บทที่ 6 ถอดเสื้อผ้าสตรี
“เจ้าทำให้ข้ารวยแล้ว มาๆ ให้ข้าดูสิว่างามพอหรือยัง ตรงปากยังต้องใส่ชาดให้แดงอีกนิด” แม่เล้าเฟยเข้ามาในห้องของข่งเชวี่ย ช่วยเขาแต่งตัวอย่างอารมณ์ดี
“..ข้าย่อมต้องตอบแทนท่านที่ช่วยเลี้ยงดูข้ามาแต่เล็ก” ข่งเชวี่ยกัดฟันจนแน่น ระหว่างที่พูดประโยคนั้นออกไป เขาสาบานในใจว่าจะตอบแทนสตรีน่ารังเกียจผู้นี้อย่างดีที่สุด
หวังเยี่ยนได้แต่แอบฟังเงียบๆ อยู่ในช่องลับที่มีกลิ่นสาบรุนแรงนั้น นางฟังบทสนทนาแล้วรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง เพราะปกติพี่ข่งเชวี่ยจะไม่ยอมให้สาวใช้ช่วยแต่งตัว แต่วันนี้กลับยอมให้แม่เล้าช่วย
หญิงสาวไม่ได้มีโอกาสเห็นพี่ข่งเชวี่ยใส่ชุดสวยในวันสำคัญเช่นนี้ หากเป็นสตรีทั่วไป วันเช่นนี้ก็ไม่ต่างจากการแต่งงานออกเรือน แต่สำหรับนางโลมผู้หนึ่งกลับถูกทำเหมือนสินค้าไร้ความรู้สึกเท่านั้น
“เอาล่ะ งดงามมากแล้ว วันนี้ให้เลือกองค์หญิงนะเข้าใจหรือไม่ นางมาหาเจ้าเสมอ แต่เจ้ากลับเรื่องมากไม่ยอมนางสักที อย่าให้ข้าต้องเสียหน้า หอจินอวิ๋นของข้าหากได้องค์หญิงเป็นลูกค้าประจำ ข้าก็ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยแล้ว” แม่เล้าสั่งสอนข่งเชวี่ย ในน้ำเสียงยังคงเจือด้วยความยินดีตื่นเต้น
‘อะไรกัน แม่เล้าผู้นี้ แม้แต่ศักดิ์ศรีความเป็นสตรีก็ไม่ยอมให้พี่ข่งเชวี่ยได้รับแล้วหรือ สารเลวจริง การเข้าหอครั้งแรกของพี่ข่งเชวี่ยก็ยังจะบังคับให้ทำเรื่องเช่นนี้กับองค์หญิงอีกหรือ’ หวังเยี่ยนด่าทอแม่เล้าในใจ นางไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเหตุใดองค์หญิงผู้นั้นถึงได้นิยมชมชอบร่วมอภิรมย์กับสตรี
“...” ชายหนุ่มได้แต่เงียบไม่เอ่ยตอบ
“เหตุใดอยู่ๆ ถึงคิดจะทำเช่นนี้ ข้ายังแปลกใจไม่หายเลย” แม่เล้าเฟยถามอีก
“แค่..เข้าใจความลำบากของพวกท่านแล้วก็เท่านั้น” ข่งเชวี่ยโกหก
“เฮ้อ เช่นนั้นก็ดีแล้ว..เจ้าแน่ใจหรือว่าไม่ต้องถามท่านผู้นั้นก่อน หากว่า..หากวันหนึ่งเขาต้องการให้เจ้า..รับแขกสำคัญ..”
“ไม่ต้อง! เขาไม่สนใจเรื่องนี้ ขอเพียงข้ายังคงทำงานให้เขาพอใจทุกครั้งตามที่เขาต้องการ เรื่องนี้ก็ไร้ความหมาย อีกอย่าง การที่ข้าทำเช่นนี้ก็คือทำเพื่อเขา ท่านคิดว่าคืนนี้ได้เงินมากเท่าไรกัน” ชายหนุ่มอธิบายให้อีกฝ่ายคล้อยตามได้อย่างง่ายดาย
“จริงด้วย จริงด้วย เขาอยากให้เจ้าทำงานนี้นานแล้ว มีแต่เจ้าที่ดื้อดึง เจ้าเข้าใจเช่นนี้ได้ก็ดีแล้ว มา ข้าจะเป็นผู้พาเจ้าออกไปด้วยตัวเอง”
แม่เล้าประคองข่งเชวี่ยในชุดสีแดงงดงามออกจากห้อง
หวังเยี่ยนออกจากห้องลับมารออยู่ในห้องนานเกือบสองชั่วยาม ฟังเสียงโห่ร้องวุ่นวายของฝูงชนที่แตกตื่นกับงานประมูลอันล้ำค่า ระหว่างที่นางกำลังร้อนใจว่าพี่ข่งเชวี่ยอาจโกหกนาง ทิ้งนางให้ตายอยู่ในห้องนี้หรือไม่ นางก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมายังห้องนอนของข่งเชวี่ย นางจึงรีบซ่อนตัว
“ท่านใจเย็นหน่อย” เสียงของข่งเชวี่ยเตือน
“ใจเย็นอันใดอีก ข้าทุ่มหมดตัวให้เจ้า รอค่ำคืนนี้มานานจนแทบทนไม่ไหวแล้ว” เสียงเมามายของบุรุษเอ่ยตอบ
ข่งเชวี่ยตบลงไปบนมือของชายที่กำลังคลำไปตรงสะโพกของเขา ก่อนจะผลักประตู เขาเดินเข้ามาในห้องก่อนโดยไม่สนใจคนที่ประมูลเขาได้ แม้อีกฝ่ายจะเจ็บที่ถูกตี แต่ยังคงยิ้มโง่งมตามเข้ามาในห้อง
หวังเยี่ยนที่แอบอยู่ตรงผ้าม่านเห็นว่าคนที่พี่ข่งเชวี่ยเลือกมาเป็นชายรูปร่างล่ำสัน อายุไม่เกินสี่สิบ สูงไม่เท่าพี่ข่งเชวี่ยที่ใส่รองเท้าเสริมส้นด้วยซ้ำ ในใจของหวังเยี่ยนเริ่มกังวลอย่างหนัก เพราะจากท่าทางการเดินเขาเหมือนพวกทหารไม่มีผิด แม้ว่าจะแลดูเหมือนได้รับบาดเจ็บที่ขาก็ตาม
‘บ้าจริง เหตุใดนางเลือกบุรุษแข็งแกร่ง เช่นนี้เราสองคนที่อีกคนก็อ้วน อีกคนก็ตัวเล็กนิดเดียวอย่างข้าจะไปฆ่าเขาได้อย่างไรกัน’ หวังเยี่ยนบ่นในใจ เพราะถ้าตามที่พวกเขาวางแผนไว้คือต้องเลือกบัณฑิตอ่อนแอสักคนไม่ใช่หรือ ยามนี้นางจึงต้องรีบหาทางอื่นเสียแล้ว
“ท่านรอตรงนั้น” ข่งเชวี่ยเชิดหน้าหันไปสั่ง นิ้วชี้ไปบนเตียงที่เพิ่งเปลี่ยนเป็นผ้าสีแดงสดเมื่อเช้านี้
“ยังต้องรออีกหรือ”
“ข้า..ไม่ชอบทาแป้งจนเหนียวเหนอะหนะ ต้องล้างตัวให้สะอาดก่อน ท่าน..จะได้..มีความสุข..เต็มที่” คำโกหกของข่งเชวี่ยขาดๆ หายๆ เพราะความรังเกียจที่แทบปิดไม่มิด
