บทที่3 สั่งสอน
หลังจากแวะกลับไปเอารถที่บ้านพ่อแม่บุตรธรรมแล้วพระพายก็ขับรถตรงไปยังตลาดสดทันทีเพราะจะไปห้างก็ไม่ได้ตอนนี้แค่เจ็ดโมงเช้าห้างยังไม่เปิด
เธอเดินเลือกซื้อเฉพาะของที่จำเป็นสำหรับทำอาหารในวันนี้ไม่ว่าจะเป็นเนื้อ ไก่ กุ้ง ปลาหมึก ผักสดและเครื่องปรุงต่าง ๆ เมื่อจ่ายตลาดเสร็จก็ขับรถตรงกลับบ้านทันที
ลมหายใจหนัก ๆ ถูกพ่นออกจากจมูกโด่งรั้นเบา ๆ เมื่อก้าวเท้าเข้ามาในบ้านก็พบกับร่างสูงที่นั่งไขว้ห้างกอดอกอยู่บนโซฟาในห้องโถง
เธอแสร้งทำเหมือนไม่เห็นเขารีบส่าวเท้าเดินผ่านเข้าไปในครัว แต่ก็มิวายยังโดนอีกคนพูดจากระแทกแดกดันตามหลัง “ทำไมไม่กลับมาพรุ่งนี้เลยล่ะ ชักช้าไม่ได้เรื่อง”
มือเรียวกำถุงข้าวของที่ถืออยู่แน่นข่มอารมณ์โกรธเอาไว้อยากหันกลับไปบอกชายหนุ่มเสียจริงว่าให้ลองไปเองแล้วจะได้รู้ว่าตลาดสดกับบ้านมันอยู่ไกลกันแค่ไหน ไหนจะต้องเดินจ่ายตลาดขับรถไปกลับอีกใช้เวลาแค่ชั่วโมงครึ่งก็ถือว่าเร็วสุดแล้ว
ทว่าถึงพูดไปคนอย่างเขาก็คงไม่ฟังเพราะจ้องจะหาเรื่องเธอตลอดเวลาอยู่แล้ว สู้เงียบปากแล้วทำหน้าที่ของตัวเองไปดีกว่าไม่อยากจะต้องมาเสียเวลาทะเลาะกับเขา
เธอเลือกทำข้าวต้มกุ้งเป็นอาหารเช้าให้ชายหนุ่มเพราะตอนอยู่ที่บ้านใหญ่เห็นเขาชอบทานข้าวต้มกุ้งบ่อย ๆ เธอเร่งมือทำทุกอย่างด้วยความเร็วเดี๋ยวจะโดนพูดจากระแทกแดกดันว่าชักช้าอีก
เพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมงข้าวต้มกุ้งร้อน ๆ กลิ่นหอมกรุ่นก็ถูกนำมาเสิร์ฟบนโต๊ะอาหาร ก่อนเธอจะเดินไปเรียกร่างสูงที่นั่งในห้องโถง "อาหารเช้าเสร็จแล้วค่ะ"
อลันเพียงปรายตามองร่างบางเล็กน้อยแล้วลุกเดินไปยังโต๊ะอาหาร กลิ่นหอมยั่วน้ำลายที่ลอยแตะจมูกทำเอาเขาต้องลอบกลืนน้ำลายลงลำคออึกใหญ่รู้สึกหิวขึ้นมาดื้อ ๆ แต่กระนั้นก็ยังเก็บอาการได้ดี
ดวงตาคมกริบก้มมองข้าวต้มกุ้งหน้าตาหน้าทานอย่างพินิศพิจารณา ก่อนตวัดสายตาขึ้นพูดกับร่างบางที่กำลังเดินเข้าไปในครัวด้วยน้ำเสียงดุ "เธอคงไม่ใส่ยาพิษให้ฉันทานหรอกใช่ไหมพระพาย"
พระพายถึงกับหยุดชะงักฉับพลันกับคำพูดจากริมฝีปากหนา เธอพยายามอดทนมาตั้งแต่หัวรุ่งพยายามจะไม่ตอบโต้กลับเพื่อหลีกเลี่ยงการมีปัญหา แต่อีกคนกลับพูดจาหาเรื่องไม่เลิก ความอดทนของเธอก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน และตอนนี้มันก็ขาดสะบั้นลงแล้ว
มือเรียวกำหมัดแน่นด้วยความโกรธหันไปสวนกลับเจ้าของคำถามอย่างเหลืออด "พายคงไม่ใจไม้ไส้ระกำจนสามารถฆ่าใครตายได้หรอกค่ะ แต่ถ้าเป็นคุณอลันคงไม่แน่"
"พระพาย!"
