ตอนที่ 14
พรเทพเดินไปเดินมา อุษานั่งหน้าเครียดอยู่ที่โซฟา ขวัญตาเดินเข้าบ้านมากับกับระริน เธอเดินมานั่งที่โซฟา พรเทพก็เดินมานั่งข้างอุษา
"มีอะไรหรือเทพ...ถึงเรียกพี่มา"
ขวัญตาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
"เลิกเล่นละคร....แล้วมาพูดกันตรง ๆ ดีกว่านะ พี่ให้คนมาตามจับตัวยายขิมใช่ไหม"
พรเทพถามตรง ๆ ไม่มีอ้อมค้อม
"อย่ามาพูดจามั่ว ๆ หาคุกให้พี่นะเทพ ยังไงยายขิมก็เป็นหลาน พี่จะทำไปเพื่ออะไร"
"เพื่ออะไรก็รู้อยู่แก่ใจ คนอย่างพี่ มีอะไรที่ทำไม่ได้บ้างล่ะ พี่ต้องการลักพาตัวยายขิมเพื่อมาต่อรองกับเราใช่ไหม"
อุษาพูดอย่างรู้ทัน ขวัญตาหันขวับมามองและยิ้มเหยียด
"พวกเธอนี่แปลกนะ อยู่ ๆ ก็พูดจากล่าวหาว่าฉันลักพาตัวยายขิม ไหนล่ะหลักฐาน อย่ามาพูดลอย ๆ กล่าวหาพล่อย ๆ กันแบบนี้นะ พวกเธอต้องถามตัวเองสิ ว่าได้เพาะศัตรูไว้ที่ไหนบ้างหรือเปล่า"
ขวัญตาปากแข็งยืนกระต่ายขาเดียว พรเทพกับอุษาเริ่มไม่แน่ใจ คนที่ทำธุรกิจอย่างพวกเขา...ย่อมต้องมีคู่แข่งหรือศัตรูทางธุรกิจเป็นธรรมดา
"เอาเถอะ...ถ้าไม่เกี่ยวกับพี่ก็แล้วไป แต่ถ้าผมรู้ว่าพี่มีส่วนในการหายตัวไปของขิม ก็อย่าว่าผมใจดำนะ ผมไม่ปล่อยคนที่ทำร้ายครอบครัวผมให้ลอยนวลสบาย ๆ หรอก"
ขวัญตาตาลุกวาวด้วยความโกรธ เธอลุกมายืนเผชิญหน้ากับเขา
"หากจะมาป้ายความผิดให้ฉัน ก็ไปหาหลักฐานมา อย่ามาพูดพล่อย ๆ แบบนี้ แล้วจะบอกอะไรให้นะ รีบ ๆ หาลูกให้เจอล่ะ ไม่งั้น...หัวหงอกอาจต้องส่งหัวดำ"
"พี่ขวัญตา...พี่แช่งลูกฉันเหรอ"
อุษาทะลึ่งลุกขึ้นยืน ทำท่าจะมาเอาเรื่องขวัญตา
"ก็แค่เตือนด้วยความหวังดี คนสมัยนี้ใจร้ายจะตาย โชคดีที่ยายขิมไม่สวย ถ้าสวยกว่านี้อีกสักนิด ก็อาจไม่ตาย...แต่จะโดนอย่างอื่นแทน"
ขวัญตาทำหน้าเยาะ และยิ้มเหยียดมองสองผัวเมีย ก่อนจะจูงมือระรินเดินออกไปจากบ้าน อุษาแค้นใจมาก นับวัน...เธอก็ยิ่งเกลียดขวัญตามากขึ้น พรเทพก็รู้สึกไม่ต่างกัน
"คุณคะ...เราจะปกป้องลูกยังไงดีคะ ฉันเป็นห่วงลูกเหลือเกินค่ะ"
พรเทพมานั่งโอบไหล่ภรรยา
"ไม่ต้องห่วง...ผมจะให้เพื่อนตรวจสอบเรื่องนี้เอง แต่ตอนนี้...เราต้องให้ลูกหลบซ่อนตัวก่อน ผมไม่รู้ว่าพวกมันจะจับลูกเรา...แค่เพื่อเรียกค่าไถ่ หรือต้องการอะไรอย่างอื่นอีก"
