ตอนที่7 จำนน
ผืนป่ายืนอยู่ใต้ฝักบัวอย่างไม่ทุกข์ร้อนอะไรกับสิ่งที่จะตามมาพรุ่งนี้ เพราะเขามั่นใจว่าสามารถทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องตอบคำถามใดที่เมลินญาสงสัยใคร่รู้ เลือกใช้การกระทำของเขานำพาเธอไปซึ่งการปล่อยผ่านเหมือนที่ผ่านมา ยอมจำนนต่อความรู้สึกและสิ่งที่ได้รับจากเขาอย่างง่ายดาย
“เมรักพี่ป่ามากนะ อย่าผิดสัญญากับเมอีกได้ไหม”
เหมือนคำขอที่เธอเอ่ยออกมา และเขาไม่ได้รับปากเธอกลับไป
ไม่ใช่เพราะอยากผิดสัญญากับเธอ แต่เขารู้ดีว่าเรื่องแบบนี้มันอาจจะเกิดขึ้นอีกในเวลาใดเวลาหนึ่ง เพราะฉะนั้นการไม่รับปากก็ถือว่าไม่ได้ผิดคำพูด
เมื่อจัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อยด้วยเวลาสั้นๆ ผืนป่าก็ออกมาล้มตัวนอนข้างกายเธอเหมือนทุกค่ำคืน ดึงเธอเข้ามากอดไว้ราวกับหมอนข้างที่ขาดไม่ได้ มองใบหน้าสวยยามหลับที่ไร้เดียงสาราวกับเด็กน้อย
“ฉันให้ความสำคัญกับเธอได้ทุกอย่าง ถ้าเรื่องนั้นไม่ได้มีคนสำคัญกว่า” ผืนป่าพูดกับร่างบางที่หลับใหลอยู่บนเตียง ก้มลงไปจูบหน้าผากนูนของเธอก่อนจะวางหัวลงหมอนยื่นมือไปปิดไฟ และกอดเธอไว้ในอ้อมแขน
ส่วนเหตุผลที่เขาผิดนัดเธออย่างไม่ได้ตั้งใจในตอนแรกก็เพราะ...
“ทำไมถึงออกมาที่แบบนี้” น้ำเสียงตำหนิแต่กลับเต็มไปด้วยความเป็นห่วงของผืนป่าดังขึ้นพูดกับหญิงสาวตรงหน้าทันทีที่เดินมาถึง
คนที่สำคัญที่สุดในชีวิตเขา คนที่ไม่ว่าจะเรียกหาเขาเมื่อไหร่ก็จะได้เจอเมื่อนั้น
สำคัญมากกว่าผู้หญิงที่ได้ชื่อว่า...ภรรยา
เหมือนกับวันนี้ที่เธอโทรหาเขาเมื่อไม่กี่สิบนาทีก่อนระหว่างที่เขากำลังเดินทางไปร้านอาหารตามนัดกับเมลินญา ทั้งที่อีกไม่ไกลก็จะถึงที่หมาย แต่พอมีสายเรียกเข้าและเป็นสายของเธอเข้ามา จุดหมายปลายทางของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นร้านอาหารกึ่งบาร์อีกแห่งที่เธออยู่แทน
“แค่เบื่อๆ ค่ะ” เอม หรือ เอมิกา ตอบกลับผืนป่าออกมาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความคิดมากมายในหัว
“แต่เอมท้องอยู่นะ ไม่ควรมาที่แบบนี้” เธอควรพักผ่อนไม่เข้าสถานที่ที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์แบบนี้ ไหนจะกลิ่นบุหรี่ติดตัวของบางคนอีก
“เอมไม่ได้ดื่มเหล้าสักหน่อย” เพราะท้องเธอทำได้เพียงดื่มน้ำเปล่า น้ำผลไม้ แล้วก็วนน้ำอัดลมสลับกันไป
“เขาทำอะไรอีกล่ะ” ผืนป่าที่นั่งข้างๆ ถามขึ้นด้วยความห่วงใยและ...เจ็บปวด
“.....” เอมิกาส่ายหัวไม่ตอบ มองสบตากับคนข้างกายอย่างสื่อความหมายบางอย่างเหมือนอดีตที่เคยมองเขา
“.....” ผืนป่ามองสบตากับเธอด้วยความรู้สึกที่มากกว่าที่เธอเป็น แต่ก็ทำได้เพียงเงียบและแก้ไขอะไรไม่ได้ ถ้าทุกอย่างเป็นสิ่งที่เธอเลือก
“พี่ป่าล่ะ ตอนนี้มีความสุขกับเธอไหม” เอมิกาที่ไม่ได้ละสายตาไปจากเขา ย้อนถามถึงเรื่องของเขากลับบ้าง
“เรื่อยๆ” จริงๆ เขามีความสุขมากหากใช้ชีวิตปกติโดยไม่นับรวมเรื่องของเอมิกา แต่มันคือคำต้องห้ามที่เขาจะไม่เอ่ยออกไปต่อหน้าเธออย่างรู้ดี
“แค่นั้นเองเหรอ เธอทั้งสาวทั้งสวย กลัวว่าสุดท้ายจะหลงเธอจนเอมกลายเป็นหมาหัวเน่า” น้ำเสียงประชดประชันกึ่งเล่นกึ่งจริงดังขึ้นหลังได้ฟังคำพูดของเขา
เป็นการดักทางผืนป่าไว้ อย่างไม่ให้เขาเห็นใครสำคัญกว่าเธอ
“เอมก็รู้ว่าสำหรับพี่ใครสำคัญที่สุด” คำตอบพร้อมกับแววตาที่สื่อออกมาอย่างไม่ปิดบังสบเข้ากับดวงตาของเธอ
“แต่เอมกลัวจริงๆ นะ ว่าวันหนึ่งพี่ป่าจะเห็นคนอื่นสำคัญกว่าเอม” น้ำเสียงและแววตาหวาดหวั่นสื่อออกมาขณะพูด
แต่นั่นเพราะมันออกจากความรู้สึกจริงของเธอ สิ่งที่เธอไม่อยากให้เกิดขึ้นและจะไม่มีทางยอมให้เกิดขึ้นเด็ดขาด
เธอต้องเป็นคนที่สำคัญที่สุดเสมอไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนก็ตาม
“เอมก็รู้ว่าทุกอย่างเพื่ออะไร” เธอรู้ดีไม่ต่างจากเขา หรือถ้าพูดให้ถูกก็รู้ทุกอย่างนั่นแหละ แม้อาจจะมีบางอย่างที่เขาเปลี่ยนไปบ้างระหว่างทาง แต่สุดท้ายเป้าหมายหลักก็ยังคงเดิม
แม้คำตอบจะดูไม่ตรงคำถาม แต่การไม่เอ่ยออกมาตรงๆ มันเป็นคำตอบแล้วไม่ใช่เหรอว่าความสุขของเขาคืออะไร...และเป็นใคร
“สัญญานะ ว่าจะเห็นเอมสำคัญที่สุด” เธอย้ำเตือนกับเขาเพื่อคำสัญญา
“เอมก็รู้ว่าเอมเป็นคนที่สำคัญที่สุดสำหรับพี่” เขาปลอบประโลมด้วยความจริงอย่างอ่อนโยน
เธอที่เขามีให้ทุกอย่างและยอมได้ทุกอย่างตลอดมา...และมันจะเป็นแบบนี้ตลอดไป
“ได้ยินแบบนี้แล้วมีความสุขจัง” ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาทำได้ทุกอย่างเพื่อเธอ หากความรู้สึกเธอไม่เปลี่ยนไป คนข้างกายเขาก็คงเป็นเธอ
แต่ถึงสถานะหลายอย่างจะเปลี่ยนไป แต่ความสำคัญสำหรับเขา ก็ยังคงเป็นเธอไม่เปลี่ยน
เพราะมีเรื่องสำคัญกับคนที่สำคัญกว่าเลยทำให้ผืนป่าผิดนัดกับเมลินญาและไม่คิดจะสนใจโทรศัพท์เหมือนทุกครั้งเมื่ออยู่กับเอมิกาเพราะเธอไม่ชอบ อยู่เป็นเพื่อนจนเธออยากกลับบ้านมันก็เลยเวลานัดมานานแล้ว ซึ่งเขาก็ไม่ได้ตกใจอะไรมาก นอกจากรู้สึกผิดเพราะวันนี้ถือว่าเป็นวันพิเศษกว่าที่ผ่านมานั่นเลยทำให้เขาโทรหาเธอทันทีที่ว่าง พอเธอไม่รับก็ขับรถกลับบ้านและได้เจอรถของเธอที่สวนสาธารณะ ลงไปหาเธออย่างเห็นใจ
รู้ว่าเธอไม่ได้ผิดอะไร นั่นเลยทำให้เขาพยายามทำหน้าที่สามีของตัวเองตามกำลังและความสามารถให้ดีที่สุดเพื่อไม่ทำร้ายเธอมากกว่านี้
แม้จะรู้ว่าปลายทางเธอจะต้องเจ็บปวดก็ตาม
เมลินญาตื่นขึ้นมาตอนเช้าพร้อมกับความว่างเปล่าของที่นอนข้างๆ ขยับตัวลุกขึ้นนั่งด้วยความงัวเงียเล็กน้อย ก่อนจะพาตัวเองเข้าห้องน้ำไปทำธุระส่วนตัวแล้วก็ลงไปข้างล่าง
“ยังไม่ไปทำงานอีกเหรอคะ” เมื่อลงมาเห็นผืนป่าอยู่ในบ้านก็ถามขึ้นด้วยความแปลกใจ เพราะนี่มันเลยเวลาออกไปทำงานของเขาแล้ว
ปกติเธอจะตื่นก่อนเขาแล้วเป็นฝ่ายตระเตรียมทุกอย่างเพื่อความสะดวกให้กับสามี แต่หากวันไหนที่เขากัดกินเธออย่างตะกละตะกลามเธอมักจะตื่นสายกว่าปกติ แต่เขาก็ไม่เคยตำหนิซ้ำยังแสดงความห่วงใยแก่เธอกลับมา
“คืนไหนที่เหนื่อยมากไม่ต้องรีบตื่นมาดูแลพี่”
“เข้าสายน่ะ” ผืนป่าตอบพร้อมกับเดินมาจูงมือเธอไปนั่งที่โต๊ะอาหาร แล้วเดินหายเข้าไปในครัวก่อนจะกลับมาพร้อมกับจานสองมือ
“เดี๋ยวเมช่วย...”