เพล้งง!
คำพูดจาประชดประชันจากริมฝีปากอวบอิ่มเป็นเหมือนเชื้อเพลิงสุ่มไฟแห่งความโกรธของอลันได้เป็นอย่างดี ทำเอาเขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้าตวาดเสียงดังลั่นพร้อมกับใช้มือกวาดถ้วยข้าวต้มบนโต๊ะอย่างแรงจนตกกระทบพื้นแตกละเอียดไม่มีชิ้นดี ข้าวต้มร้อน ๆ กระสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ
ร่างบางถึงกับสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจใบหน้าถอดสีฉับพลันกับการกระทำห่าม ๆ ของคนตรงหน้า ใจดวงน้อย ๆ เริ่มสั่นไหวด้วยความหวาดหวั่นในตอนที่ร่างสูงย่างสามขุมเข้าหา
เท้าเล็กขยับถอยหลังหนีตามสัญชาตญาณรับรู้ได้ถึงรังสีอันตรายที่แผ่ซ่านทางแววตาวาวโรจน์ ใบหน้าของเขาแดงก่ำลามไปจนถึงใบหูบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าโกรธมากแค่ไหน ร่างสูงในตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากปีศาจร้ายที่พร้อมพรากลมหายใจของเธอไป
จากที่ถอยหลังหนีเธอก็รีบหมุนตัววิ่งเข้าในครัวด้วยความเร็วเพราะไม่อย่างนั้นคงได้แหลกคามือเขาแน่ ๆ แต่ดูเหมือนจะช้ากว่าคนตัวสูงอยู่ดีเขาก้าวยาว ๆ เพียงไม่กี่ทีก็เข้าประชิดตัวเธอได้แล้ว
"ว้าย!" เสียงหวานหลุดอุทานด้วยความตกใจในตอนที่ถูกมือหน้าจับหมับเข้าต้นแขน ใบหน้าเรียวเหยเกด้วยความเจ็บเมื่อถูกมือหนากระชากอย่างแรงจนตัวหมุนติ่วปะทะอกแกร่งจัง ๆ หนำซ้ำยังโดนเขาบีบต้นแขนแรงขึ้นกว่าเดิมราวกับจะให้กระดูกแตกเป็นเสี่ยง ๆ ยังไงยังงั้น
"พะ...พายเจ็บ ปล่อยนะคะ" แรงบีบทำให้เธอเจ็บจนน้ำตาคลอเบ้าพยายามแกะมือหนาออกจากต้นแขนพัลวัน แต่แรงเพียงน้อยนิดไม่ได้ทำให้มือหนาขยับเขยื้อนเลย
ยิ่งร่างบางพยายามเท่าไรอลันก็ยิ่งออกแรงบีบมากขึ้นเท่านั้น นัยน์ตาวาวโรจน์จับจ้องใบหน้าเรียวเขม็ง ก่อนกดเสียงพูดอย่างเยือกเย็น "งั้นฉันจะลองฆ่าเธอเป็นคนแรกแล้วกันพระพาย"
ว่าจบเขาก็ใช้อีกข้างกำรอบลำคอระหงสร้างความตื่นตระหนกให้พระพายเป็นอย่างมาก ใบหน้าเรียวถึงกับถอดสี ความกลัวเข้าเกาะกุมหัวใจดวงน้อย ๆ อย่างห้ามไม่ได้ เชื่อว่าคนอย่างเขากล้าทำจริง ๆ ขนาดโยนเธอลงสระน้ำแล้วยืนดูเธอตะเกียดตะกายเอาตัวรอดอย่างเลือดเย็นเขายังทำมาแล้วเลย
