ตอนที่ 2
"Sorry...ค่ะหม่ามี๊ แดดดี๊ ขิมชินแบบนี้ค่ะ"
ลักษิกาแกล้งทำเป็นฝรั่งหัวนอก เธอเกลียดป้าสะใภ้คนนี้มาก ที่ชอบทำตัวเป็นปลิงมาเกาะพ่อเธอ ลุงของเธอเสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน ป้าสะใภ้กับลูกสาวเลยมักจะมาขอนั่นขอนี่กับพ่อเธอเสมอ
"ต๊าย!...ไม่มีสมบัติผู้ดีเอาซะเลย"
ขวัญตายกมือทาบอก
"สมบัติผู้ดีเป็นยังไงคะ ป้ารู้จักไหม tell me please"
ลักษิกาทำเป็นยักไหล่
"รู้สิยะ..."
"แล้ว...คำว่ากาลเทศะล่ะคะ เข้าใจไหม"
"อีขิม"
โรสหรือระริน ชี้หน้าเรียกเธอ
"โอ้ว...ไม่มีสมบัติผู้ดีเลย...อีโรส"
อุษาชักสีหน้าไม่พอใจ ที่ระรินจิกหัวเรียกลักษิกาแบบนี้
"ถ้าพี่ขวัญตารู้จักสมบัติผู้ดี ก็กรุณาสั่งสอนโรสด้วยนะคะ ไม่งั้น...จะไม่เหลือหงอกสักเส้น เพราะถูกเด็กมันถอนหมดหัว"
อุษาสะบัดหน้า โอบไหล่ลักษิกาขึ้นข้างบน พรเทพส่ายหัวตามลูกเมียไปด้วย ขวัญตาเต้นเร่าอย่างเจ็บใจ
"หนอย...อีเด็กเมื่อวานซืน มาถึงก็เล่นกูเลยนะ"
"มันเปลี่ยนไปมากนะคะคุณแม่"
"ไม่ต้องห่วงหรอกลูก แม่จะดูซิ... มันจะเก่งไปได้สักกี่น้ำ"
"เอ่อ...คุณแม่ขา เมื่อกี้นี้คุณแม่เห็นรอยแผลเป็นที่หน้ามันไหมคะ ไม่รู้ยังอยู่เหรอเปล่า"
"ไม่ทันสังเกตนะ แต่ตอนนั้นหน้ามันเสียโฉมมากนะลูก ถึงจะหายก็คงหายไม่หมดหรอก"
"ดีค่ะ...โดนแก้วบาดหน้าขนาดนั้น ขอให้มันเสียโฉมไปตลอดชีวิตเลย โรสจะไม่ยอมให้มันสวยเกินหน้าโรสหรอกค่ะ"
"ไม่มีทางหรอกลูก ลูกแม่สวยที่สุดอยู่แล้วจ้ะ"
สองแม่ลูกกอดกันเดินกลับเข้าไปในห้องรับแขก พวกเธอยังไม่ยอมกลับง่าย ๆ หรอก ถ้ายังไม่ได้สิ่งที่ต้องการ
พรเทพกับอุษาพาลักษิกาไปดูห้องของเธอ ที่ถูกเปลี่ยนจากห้องเด็กหญิงเป็นห้องผู้ใหญ่ เฟอร์นิเจอร์สวยงามเข้าชุดกัน
"เป็นไงลูก...ชอบไหมจ๊ะ"
"ชอบค่ะ...สวยมากเลย ขิมกราบขอบคุณคุณพ่อคุณแม่มากค่ะ"
ลักษิกาคุกเข่าก้มลงกราบแทบเท้าพ่อแม่ ทั้งคู่ปลาบปลื้มมาก ประคองเธอลุกขึ้นมา
"ขิม...พ่ออยากให้ขิมมีความสุขที่ได้กลับมาอยู่บ้านนะลูก"
ลักษิกาพยักหน้า
"ลูกจะอยู่มีความสุขได้ยังไงคะ ในเมื่อพี่สะใภ้กับหลานของคุณมาคอยหาเรื่องอยู่แบบนี้ ฉันไม่เคยลืมว่าโรสเคยทำร้ายขิมจนหน้าเสียโฉม ถึงพี่สะใภ้คุณจะบอกว่าเป็นอุบัติเหตุก็เถอะ สองแม่ลูกนั่นคิดร้ายกับลูกเราจริง ๆ นะคะ"
