บท
ตั้งค่า

บทที่ 7 มัดและฟาดแส้

“เตรียมผ้าไว้ซะ” ข่งเชวี่ยไม่สนใจคนถาม แต่หันมาสั่งหวังเยี่ยนแทน

หวังเยี่ยนรีบไปทำตามแผนที่วางไว้ แม้นางจะหวั่นใจว่ารูปร่างผอมบางของข่งเชวี่ยอาจสู้บุรุษข้างนอกไม่ไหว แต่พี่ข่งเชวี่ยเป็นเช่นนี้ก็ยังดีกว่าสตรีสองคน หากเขาไม่ไหวนางค่อยช่วยอีกแรงก็ได้แล้ว

ข่งเชวี่ยเดินออกไปอีกฝั่งของห้องนอน บุรุษผู้นั้นก็ตกใจกับการเปิดเผยตัวของเขาไม่ต่างจากหวังเยี่ยน

“เจ้า..เจ้า..ที่แท้เจ้าก็งดงามมากเช่นนี้” แต่บุรุษผู้นั้นกลับเป็นพวกตัดแขนเสื้อที่ไม่ได้มีปัญหากับการที่ข่งเชวี่ยเป็นบุรุษ ฟังจากเสียงแล้วคล้ายว่าจะชื่นชมเขามากยิ่งขึ้นอีกด้วย หวังเยี่ยนแปลกใจอยู่บ้าง แต่นางก็รีบไปหยิบผ้าแดงผืนยาวที่เตรียมไว้ออกไปให้ข่งเชวี่ยตามแผน

ทันทีที่หวังเยี่ยนโผล่หน้าเข้าไปก็เห็นว่าข่งเชวี่ยกำลังถอดเสื้อออก นางตกใจจนชะงัก แต่ฝ่ายที่ตกใจยิ่งกว่าคือชายผู้นั่งอยู่บนเตียง เขากำลังชื่นชมข่งเชวี่ย กลับมีสตรีอื่นโผล่มาในห้องที่ควรเป็นห้องหอเสียได้

“เจ้าเป็นใคร” เขาโมโหและถามเสียงดุไม่พอใจ

“นางจะร่วมสนุกกับเรา” ข่งเชวี่ยเอ่ย

“ฮะ? ..เจ้า..เจ้าอยาก..” เขางุนงงไม่เข้า

“ข้าต้องอยากอยู่แล้ว เจ้าเป็นตัวเลือกที่ดีมาก ข้าดีใจที่คืนนี้มีเจ้าอยู่ ข้าจะได้ไม่ต้องหนักใจยามลงมือ” ข่งเชวี่ยแสยะยิ้ม

เป็นครั้งแรกที่หวังเยี่ยนได้เห็นข่งเชวี่ยยิ้มหลังจากกินนอนร่วมห้องกับเขามาหลายวัน แม้จะดูงดงาม แต่ก็น่ากลัว เพราะนัยน์ของเขาไม่ได้ยิ้มตาม หญิงสาวคล้ายได้เห็นความหนาวยะเยือกจากแววตานั้น

“เจ้า..หมายถึงอะไร” ชายที่นั่งอยู่บนเตียงเริ่มรับรู้ถึงแรงอาฆาตจากข่งเชวี่ย แม้เขาจะเมามายสุราไปมาก แต่อย่างไรเขาก็เป็นอดีตทหาร ผ่านการฆ่าฟันมามาก สายตาของบุรุษตรงหน้าไม่ใช่ว่าไม่เคยพบเห็น เขาระแวดระวังตัวทันที

ข่งเชวี่ยหยิบผ้าในมือของหวังเยี่ยนมาถือและวิ่งเข้าใส่บุรุษบนเตียงทันที เริ่มแรกชายผู้นั้นยังคงต่อสู้กลับได้ เขาชกข่งเชวี่ยไปสองหมัดแต่ไม่โดน หลังจากที่ข่งเชวี่ยเหยียบคอของเขาได้ก็ใช้ปลายเล็บแทงไปยังกระดูกข้างตัวทันที จากนั้นเขาก็แน่นิ่ง แม้จะยังลืมตาหายใจอยู่ แต่จุกจนเอ่ยคำใดไม่ไหว ไม่มีแรงตะโกนขอความช่วยเหลือด้วยซ้ำ

