ตอนที่ 6
"ก็แหม...ลูกสาวของฉันไงคะ ออกจะเพียบพร้อม แถมยังสวยกว่าขิม เหมาะสมกับลูกคุณมากกว่าขิมอีกนะคะ คุณจะไม่ลองพิจารณาหน่อยเหรอคะ"
ขวัญตาเสนอลูกตัวเองอยางหน้าด้าน ๆ
"ห๊ะ...อะไรนะ"
พรพรรณอึ้ง ภัทรพลทำหน้าเซ็ง พรเทพโกรธขวัญตามาก ที่กล้ามาพูดแบบนี้
"คุณพรพรรณครับ ผมต้องขอโทษด้วย การพบปะของเราวันนี้... ฤกษ์ไม่ดีเสียแล้้ว ผมกับครอบครัวต้องขอตัวก่อนนะครับ"
พรเทพยอมเสียมารยาท ยกมือไหว้ลาพรพรรณ
"เราต้องขอโทษจริง ๆ ค่ะ"
อุษากับลักษิกาก็ไหว้ลา
"เอ๊า...จะไปไหนกันล่ะ ยังไม่ได้กินข้าวกันเลยนะ"
อุษาหมดความอดทน หันไปเล่นงานขวัญตาทันที
"ยังจะหน้าด้านรอกินข้าวอีกหรือ ยางอายน่ะมีไหม มาทำลายงานของหลานอย่างหน้าด้าน ๆ มันเป็นสิ่งที่คนเป็นป้าควรทำเหรอ"
ขวัญตาลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับอุษา และเถียงอย่างไม่ลดละ
"ทำไม...ก็โรสมีดีกว่าจริง ๆ นี่ พวกเธอยังคิดว่าสภาพแบบขิมเนี่ย... ยังจะมีคนอยากได้เป็นสะใภ้อีกเหรอ"
อุษาโกรธหน้าแดง ลักษิกาดึงแขนแม่ไว้ พูดกับขวัญตาว่า
"ถึงขิมจะขี้เหร่...ไม่มีใครอยากได้ ก็ยังดีกว่าคนที่เอาตัวเองมาขาย แล้วไม่มีคนเอา อันนั้นน่าอายกว่าค่ะ"
ลักษิกาพูดเบา ๆ แล้วดึงแขนพ่อกับแม่ออกไป พรพรรณกับภัทรพลมองหน้ากัน แล้วจูงมือกันเดินตามออกไปด้วย ขวัญตาเต้นเร่าที่ถูกทิ้ง
"อะไรวะ...หนีกันไปหมดเลย"
"คุณแม่ขา...เราก็ไปเถอะค่ะ คนมองกันใหญ่แล้วอ่ะ"
ระรินเห็นคนมองแล้วกระซิบกระซาบกัน เธออายจนเดินออกไปไม่รอแม่เลย
"อ้าว...นังโรส ไปคนเดียวได้ไง"
ขวัญตาค้อนไปรอบทิศ แล้วเดินเชิดตามลูกสาวออกไป เป็นอันว่า... การพบกันของสองครอบครัวพังไม่เป็นท่า เพราะขวัญตาคนเดียวแท้ ๆ
ลักษิกากับภัทรพลถูกจับให้หมั้นกันจนได้ ลักษิกายอมหมั้นเพราะเห็นแก่พ่อแม่ ส่วนภัทรพลถูกแม่ขอร้องให้เห็นแก่บริษัทที่กำลังย่ำแย่ ทั้งคู่ต้องทำพิธีหมั้นกันอย่างเป็นทางการต่อหน้าผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย
ลักษิกาในชุดไทยสีครีม นั่งอยู่บนพื้นที่ปูด้วยพรมขนนุ่มกับภัทรพล วันนี้เขาหล่อเหลาในชุดสูทสีขาว ลักษิการู้สึกอึดอัด เธอจึงนั่งก้มหน้าเงียบ ชภัทรพลก็หน้าขรึมนิ่ง เขาชำเลืองมองเสี้ยวหน้าอีกข้างที่หวานหยดย้อยของลักษิกาแล้วแอบถอนใจ
"เอาวะ...มีแผลนิดหน่อยก็ไม่ได้แย่นักหรอก ถ้าไม่มีแผลคงสวยกว่านี้เยอะ น่าเสียดายจริง ๆ"
ภัทรพลคิดในใจ เขาไม่ได้ชอบ แต่ก็ไม่ได้รังเกียจอะไรลักษิกา ที่ยอมหมั้นก็เพราะแม่ขอร้อง
ขวัญตาไม่ได้รับเชิญให้มาในงานนี้ ทำให้เธอโกรธมาก แต่คนอย่างเธอมีหรือจะสน เธอแต่งตัวสวยมาร่วมงานกับระริน พวกเธอเดินเข้ามาในตอนที่ภัทรพลกำลังจะสวมแหวนให้ลักษิกาพอดี
"อุ๊ยตาย...ขอโทษนะคะ มาช้าไปนิดนึงค่ะ แหม...กำลังจะสวมแหวนพอดีเลยนะคะ"
ขวัญตาปากก็พูด ตาก็มองแหวนเพชรเม็ดงามที่ภัทรพลถืออยู่
"มาทำไม...ใครเชิญ"
อุษาถามเสียงห้วน
"น้องอุษาคะ พี่เป็นป้าของขิมนะคะ หลานหมั้นทั้งที จะไม่ให้มาแสดงความยินดีได้ไงคะ"
อุษากัดปาก ข่มอารมณ์ตัวเองเต็มที่ ขวัญตาจ้องเครื่องประดับมรกตชุดใหญ่ที่อุษาใส่อยู่อย่างริษยา เธอทำไม่รู้ไม่ชี้จูงระรินมานั่งที่โซฟา พรพรรณค้อนอย่างไม่พอใจ
"ฟลุค...สวมแหวนให้น้องสิลูก เดี๋ยวจะเลยฤกษ์ยามไป"
ภัทรพลพยักหน้า เอาแหวนสวมนิ้วให้ลักษิกา เธอก็เอาแหวนเพชรสวมนิ้วให้เขาด้วย ลักษิกากราบลงที่ขาของเขา อุษากับพรเทพยิ้มให้กัน พรพรรณก็ยิ้มปลื้ม มีแต่ขวัญตาที่ค้อนด้วยความอิจฉา
"การหมั้นได้สิ้นสุดลงแล้วนะครับ ขอเชิญทุกท่านรับประทานอาหารร่วมกันเลยครับ...เชิญครับ"
พรเทพพูดเชิญแขกทุกคน เขาควงแขนอุษาเดินไปกับพรพรรณ ภัทรพลช่วยดึงแขนลักษิกาขึ้นมา ขวัญตาขยิบตาให้ระริน แล้วเดินตามพรเทพไป ระรินเดินไปควงแขนภัทรพลหน้าตาเฉย
"เราไปทานข้าวกันนะคะ"
ลักษิกามาดึงแขนระรินออก
"sorry นะโรส เขาเป็นคู่หมั้นของฉัน...ไม่ใช่ของเธอ"
ลักษิกาดึงแขนภัทรพลให้ไปกับเธอ ระรินขยี้เท้าอยางขัดใจ
"หนอยอีขิม..."
ระรินเดินตามไปนั่งข้างภัทรพลจนได้ อุษากับพรเทพชักสีหน้าไม่พอใจ แต่จำต้องนิ่งไว้ พรพรรณก็ไม่ชอบใจ ในขณะที่ขวัญตายิ้มสะใจ