"ผมก็รู้ แล้วก็ไล่ไปหลายครั้งแล้ว คุณก็เห็นนี่ พวกเธอมากันเอง คุณจะให้ผมทำยังไง"
พรเทพก็เบื่อหน่ายพี่สะใภ้ของเขาเต็มที ที่ชอบมาขอโน่นขอนี่ ให้ก็ติ ไม่ให้ก็ว่า
"อย่าไปสนใจเลยค่ะคุณพ่อคุณแม่ จะขออะไรก็อย่าให้ค่ะ เพราะต่อไปนี้...ของ ๆ คุณพ่อคุณแม่คือของ ๆ ขิม ขิมไม่อนุญาต คุณพ่อก็ห้ามให้ป้าขวัญตานะคะ"
"จะทำอย่างนั้นได้ยังไงลูก...ไม่ดีหรอก"
"คุณพ่อคะ...ถ้าคุณพ่อยังให้พวกเขาง่าย ๆ แบบนี้ จะต้องให้ถึงเมื่อไหร่คะ ที่คุณพ่อให้เขาแบบนี้ ไม่ใช่ช่วยนะคะ...แต่เป็นการทำร้ายมากกว่าค่ะ"
"ขิมพูดถูกค่ะ เราทำงานหาเงินเพื่ออนาคตของลูกเรานะคะ ไม่ใช่เพื่อคนอื่น ไม่ใช่ว่าเราใจดำนะคะคุณ แต่เราให้ไปมากพอแล้วค่ะ ทั้งจ่ายหนี้ให้พี่ชายคุณ ค่าเล่าเรียนโรส โน่นนี่นั่นอีกจิปาถะ มันสมควรพอแล้วค่ะ"
พรเทพพยักหน้า เขาเองก็เหนื่อยหน่ายกับพี่สะใภ้เต็มที
"โอเค...ขิมโตแล้ว หนูจัดการกับทรัพย์สินของพ่อได้ตามสมควรเลยนะลูก พ่อเชื่อใจลูกของพ่อ"
"ไม่ต้องห่วงค่ะ ขิมจะทำอะไร ก็ต้องปรึกษาคุณพ่อคุณแม่อยู่แล้วค่ะ ขิมไม่ทำอะไรตามอำเภอใจหรอก"
พรเทพกับอุษายิ้มให้ลูก ลักษิกาที่เคยเป็นเด็กหัวอ่อน ตอนนี้โตเป็นหญิงสาวที่ชาญฉลาด เธอเข้าเรียนมหาวิทยาลัยตั้งแต่อายุเพียง 16 ปี จบปริญญาตรีสองใบ คือสาขาบริหารจัดการ และสาขาจิตวิทยา
เธอยังใช้เวลาว่างเรียนวาดภาพ เปียโน แต่งหน้า ทำอาหาร ลักษิกาเรียนทุกอย่างเท่าที่เวลาจะอำนวย ต่างจากระริน...ที่เรียนมหาลัยไม่จบสักที เธอฟุ้งเฟ้อเอาแต่แต่งตัวสวย ๆ
พรเทพ อุษาและลักษิกา ลงมากินอาหารเย็นด้วยกัน อุษาเข้าครัวทำไก่อบของโปรดของลักษิกามาให้กิน ขวัญตากับระรินที่ยังไม่ไปไหน ก็จะมานั่งร่วมโต๊ะด้วย อุษาขมวดคิ้วถาม
"อ้าว...ยังไม่ไปกันอีกเหรอเนี่ย"
"เรายังไม่ได้กินข้าวเลยนะ จะให้รีบไปไหนล่ะ"
ขวัญตาลากเก้าอี้จะมานั่ง
"ป้า...จะกินข้าวด้วยเหรอ มีใครอนุญาตหรือยัง"
"อะไร...ฉันก็มากินบ่อย ๆ ทำไมต้องให้ใครอนุญาตด้วยล่ะ"
"โน ๆๆๆ ลืมสมบัติผู้ดีข้อเกี่ยวกับมารยาทแล้วเหรอคะ เจ้าของบ้านไม่ชวน...ยังจะกล้านั่งกินอีกเนาะ"
ขวัญตาหน้าเหวอ เธอโกรธลักษิกาที่ไม่ยอมให้นั่งกินข้าวด้วย พรเทพกับอุษาก็ไม่สนใจพวกเธอ