“คนที่ได้นั่งบนเตียงนี้ คือคนที่ถูกทำนายชะตาว่าต้องตายเท่านั้น” ข่งเชวี่ยเอ่ยกับบุรุษใต้เท้า ก่อนจะใช้ผ้าแดงมัดคอของเขาและดึงขึ้นไปขึงบนขื่อคานห้องด้วยความเชี่ยวชาญ

หวังเยี่ยนได้แต่ยืนมองข่งเชวี่ยจัดการทุกอย่างด้วยความเร็วชนิดที่นางไม่มีวันนึกถึง คล้ายว่าเขาทำเช่นนี้จนเป็นเรื่องปกติ เขาเชี่ยวชาญถึงขั้นว่ายังไม่มีเหงื่อออกสักเม็ด

บุรุษผู้นั้นถูกแขวนคอ แม้เขาจะพยายามดิ้นรนแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะแทบไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว สายตาที่เขามองข่งเชวี่ยเต็มไปด้วยความกลัว

“สายตาสกปรกก่อนหน้าของเจ้าทำข้าแทบจะอาเจียน แต่ยามนี้ค่อยดูดีขึ้น สายตาเช่นนั้นแหละที่ข้าชอบมอง” ข่งเชวี่ยพูดราบเรียบ

แต่หวังเยี่ยนกลับรู้สึกหนาวเย็น แอบเหงื่อตก นางนึกว่าตัวเองเลือดเย็นแล้ว เมื่อเจอเหตุการณ์นี้นางถึงได้รู้ว่าใต้หล้าปฐพีกว้างใหญ่ยิ่งนัก ยังมีหลายสิ่งและผู้คนอีกมากที่นางไม่เคยพบ

“เอาแส้มา” ข่งเชวี่ยหันไปสั่งหญิงสาวที่เอาแต่มองตกตะลึง

“อ้อ” หวังเยี่ยนตกใจ รีบไปหยิบแส้มาให้ชายหนุ่มเลือดเย็นอย่างรวดเร็ว คล้ายกลัวว่าหากช้าไปสักเล็กน้อย คนที่ถูกแขวนอาจเป็นนางเสียเอง แม้ข่งเชวี่ยจะรับรู้ถึงความหวาดกลัวของอีกฝ่ายแต่เขาไม่สนใจ เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าที่แท้นางเพียงกลัวว่าเวลาหลบหนีจะล่าช้าออกไป

ชายหนุ่มรับแส้มาและฟาดลงบนตัวของคนที่ถูกแขวนอย่างแรง คนที่ถูกฟาดตกใจจนส่งเสียงร้องออกมา แต่ไม่ได้เสียงดังมาก ฟังคล้ายเสียงหอบหายใจแรงๆ ปนเสียงร้องมากกว่า หวังเยี่ยนเองก็ตกใจจนสะดุ้งเช่นกัน

“ต้องทำรุนแรงเช่นนี้เลยหรือ” หญิงสาวแก้มป่องหน้าซีด

“ต้องให้คนข้างนอกได้ยินเสียง” ข่งเชวี่ยตอบ เขายังคงสงบนิ่ง ฟาดไปอีกหลายครั้ง จนเนื้อตัวของบุรุษผู้นั้นเต็มไปด้วยรอยเลือด

ในที่สุดเขาก็ถูกปลดลงจากเชือกมัดคอ เขาทั้งหอบทั้งไอจนน้ำมูกน้ำตาไหล ข่งเชวี่ยและหวังเยี่ยนได้แต่ยืนมองเขา กระทั่งเขาหายใจได้สะดวกมากขึ้น จึงพยายามลุกหนี ข่งเชวี่ยกลับเดินเข้าไปจะหักขาของเขาทิ้ง

“อย่านะ!” หวังเยี่ยนห้าม

“ทำไม เห็นใจมันหรือ เจ้าคนชั่วนี่ ทิ้งลูกและภรรยาเอาเงินมาเที่ยวหอนางโลมจนหมด ไม่พอ ยังฆ่าหญิงสาวและชายหนุ่มที่นี่ระหว่างร่วมหอไปหลายคน มันจึงเป็นผู้ที่สมควรตายแล้ว” ข่งเชวี่ยอธิบายเสียงเรียบ