อุษานิ่งคิด แล้วบอกสามีว่า
"ฉันมีเพื่อนรักอยู่เชียงรายคนนึงค่ะ เธอกับสามีไปทำกิจการโรงแรมอยู่ที่นั่น เราให้ยายขิมไปอยู่กับเพื่อนฉันดีไหมคะ"
"มันไม่ไกลไปหรือคุณ"
"ทำไงได้ล่ะ เพื่อความปลอดภัยของลูก...เราคงต้องยอมล่ะ"
พรเทพถอนใจ
"คืนนี้ลองโทรคุยกับลูกดูละกัน"
อุษาพยักหน้า เธอมั่นใจว่าขวัญตาต้องมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้แน่ เพียงแต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยัน เธอจะไม่ยอมให้ขวัญตาสมหวัง และจะทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกของเธอปลอดภัย
ลักษิกานั่งเท้าคางรอปรวีร์อยู่หน้าบ้าน เธอถอนใจที่เขายังไม่มาสักที ป้าแขเห็นหญิงสาวไปนั่งอยู่หน้าบ้านนานแล้ว...ก็เดินมาเรียกเธอ
"ตรงนี้แดดร้อนนะคะ เข้าไปรอในบ้านเถอะค่ะ"
"ทำไมเขายังไม่มาอีกล่ะคะ นี่จะสี่โมงเย็นแล้วนะคะคุณป้า"
"คุณปอนด์เลิกงานห้าโมงเย็นค่ะ ยังไม่กลับมาตอนนี้หรอก"
"อ้าว...โห...อีกตั้งชั่วโมงเลยหรือ"
"มีธุระรีบหรือคะ"
ป้าแขเดินเข้าไปในบ้าน ลักษิกาก็เดินตามมาด้วย
"ฉันอยากไปหาพ่อแม่ค่ะ เป็นห่วงพวกท่าน"
"ป้าขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ"
"อะไรคะคุณป้า"
"คุณเป็นใครกันแน่คะ แล้วคุณรู้จักคุณปอน์ได้ยังไง"
ลักษิกาเห็นว่าป้าแขเมตตาเธอ เลยยอมเล่าเรื่องที่ถูกรถคนร้ายขับชน และถูกตามจับตัวให้ป้าแขฟัง
"คุณพระช่วย..."
ป้าแขอุทานเอามือทาบอก
"งานนี้คุณพระก็ช่วยไม่ได้ค่ะ มีแต่คุณปอนด์นี่แหละที่ยอมช่วย ไม่งั้น...ฉันจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้"
"แล้วคุณจะทำยังไงต่อไปคะ"
"คุณปอนด์สัญญาว่า...เย็นนี้จะพาฉันไปหาคุณพ่อคุณแม่ที่บ้านค่ะ ฉันถึงมานั่งรอเขานี่ไง"
ป้าแขส่ายหัวเบา ๆ
"ถ้าลองมันมาดักอยู่ที่หน้าบ้านแบบนี้ ป้าว่าคุณอย่ากลับไปดีกว่าค่ะ ถ้าเกิดมันจับคุณได้ หรือทำร้ายคุณจนบาดเจ็บสาหัส คุณปอนด์คนเดียวคงช่วยอะไรคุณไม่ได้มากหรอกค่ะ"
ลักษิกาก็รู้ แต่ความห่วงพ่อแม่มีมากกว่า เธอกลัวพ่อแม่จะถูกพวกมันดักทำร้าย อยากโทรหาแต่ก็ไม่กล้า กลัวพวกมันจะดักฟัง ลักษิกานึกกลัวไปสารพัด
