทันคนเดียวเราทำไม่ได้"

ช้องนางบอกเสียงหนักแน่น ทำเอาพนิตตาถึงกับยิ้มออกมาให้กับความมีน้ำใจของเพื่อนใหม่ที่เพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรก

"แต่เธออาจจะโดนลงโทษเพราะเรานะ"

"ก็แค่ลงโทษ จะไปน่ากลัวอะไร"

ช้องนางไม่มีทีท่าว่าจะกลัวสิ่งที่พนิตตาว่าเลยสักนิด สักพักทั้งสองก็ได้ยินเสียงใครสักคนตะโกนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล น้ำเสียงหอบเหนื่อย ฟังแล้วดูวังเวงชอบกล

"ช่วยด้วย ช่วยเราด้วย"

"นี่! เธอได้ยินอย่างที่เราได้ยินป้ะ?"

ช้องนางขยับเข้ามาใกล้กับพนิตตา สายตาสองคู่มองไปรอบ ๆ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกคหกรรมที่เวิ้งว้างไร้นักศึกษาหรือแม้แต่อาจารย์เดินผ่าน หมาแมวสักตัวยังไม่มี ยิ่งทำให้รอบตัวเกิดบรรยากาศชวนขนลุกขึ้น

หมับ!

"กรี๊ด!!"

จู่ ๆ ก็เหมือนใครดึงเสื้อนักศึกษาช้องนางจากด้านหลัง หญิงสาวจึงกรีดร้องด้วยความตกใจ ทำให้คนที่นั่งข้าง ๆ อย่างพนิตตาตกใจไปด้วย

"พวกเธอ....ช่วยเราด้วย"

สองสาวต่างพากันนั่งตัวสั่นไม่กล้าหันไปมองตามเสียงร้องขอความช่วยเหลือ แต่สุดท้ายพนิตตาเลยรวบรวมความกล้าหันไปตามที่มาของเสียงและเจอเข้ากับ...

"เฮ้ย! เป็นไรอะ"

เพื่อนนักศึกษาคนหนึ่งใบหน้าเลอะดินเลอะโคลนกำลังนอนราบกับพื้นหญ้าของสนาม สภาพเหมือนผ่านมรสุมอะไรมา

"รองเท้าเราส้นหักเลยหัวทิ่มโคลนเมื่อกี้ เรียกพวกเธอแล้วแต่ไม่มีใครสนใจเลยกระดึ๊บ ๆ คลานมาถึงนี่"

เพื่อนใหม่ที่ชื่อ 'หยาดงาม' ชี้นิ้วไปตรงแอ่งโคลนที่เธอหน้าทิ่มแล้วเรียกทั้งสองให้ไปช่วยสำทับคำพูด

"โธ่...ไอ้เราก็คิดว่าเสียงผีเสียอีก"

ช้องนางพูดกลั้วขำกับสภาพของหยาดงาม

"นี่กำลังจะไปที่ลานคหกรรมใช่ปะ?" พนิตตาถามขึ้น

เพราะคนที่มาทางนี้คงมุ่งหน้าไปที่ลานคหกรรมที่วันนี้มีกิจกรรมรับน้องใหม่ที่กำลังจะเริ่มในอีกห้านาทีหลังจากนี้กันทั้งนั้น

"อืม เราชื่อหยาดงาม เรียกหยาดเฉย ๆ ก็ได้"

หยาดงามรีบแนะนำตัวคนแรก

"เราช้องนาง เรียกอะไรก็เรียก อย่าเรียกเฮียก็พอ เฮียที่ไม่ได้แปลว่าเฮียอะ"

การแนะนำตัวของช้องนางเรียกเสียหัวเราะให้กับสองสาวที่เหลือได้เป็นอย่างดี

"ส่วนเราชื่อพิมาย เรียกมายเฉย ๆ ก็ได้"

"ชื่อน่ารักจัง หน้าตาก็สวย"

"ไม่ขนาดนั้นหรอก ทั้งสองคนก็น่ารักเหมือนกัน" พนิตตาชมเพื่อนใหม่

ช้องนางเป็นสาวแก่น ๆ พูดจาห้วน ๆ ห่าม ๆ หน้าตาสวยซ่อนเปรี้ยว ที่สำคัญเธอเป็นสายมูเตลูเข้ากระแสเลือด

หยาดงามเป็นกุลสตรีที่เหมือนผ้าพับไว้ แต่เธอกล้าแสดงออกกว่าบุคลิกภายนอก ออกแนวสวยอ่อนโยน

ส่วนพนิตตาเป็นคนที่หน้าตาสะสวย ออกแนวจิ้มลิ้มน่าทะนุถนอม นิสัยเหมือนจะอ่อนแอแต่กลับเข้มแข็งและไม่ยอมคน

"แล้วนี่เราสามคนไปไม่ทันกันแล้วใช่ปะ?" หยาดงามโพล่งขึ้น

ช้องนางยกข้อมือขึ้นดูเวลาก่อนจะพยักหน้าตอบ

"คงงั้นอะ อีกแค่สามนาที หายตัวไปน่าจะทัน"

เฮ้อ....

และทั้งสามก็พากันถอนหายใจออกมาอย่างพร้อมเพรียง