“ไม่ใช่ หากเจ้าหักขาของเขา หลังจากที่ไฟมอดดับ จะมีคนรู้ว่าเขาถูกทำร้ายก่อนตาย ซึ่งผู้ต้องสงสัยก็คือเจ้านะ หากฆ่าคน การหลบหนีจะไม่ใช่เรื่องของหอจินอวิ๋นเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของกรมอาญา” หวังเยี่ยนเตือน

“...” ชายหนุ่มคิดตาม เขาเข้าใจสิ่งที่หญิงสาวตักเตือน หากเขาหลบหนี คนที่ไล่ตามจะมีเพียงผู้เสียผลประโยชน์คือหอจินอวิ๋นเท่านั้น แต่หากฆ่าคน เขาจะถูกทางการตามล่า ไปอยู่เมืองไหนก็ลำบากเพราะชื่อของเขาจะถูกตีตราว่าเป็นคนร้ายฆ่าคน

ข่งเชวี่ยเห็นถึงความฉลาดของหญิงสาว เขารู้ว่านางเป็นห่วงเขา ในใจรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด แม้เขากำลังจะฆ่าคน แต่ก็มีใครคนหนึ่งเป็นห่วงเขา คอยตักเตือนเขา และไม่หวาดกลัวเขา

“ขอบใจ” ข่งเชวี่ยหันไปบอกหญิงสาว แต่เขามีแผนอื่นอยู่แล้ว ชายหนุ่มยังคงเดินเข้าไปหักขาของบุรุษผู้นั้นอยู่ดี

“อ๊ากกกกก” คนถูกหักขาร้องออกมาเสียงดัง

“เจ้า!!” หวังเยี่ยนตกใจ

“เปิดช่องใต้เตียงซะ” ข่งเชวี่ยสั่ง ระหว่างที่เขาลากคนในมือออกมาไกลจากเตียงนอนสีแดงสด

หวังเยี่ยนแม้จะตกใจบ้าง แต่ไม่ได้หวาดกลัวดังเช่นที่สาวน้อยทั่วไปควรเป็น นางยังคงเดินไปเปิดช่องลับตามที่ข่งเชวี่ยคนสวยสั่งอย่างมั่นคง ไม่มีแม้อาการมือสั่น

“พวกเจ้า..แฮก..จะต้อง..ถูกลงโทษ ลูกข้าจะ..ต้องรู้แน่ว่าเกิดอะไร..เขาเป็นมือปราบ” ชายที่ถูกหักขารวบรวมกำลังส่งเสียงออกมาข่มขู่

“ภรรยาของเจ้าจะเสแสร้งว่าเจ้าโชคร้ายถูกไฟคลอกจนตาย ต่อให้รู้ว่าเจ้าถูกฆ่า นางก็จะโกหกว่าเจ้าถูกไฟคลอกต่อไปและยังห้ามลูกๆ ไม่ให้ตามสืบความจริง เพราะนางรอเวลาที่เจ้าตายมานานแล้ว ดังนั้นเจ้าจงตายเพื่อข้าเถิด” ข่งเชวี่ยมองคนข่มขู่ด้วยความรังเกียจ

“เจ้า..สารเลว..ข้าจะ..” อีกฝ่ายเจ็บใจที่เสียรู้ให้กับหนานจี้ [1] สกปรกผู้หนึ่งอย่างมาก แต่ทำได้เพียงขบฟัน

หวังเยี่ยนเปิดช่องลับออก กลิ่นสาบคละคลุ้งไปทั่วห้องนอนสีแดง

“เปิดตรงหัวเตียง” ข่งเชวี่ยหันไปสั่งหญิงสาวเพิ่ม

สตรีแก้มหมั่นโถวเปิดหัวเตียงออก ทันทีที่ดันหัวเตียงเปิด เตียงนอนก็ถูกไม้แผ่นหนึ่งดันขึ้นจนชิดกำแพง จากนั้นนางก็ต้องผวาอย่างแรง เพราะในช่องนั้นมีศพที่สภาพคล้ายถูกรมควันจนแห้ง ผิวดำทั่วตัว แยกไม่ออกว่าเป็นชายหรือหญิง สูงเกือบแปดฉื่อได้ กลิ่นสาบรุนแรงจนแทบอาเจียน

[1] หนานจี้ หมายถึง โสเภณีชาย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel