บทที่ 3 แผนคนเจ้าเล่ห์
แพรลตากล่าวอย่างยิ้มแย้มและรู้สึกมีความสุขกับบรรยากาศและวิวทิวทัศน์ของที่นี่ สาวน้อยก็ไม่รอช้าเมื่อนายเส¬ริฐกล่าวอนุญาติว่าเธอสามารถเด็ดผลไม้มากินได้แล้ว เธอจึงรีบเอื้อมมือบางขึ้นไปคว้าเก็บผลส้มมาไว้ที่มือของตนเองสามลูกด้วยกัน ก่อนที่เธอและนายเสริฐจะขึ้นรถขับออกไปจากจุดนั้น
พัสกรที่กำลังเดินตรวจงานอยู่ภายในโรงงานแปรรูปที่มีขนาดใหญ่พอควร โรงงานแห่งนี้ทั้งเป็นโรงงานผลิตน้ำส้มเกรดชั้นดีกับผลิตไวน์องุ่นเพื่อส่งออกนอก เรียกได้ว่าสร้างมูลค่ามากมายหลายร้อยล้านบาทต่อปีให้กับพัสกร อีกทั้งองุ่นกับส้มในไร่ยังส่งเป็นผลไม้สดเข้าสู่ตลาดในประเทศและต่างประเทศอีกด้วย
เสียงเพลงรอสายจากโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูในกระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ตของพัสกร ทำให้ชายหนุ่มต้องรีบล้วงมือไปหยิบจากในกระเป๋าเสื้อออกมากดรับสาย
“ว่าไงไอ้เสริฐแกหายหัวไปไหนมา อย่าให้ฉันรู้นะว่าแกไปกกสาวที่ไหน นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วหรือแกอยากถูกเปลี่ยนตำแหน่งกันแน่ฮะ”
“โถ... เจ้านายครับฟังผมก่อนสิครับ วันนี้ที่ผมไม่มาทำงานเพราะนายหญิงใหญ่สั่งให้ผมเป็นคนขับรถให้กับคุณหนูแพรลตาต่างหากล่ะครับ นี่ผมเองก็กำลังจะพาคุณหนูแพรลตาเข้าไปที่โรงงาน แถมคุณนายฝากผมมาบอกเจ้าไหนว่าให้เจ้านายกลับมาพักที่คฤหาสน์ด้วยครับ ไม่อย่างนั้นคุณนายจะเป็นคนไปเผากระท่อมท้ายไร่ของเจ้านายด้วยตนเอง ถ้าวันนี้เจ้านายยังไม่กลับมานอนที่คฤหาสน์อีกครับ”
บทที่ 2 คำว่าแก่ที่ยอมรับไม่ได้
“เออ… กูรู้แล้ว แม่นั่นนึกอยากจะมาเที่ยวชมไร่แห่งนี้มากนักใช่ไหม หรือว่าคิดอยากจะมาจับฉันกันแน่ ในเมื่ออยากจะมาเป็นเมียของฉันในอนาคต งั้นก็ต้องผ่านการทดลองงานจากฉันซะก่อน ฉันก็อยากจะรู้ว่าเธอจะทนฉันและงานในไร่แห่งนี้ได้นานสักแค่ไหนกันเชียว แกรีบ ๆ พาเธอมาที่นี่เลยฉันจะรอต้อนรับเป็นอย่างดี อย่าเพิ่งบอกเธอเสียล่ะว่าฉันอยู่ที่นี่เข้าใจไหมไอ้เสริฐ”
“เข้าใจแล้วครับเจ้านาย ผมขอตัวก่อนนะครับเดี๋ยวคุณหนูแพรลตาจะสงสัย ผมอุตส่าห์ขอตัวเดินแยกจากเธอด้วยการโกหกว่าขอไปฉี่แป๊บเดียวเท่านั้น”
“เออ… มึงรีบวางสายไปเลย”
พัสกรกล่าวตะคอกเสียงดังใส่ลูกน้องคนสนิท ในขณะที่สมองอันชาญฉลาดของเขากับสีหน้าที่ยิ้มเผยความเจ้าเล่ห์และแผนการมากมายที่คิดขึ้นมาได้
“แล้วเราจะได้เห็นดีกัน ว่าเธอจะทนได้นานสักแค่ไหน”