"คะ..คุณจะทำอะไร" แววตาสั่นระริกช้อนขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาด้วยความหวาดหวั่นพลางยกมือขึ้นแกะมือหนาออกจากลำคอ ทว่าเธอก็ต้องหน้านิ่วคิ้วขมวดในวินาทีต่อมาเมื่อถูกมือหนาออกแรงบีบลำคอจนเริ่มหายใจไม่ออก
พยายามแกะมือหนาออกพัลวันแต่ดูเหมือนจะเป็นการกระทำที่เปล่าประโยชน์เขาไม่แม้แต่จะสะเทือนสักนิด เธอจึงเปลี่ยนไปรัวกำปั้นใส่อกแกร่งแทนหวังให้เขาคลายมือออกตามสัญชาตญาณการเอาตัวรอด "อึก! ปะ..ปล่อยพะ..พายหายใจไม่ออก"
อลันจับจ้องร่างบางที่ใบหน้าแดงก่ำจากการเริ่มขาดอากาศหายใจพลางพยายามดิ้นรนเอาตัวรอดด้วยแววตาไร้ความรู้สึก ก่อนค่อย ๆ คลายมือออกเพราะไม่ได้ต้องการฆ่าเธอให้ตายเหมือนที่ปากพูด
เธอยังต้องอยู่ชดใช้กรรมอีกนาน ที่ทำไปเพียงแค่ต้องการสั่งสอนให้เธอไม่กล้าหือกับเขาอีก "จำไว้อย่ามาอวดเก่งกับฉันอีกเพราะฉันไม่ได้ใจดีทุกครั้ง"
สิ้นเสียงพูดเขาก็สะบัดมือออกจากลำคอระหงอย่างแรงราวกับรังเกียจ พระพายรีบอ้าปากกอบโกยลมหายใจเข้าปอดพรืดใหญ่พลางยกมือขึ้นกอบกุมรอบคอตัวเองไว้
ใบหน้าซีดเซียวหลุบลงต่ำเพราะรู้สึกหวาดกลัวจนไม่กล้ามองหน้าปีศาจร้ายอย่างเขา ขณะที่อีกคนไม่ได้รู้สึกผิดกับการกระทำหยาบช้าของตัวเองสักนิด จ้องร่างบางที่ก้มหน้างุดนิ่ง ๆ นานนับนาทีก่อนพูดทิ้งท้ายแล้วเดินออกไป "เก็บกวาดเศษถ้วยให้เรียบร้อยด้วยถ้าฉันลงมาแล้วยังไม่เรียบร้อยโดนดีแน่"
"อึก" น้ำตาแห่งความหวาดกลัวหยดเผาะลงบนพวงแก้มนวลทันทีที่ร่างสูงหายหลังไป ความรู้สึกมากมายถาโถมเข้ามาในสมอง มีแต่คำถามเต็มไปหมดว่าทำไมเธอต้องมาเจออะไรแบบนี้ เธอทำอะไรผิดร้ายแรงหรือทำไมถึงทำให้คนคนหนึ่งเกลียดเธอได้มากมายขนาดนี้
เธอยังต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกสักกี่ครั้งต้องอยู่กับความหวาดระแวงไปอีกนานแค่ไหน เพียงไม่ถึงครึ่งวันเธอยังโดนขนาดนี้แล้ววันต่อ ๆ ไปละเธอต้องพบเจอกับอะไรอีกหากทำอะไรไม่ถูกใจเขา หรือเธอต้องอยู่แบบไม่มีปากไม่มีเสียง ต้องอยู่แทบเท้าเขาถึงจะพอใจไม่รู้ว่าตัวเองทำเวรทำกรรมอะไรไว้ถึงต้องพบเจอกับปีศาจอย่างเขา