“นั่งลง” เขาสั่งเธอเสียงเรียบจนเธอยู่ปากทิ้งตัวนั่งลงที่เดิมคืน
“พี่ป่าทำเองเลยเหรอคะ” แววของเมลิญาเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น
แม้จะเป็นเมนูง่ายๆ อย่างเช่นข้าวผัดอเมริกัน เคียงไปด้วยไส้กรอก ไข่ดาว แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่ความตั้งใจของคนทำไม่ใช่เหรอ
“อืม” เป็นสิ่งที่เขาคิดไว้ตั้งแต่เมื่อคืนเพื่อไถ่โทษให้กับการผิดนัดกับเธอ
ตอบเสร็จก็เดินกลับไปที่ครัวอีกครั้งพร้อมกับถาดเครื่องดื่มและจานขนมปังปิ้งโดยมีแยมกับเนยพร้อม
“หายโกรธนะ” ผืนป่านั่งลงมองหน้าเมลินญา ยื่นมือไปเกลี่ยแก้มเนียนของเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าราบเรียบตรงข้ามกับการกระทำอ่อนโยน
“พี่ป่าสัญญาได้ไหมว่าจะไม่ผิดนัดกับเมอีกแล้ว” เอียงใบหน้าสวยยกมือทับฝ่ามือใหญ่ที่กุมแก้มตัวเองแล้วร้องขอสิ่งที่ต้องการออกไป
แม้จะยังไม่ได้ความกระจ่างเรื่องเมื่อคืน แต่เธอก็ไม่อยากทะเลาะกับเขาเลยจริงๆ
แต่ก็คาดหวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
“พี่จะพยายามไม่ให้มีอะไรแทรกเข้ามา” แม้จะไม่ชัดเจนนักแต่เขาก็พูดออกมาอย่างหนักแน่นจริงจัง เพราะถึงยังไงเขาก็ไม่เคยคิดหลอกเธอในการนัดหมายแต่ละครั้ง
เพียงแต่สุดท้ายก็มักจะเกิดเรื่องแทรกขึ้นก่อน ทำให้เขาต้องผิดนัดไปอย่างไม่ได้ตั้งใจทุกรอบ
“เมไม่โกรธแล้วก็ได้ค่ะ” เหมือนจะใจง่ายไปหมดเมื่อเป็นเขา แต่การใช้ชีวิตคู่มันก็แบบนี้ไม่ใช่เหรอ มีผิดใจและกระทบกระทั่งกันบ้าง เมื่อพูดคุยกันเข้าใจแล้วก็อย่าไปยึดติดหรือถือทิฐิจนเรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่
“กินเถอะ” ผืนป่าได้ยินแบบนั้นก็ยกยิ้มออกมาเล็กน้อย ชวนเธอกินมื้อเช้าที่เขาลงมือทำเองทุกขั้นตอน
“อร่อยจังเลยค่ะ” ข้าวผัดคำแรกถูกตักเข้าปากและก็ตามด้วยคำชมที่สุขล้นจนรอยยิ้มแทบฉีกถึงหู
“อร่อยก็กินให้หมด” ความสดใสของเธอก็ทำให้ผืนป่ายิ้มตามออกมาได้อย่างไม่รู้ตัวเมื่อเห็นรอยยิ้มนั่น
“ไม่ต้องห่วง เมจะกินไม่ให้เหลือแน่”
สุดท้ายมันก็ง่ายเหมือนที่ผืนป่าคิดไว้ไม่ผิด เธอจำนนต่อความรักและการกระทำของเขาอย่างง่ายดาย