ไม่ถึงสามสิบนาทีด้วยซ้ำทั้งสองก็เดินเข้ามาด้านในของโรงงาน โดยที่มือของสาวน้อยกำลังนำชิ้นส้มเข้าปากจิ้มลิ้มของเธอเคี้ยวกินอย่างเอร็ดอร่อย
“ส้มของที่นี่หวานมากเลยนะคะพี่เสริฐ”
“ใช่ครับคุณหนู ส้มของที่นี่ทุกวันนี้มีออเดอร์เข้ามามากมายเรียกได้ว่าแทบล้นเลยนะครับ ถ้าคุณหนูชอบขากลับคุณหนูก็แวะไปเก็บอีกเยอะ ๆ ไปทานที่คฤหาสน์ก็ได้นี่ครับ”
“ไอ้เสริฐ แกเป็นเจ้าของไร่หรือยังไงกัน ถึงได้กล้าเอ่ยอนุญาตให้เธอเก็บส้มกินในไร่แห่งนี้ได้”
น้ำเสียงกล่าวตะคอกที่ดังมาแต่ไกลพร้อมร่างสูงหุ่นดี ทำให้สาวน้อยถึงกับสะดุ้งตกใจในขณะที่นายเสริฐได้แต่หน้าซีดเหมือนไก่ต้มไม่กล้าสบสายตาอันคมดุของเจ้านายหนุ่ม
“ขอโทษด้วยนะคะพี่เสือ ที่น้องแพรไม่ได้ขออนุญาตพี่เสือเสียก่อน”
“ใครเป็นพี่ของเธอ ยัยเด็กบ้า เธออย่าคิดว่าแม่ของฉันอยากจะได้เธอมาเป็นลูกสะใภ้แล้วเธอจะมาวางตัวราวกับเป็นเจ้าของไร่ นึกอยากจะเก็บผลไม้ในไร่นี้กินเมื่อไหร่ก็ได้”
น้ำเสียงกับใบหน้าที่แสนดุของพัสกรทำให้สาวน้อยถึงกับตัวสั่นไม่กล้าหยิบส้มที่เหลือในมือขึ้นมากินอีก
“เปล่าเลยนะคะ หนูแพรไม่ได้มีความคิดอย่างนั้นเลย อีกอย่างเรื่องที่คุณป้าอยากได้หนูแพรมาเป็นลูกสะใภ้ให้แต่งงานกับคุณ หนูแพรเองก็ไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่หรอกค่ะ”
“ไม่ค่อยเต็มใจอย่างนั้นเหรอ งั้นก็แสดงว่าเธอต้องมีความเต็มใจอยู่ในนั้นด้วยห้าสิบเปอร์เซ็นต์น่ะสิ”
“เปล่านะคะหนูไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นสักหน่อย หนูก็แค่ใช้คำพูดผิดไปเท่านั้นเองค่ะ”
“ไอ้เสริฐแกจะมัวยืนอยู่ตรงนี้อีกนานไหมไปทำงานของแกซะสิ ส่วนยัยเด็กนี่เดี๋ยวฉันจะเป็นไกด์ดูแลต่อเองรับรองได้ว่าแม่ฉันต้องพอใจกับการดูแลแขกคนพิเศษของแม่ฉันอย่างแน่นอน”
“อุ๊ย… คุณปล่อยมือฉันนะ ฉันมากับพี่เสริฐฉันไม่ไปกับคุณหรอก”
เธอรู้สึกตกใจเมื่อชายหนุ่มกำข้อมือเธอแน่นพร้อมดึงกระชากให้เดินตามเขา
“เธอกล้าขัดขืนฉันงั้นเหรอ ตอนนี้ที่นี่เป็นถิ่นของฉันไม่ใช่ถิ่นของเธออย่าคิดมาออกคำสั่งกับฉันเป็นอันขาดยัยตัวเล็ก แค่รูปร่างระหว่างเธอกับฉันก็แตกต่างกันแล้ว”
ชายหนุ่มกล่าวอย่างเยาะเย้ยปนข่มขู่ให้กับแพรล¬ตาที่มีความสูงเพียงแค่หัวไหล่ของเขาเท่านั้น ชายหนุ่มดึงกระชากให้สาวน้อยไปที่ห้องทำงานของเขา ต่อให้เธอจะพยายามขัดขืนมากแค่ไหนก็ตาม
แต่สุดท้ายแล้วสาวน้อยก็สู้แรงคนตัวโตไม่ได้อยู่ดี ในขณะที่นายเสริฐได้แต่เหลียวหลังหันกลับมามองหนุ่มสาวทั้งสองที่กำลังยื้อยุดฉุดลากกระชากกันจนหายลับตาไปในห้องทำงานของเจ้านายหนุ่มด้วยความเป็นห่วงสาวน้อยชาวกรุงคนนี้