แต่บุรุษผู้นั้นกลับเข้าใจผิด คิดว่าข่งเชวี่ยเขินอาย
“ได้ ข้ารอเจ้ามาตลอด มาเมื่อไรเจ้าก็ปฏิเสธข้า ไม่คิดว่าวันนี้เจ้าจะเลือกข้า ถึงข้าจะแทบคลั่งอยู่แล้ว แต่หากเจ้าให้รอ ข้าก็จะรอ ฮ่า ๆ ๆ ๆ”
ข่งเชวี่ยรีบเดินเข้ามาในส่วนห้องที่กั้นไว้ให้หวังเยี่ยน เพราะเขาอึดอัดกับสายตาของชายสกปรกจนแทบจะอาเจียนอยู่แล้ว แต่ยังคงทนไว้
หวังเยี่ยนรีบมาช่วยพี่ข่งเชวี่ยถอดเสื้อผ้า พร้อมกับบ่นเสียงเบา
“เหตุใดท่านเลือกคนนี้ ตามแผนท่านต้องเลือกบัณฑิตอ่อนแอไม่ใช่หรือ เช่นนี้พวกเราจะจัดการมันอย่างไร”
“ไม่ต้องห่วง” ข่งเชวี่ยกระซิบตอบ
“ไม่ห่วงได้หรือ เราสองคนคงไม่มีแรงสู้บุรุษแข็งแกร่งเช่นนั้นหรอก”
“ข้าบอกว่าไม่ต้องห่วง” ข่งเชวี่ยส่งสายตาพิฆาตพร้อมกับกระซิบเสียงดุตอบ
หวังเยี่ยนขมวดคิ้วกังวลใจมาก แต่ข่งเชวี่ยกลับทำเพียงถอดชุดแดงภายนอกและเดินหายไปในห้องอาบน้ำ
ไม่นานข่งเชวี่ยก็ออกมาในชุดชั้นในสีขาวที่มีเพียงเสื้อตัวบางและกางเกงขายาว หวังเยี่ยนมองอย่างตกตะลึง ที่แท้เขาเป็นบุรุษ อีกทั้งไม่ได้อ้วนเลยสักนิด ออกจะผอมมากเกินไปด้วยซ้ำ แต่เพราะเสื้อผ้าหลายชั้นที่จงใจใส่ให้ดูอ้วนท้วมเพื่อปกปิดไหล่กว้างของเขา
หลายวันก่อนหวังเยี่ยนไม่เข้าใจว่าเหตุใดเขากินข้าวเพียงนิดเดียวแต่กลับตัวอ้วน ไม่สมเหตุสมผลกับรูปร่างของพี่ข่งเชวี่ย วันนี้นางรู้แล้วว่าเขาไม่ได้อ้วน เป็นนางที่โง่เขลาเอง
พี่ข่งเชวี่ยคนนั้นยังตัวสูงมาก วัดด้วยสายตาคงสูงแปดฉื่อได้ แต่เพราะรองเท้าเทอะทะทำให้เขาดูตัวเตี้ยเกินความจริงไปมาก มิน่าเขาจึงไม่ยอมให้ใครแต่งตัวให้เลย เพราะทันทีที่ถอดเสื้อออกก็จะเห็นลูกกระเดือกของเขาอย่างชัดเจน แม่เล้าคงเป็นคนที่รู้ความลับของเขาแน่
“จะตกใจอีกนานไหม” เขาส่งสายตาดุถาม เพราะหญิงสาวเอาแต่อ้าปากและหุบปาก เสียงของเขายังคงเล็กแหลม แม้ไม่ได้เหมือนสตรีเท่าไร แต่ฟังแล้วก็ไม่อาจแยกได้ว่าเป็นบุรุษหรือสตรี เพราะก็มีหญิงสาวคนที่เสียงแหบใหญ่กว่าปกติมากเช่นกัน
“เจ้าพูดกับใคร” เสียงของบุรุษอีกคนที่รอข่งเชวี่ยอยู่เอ่ยถามจากด้านอก
