
บทย่อ
คนเรามักจะมีใครสักคนที่สำคัญที่สุดในชีวิต เหมือนที่สามีของเธอ ไม่ได้มีภรรยาคนนี้เป็นคนนั้นที่สำคัญ
ตอนที่1 บทนำ
ฉากจบของนิยายหรือละครส่วนใหญ่มักจะลงเอยด้วยความสุข ท่ามกลางงานวิวาห์ที่แสนชื่นมื่นของพระเอกนางเอก เป็นความน่าอิจฉาที่เหมาะกับคำว่า Happy Ending
แต่จะมีสักกี่คนกันที่จะสนใจหาคำตอบว่าชีวิตหลังจากนั้นของพวกเขาจะดำเนินกันไปในทิศทางไหน การแต่งงานมันคือบทสรุปของความสุข หรือจริงๆ มันคือจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่กันแน่
บรรยากาศในร้านอาหารกลางสวนยามค่ำคืนประดับประดาไปด้วยแสงไฟสีนวลตา คลอด้วยเสียงดนตรีเบาๆ รับกับลมเย็นๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นบรรยากาศที่โรแมนติกไม่น้อย
เหมือนคู่รักชายหญิงที่เคยนั่งตรงข้ามกันในคราแรก ตอนนี้ฝ่ายชายกลับลุกจากเก้าอี้ตัวเองและมานั่งอยู่ที่เก้าอี้ข้างๆ หญิงสาว เขาโอบประคองฝ่ามือบางของเธอขึ้นมา มองสบตาด้วยแววตาหวานซึ้งเต็มไปด้วยความเสน่หา มืออีกข้างล้วงหยิบบางอย่างออกจากกระเป๋า
“แต่งงานกับพี่นะ” คำขอที่ดังขึ้นพร้อมกับแหวนเพชรในมือ ทำให้หญิงสาวที่กำลังถูกขอแต่งงานรู้สึกตกใจและตื้นตันในเวลาเดียวกัน
“พี่ป่า” น้ำเสียงสั่นเครือไม่อยากเชื่อดังขึ้น เพราะเขาไม่เคยมีท่าทีจะทำเรื่องแบบนี้มาก่อน ไม่แม้แต่จะเคยคุยวางแผนอะไรกับเธอล่วงหน้า แต่วันนี้เขากลับมาขอเธอแต่งงาน
“พี่อยากดูแลและสร้างครอบครัวกับเม เมรับพี่เป็นสามีได้หรือเปล่า” ป่า หรือ ผืนป่า ถามย้ำหญิงสาวตรงหน้าด้วยน้ำเสียงอบอุ่นแววตาอ่อนโยน เป็นแบบนี้เสมอมาตั้งแต่คบหากับเธอ
“ค่ะ เมแต่งงานกับพี่” แทบไม่เสียเวลาคิดเลยสักนิด เมื่อหายตกใจ เม หรือ เมลินญา ก็ตอบรับคำขอของคนรักกลับไปอย่างไม่ลังเล
แม้ว่าเธอกับเขาจะพึ่งคบหากันมายังไม่ถึงครึ่งปี แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราเจอหน้ากันทุกวัน อยู่ด้วยกันทุกค่ำคืน ได้ใช้เวลาและลองใช้ชีวิตด้วยกันมาก่อนแล้ว ทุกอย่างเต็มไปด้วยความสุขและรอยยิ้ม
ที่มากกว่านั้น ตอนนี้เธอมีเพียงตัวคนเดียว พ่อแม่พึ่งจากไปจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดเมื่อปีก่อน ชีวิตเคยรู้สึกโดดเดี่ยวและอยากมีใครสักคนอยู่ในช่วงชีวิต และตั้งแต่มีเขาเข้ามาก็เติมเต็มทุกอย่างให้เธออีกครั้ง เคียงข้างและให้คำปรึกษากับเธอมาอย่างดี
เธอรักเขามาก และก็รู้ว่าเขารักเธอด้วยเช่นกัน แม้ระยะเวลาที่รู้จักกันอาจจะน้อยไปสำหรับใครหลายๆ คน แต่นั่นไม่ใช่ตัวชี้วัดสำหรับเธอ เพราะเธอรักและพร้อมจะสร้างครอบครัวกับเขาแล้วเช่นกัน
“ขอบคุณครับ” ผืนป่าพูดด้วยรอยยิ้มอบอุ่นก่อนจะบรรจงสวมแหวนลงที่นิ้วนางข้างซ้ายของเธออย่างอ่อนโยนทะนุถนอม
