บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 ตัดสินใจ

ตอนที่ 2 ตัดสินใจ

"น้ำชา!" ทุกคนอุทานออกมาเสียงดังพร้อมๆกัน ม่านฟ้าเองก็รักน้ำชาเหมือนน้องสาวแท้ๆ ทั้งสองเติบโตมาด้วยกัน

ทุกคนรู้ดีว่านิสัยของน้ำชายังดูเด็กมากเกินไป เธอยังไม่เลิกซุกซนตามประสาเด็ก ถึงแม้ว่าจะเรียนจบปริญญาตรีแล้วก็ตาม ทุกคนรู้สึกว่าน้ำชาไม่เหมาะที่จะแต่งงานมีครอบครัวตอนนี้

"ถ้าส่งน้ำชาไปก็เท่ากับว่าพวกเราโกหกเขาน่ะสิ ปฏิเสธไปนั่นแหละดีแล้ว...นะคะคุณพ่อ" ม่านฟ้ายังคงไม่ยอมท่าเดียว

"........." คุณยงยุทธมองหน้าลูกสาวทั้งสองนิ่งๆ ในใจกำลังคิดถึงบุญคุณที่คุณสุริยันเคยช่วยเหลือไว้เมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว

ครั้งนั้นคุณสุริยันเคยช่วยเรื่องเงินและให้ความรู้ หลังจากที่ธุรกิจเริ่มดีขึ้น คุณยงยุทธได้นำเงินจำนวนนั้นไปคืนคุณสุริยัน แต่ท่านกลับไม่รับคืน เพราะรู้ดีว่าคุณยงยุทธยังต้องการใช้เงินจำนวนนี้อยู่ ท่านจึงพูดขำๆสู่ขอลูกสาววัยแบเบาะของคุณยงยุทธด้วยเงินจำนวนนี้ถือเป็นค่าสินสอด

เมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้วเงินจำนวนนั้นถือว่าเยอะมากๆ ตอนนั้นคุณยงยุทธรู้สึกขอบคุณมาก ท่านตอบรับทันที ซึ่งเหตุการณ์นี้ท่านไม่เคยลืม นั่นจึงทำให้คุณยงยุทธรู้สึกลำบากใจถ้าจะปฏิเสธ

"คุณพ่อคุณแม่คะ ให้น้ำชาไปแทนเถอะนะคะ เรื่องที่หนูไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของคุณพ่อกับคุณแม่ ก็ไม่ต้องไปบอกเขา" สำหรับเรื่องนี้มีคนนอกรู้แค่ไม่กี่คนเท่านั้น ทุกครั้งที่มีคนถาม พวกท่านทั้งสองมักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันเสมอว่า น้ำชาคือลูกสาวคนเล็กของพวกท่าน

"น้ำชา...น้องพูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า การแต่งงานไม่ใช่เรื่องสนุก ผู้ชายคนนั้นเป็นใครเราก็ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้จัก เรื่องนิสัยใจคอยิ่งไม่ต้องพูดถึง"

"หนูทราบค่ะ หนูยืนฟังอยู่ที่หน้าประตูได้สักครู่แล้วค่ะ ถ้าจะต้องมีคนไป ให้หนูไปแทนก็ได้ค่ะ" น้ำชารักทุกคนในบ้านหลังนี้มาก ถ้าการไปของเธอในครั้งนี้สามารถทำให้ทุกคนมีความสุขได้เธอก็ยินดี

"จะไม่มีใครได้ไปทั้งนั้น คุณพ่อคุณแม่คะ ปฏิเสธไม่ได้เหรอคะ" ม่านฟ้ายังคงไม่ยอม

"ปฏิเสธได้ แต่เราจะต้องคืนเงินจำนวนนั้นพร้อมกับดอกเบี้ยทั้งหมดตลอดยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา...จากที่พ่อคำนวณดูแล้ว เราไม่ได้มีเงินเยอะขนาดนั้น" ในแต่ละปีมีกำไรจากธุรกิจที่กำลังทำอยู่เข้ามามากก็จริง แต่ก็ต้องลงทุน ซึ่งธุรกิจนี้แน่นอนว่าใช้เงินทุนจำนวนมหาศาล