ซึ่งภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้ามันทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังฝันไป เหมือนกับว่าตอนนี้มันไม่ใช่ความจริง แต่อัตราการเต้นของหัวใจกำลังบอกว่าทุกอย่างคือเรื่องจริง และมันก็ทำให้เธอน้ำตาคลอก่อนจะหยดไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“เมไม่เหมาะกับน้ำตา” คำพูดแสนอบอุ่นดังขึ้นพร้อมกับนิ้วหัวแม่มือของเขาเกลี่ยไล้น้ำตาออกจากใบหน้าเธออย่างแผ่วเบา
“เมมีความสุขนี่คะ” มีความสุขจนไม่เสียดายน้ำตาที่หลั่งไหลออกมาเลยสักนิด เพราะมันคือน้ำตาแห่งความสุขของเธอ
“พี่ดีใจนะที่เป็นความสุขให้เมได้” เขายกยิ้มอ่อนโยนแล้วพูดออกมาอย่างเอ็นดู
“พึ่งจะรู้เอาตอนนี้เหรอคะ” เธอพูดจบก็พุ่งไปกอดเขาด้วยความรัก และซึมซับความอบอุ่นจากร่างแกร่งของว่าที่สามีตัวเองโดยที่เขาก็กอดตอบเธอด้วยเช่นกัน
กระทั่ง…
ร่างระหงของหญิงสาวที่อยู่ในชุดวิวาห์ทรง ball Gown สีขาวดุจดั่งเจ้าหญิง ดวงหน้าเล็กงดงามถูกแต่งแต้มอย่างน่าหลงไหลจนละสายตาไม่ได้ เธอเดินเคียงข้างมาพร้อมกับผู้เป็นอา ญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ทำหน้าที่จูงมือนำพาสู่บทชีวิตใหม่ให้ใครอีกคนดูแล
หน้าอกข้างซ้ายไหวกระเพื่อมแทบทะลุออกมาเมื่ออีกไม่กี่ย่างก้าวก็จะถึงตัวบุรุษรูปงามที่ยืนรอรับเธออยู่ เขาที่กำลังก้าวออกมาจากตำแหน่งยืนสามสี่ก้าว ในที่สุดก็หยุดตรงหน้าเธอ ยกยิ้มอ่อนโยนให้ก่อนจะรับมือของเธอไปโอบประคองไว้ด้วยตัวเอง
พิธีแต่งงานแบบรวบรัดและเรียบง่ายตามความต้องการของฝ่ายหญิงที่ไม่ได้เหลือญาติมิตรและเน้นความอบอุ่นรวดเร็ว เธอไม่แม้แต่จะเรียกสินสอดทองหมั้นสักบาท เพียงแต่ว่าที่สามีที่ต้องการแสดงความรักเขาจึงสั่งทำแหวนให้เธอขนาดห้ากะรัตในพิธีแต่งงานโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า ซึ่งแค่นี้มันก็ทำให้เมลินญามีความสุขและตื้นตันมากเกินพอแล้ว
แหวนเพรชเม็ดงามถูกบรรยจงสวมลงนิ้วนางข้างซ้ายของเจ้าสาวทับซ้อนอีกวงที่เคยสวมในตอนขอแต่งงานจากฝีมือของเจ้าบ่าว และเจ้าสาวก็ไม่รีรอจะเป็นฝ่ายกระทำเช่นเดียวกันกลับคืนไป
เมื่อแหวนสองวงได้โอบรัดนิ้วนางข้างซ้ายของพวกเขาท่ามกลางสักขีพยานหลายสิบชีวิต ทั้งสองก็จูงมือกันไปยังโต๊ะที่ถูกจัดเตรียมไว้ จรดปลายปากกาลงกระดาษทางการที่ยืนยันได้ว่าเขาและเธอได้เป็นสามีภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นที่เรียบร้อย
คู่สามีภรรยาหมาดๆ หันมองหน้ากันท่ามกลางใบหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้ม ยืนยันความสุขของการเริ่มต้นชีวิตคู่...ที่คงมีอีกหลายอย่างรอให้เรียนรู้