"ก็แค่แต่งงานเอง คิดซะว่านี่เป็นการทดแทนบุญคุณของคุณพ่อกับคุณแม่และพี่ม่านฟ้าที่เลี้ยงดูหนูมาเป็นอย่างดี" ตั้งแต่อายุเจ็ดขวบจนถึงปัจจุบัน น้ำชาใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้ราวกับเจ้าหญิง คงถึงเวลาที่เธอจะต้องออกไปเผชิญกับโลกภายนอกได้แล้ว

"ทดทงทดแทนอะไรกัน น้ำชารู้ไหมว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใบ้ หน้าตาเป็นยังไงพวกเราก็ไม่เคยเห็น ไหนจะนิสัยใจคออีก" ม่านฟ้าดุน้องสาวด้วยสีหน้าจริงจัง

"เป็นใบ้ก็แค่พูดไม่ได้ ถ้าเขาเป็นคนดี หนูยินดีแต่งงานครั้งนี้แทนพี่ม่านฟ้าเองค่ะ" น้ำเสียงของน้ำชาค่อนข้างจริงจัง บ่งบอกว่าเธอไม่ได้พูดเล่น

"น้ำชาพูดจริงเหรอลูก"

"จริงค่ะคุณพ่อ" น้ำชารู้ดีว่าพี่สาวมีคนในใจอยู่แล้ว ส่วนเธอยังไม่ได้มีใคร

"พ่อให้เวลาหนูคิดก่อนสัก 2-3 วันก็ได้นะ ยังไม่ต้องรีบให้คำตอบตอนนี้" น้ำชาเติบโตมาจากครอบครัวนี้ตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ แน่นอนว่าพวกท่านรักและเอ็นดูน้ำชามาก เห็นน้ำชาเป็นลูกสาวคนเล็กมาโดยตลอด

"หนูขออ่านจดหมายฉบับนั้นหน่อยได้ไหมคะ"

"ได้สิลูก" คุณยงยุทธยื่นจดหมายฉบับนั้นส่งให้น้ำชาอ่าน

ในจดหมายมีใจความเขียนไว้ว่า...สวัสดี ยงยุทธและสุนีย์ ไม่ได้พบกันนานเลยพวกเธอสบายดีไหม ฉันหวังว่าพวกเธอคงสบายดี

ฉันขอพูดเข้าเรื่องเลยแล้วกัน ที่ฉันเขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้น ก็เพื่ออยากจะทวงถามสัญญาระหว่างเรา ฉันอยากได้ลูกสาวของพวกเธอมาเป็นภรรยาให้กับณภัทรหลานชายเพียงคนเดียวของฉัน ปัจจุบันเขามีอายุ 34 ปีแล้ว ยังไม่เคยมีภรรยา ฉันคิดว่าหลานชายของฉันสามารถเลี้ยงดูลูกสาวของพวกเธอให้มีความสุขได้อย่างแน่นอน และสุดท้ายนี้ ฉันหวังว่าจะได้รับการตอบกลับที่ดี...ลงชื่อคุณสุริยัน พร้อมเบอร์โทรติดต่อกลับ

หลังจากที่น้ำชาได้อ่านจดหมายจบ เธอก็ส่งจดหมายฉบับนี้คืนให้คุณพ่อไป

"ผู้ชายคนนั้นอายุ 34 ปีแล้วเหรอ" น้ำชารู้สึกว่าเขาดูแก่กว่าเธอหลายปีมาก

"ใช่...เขาแก่เกินไปสำหรับพวกเรา น้ำชาเพิ่งจะยี่สิบสองเองนะ อายุห่างกันหลายปีจะใช้ชีวิตด้วยกันยังไง ไหนจะเรื่องที่เขาพูดสื่อสารไม่ได้อีก แค่คิดก็ไม่ไหวแล้ว" ม่านฟ้าหันมาพูดกับน้องสาวด้วยสีหน้าไม่เห็นด้วย

"คุณพ่อคุณแม่คะ หนูยังคงยืนยันคำเดิมค่ะ อายุเป็นเพียงตัวเลข อายุเยอะไม่ได้หมายความว่านิสัยจะแก่ตามอายุนี่คะ" ดูอย่างเธอสิ อายุยี่สิบสองปีแล้วทุกคนมักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเธอยังไม่โต

"น้ำชา! พี่บอกให้ปฏิเสธไง" สำหรับม่านฟ้าแล้ว เธอเลือกคืนเงินดีกว่า ถึงแม้ว่าจะมีดอกเบี้ยจำนวนมหาศาลก็ตาม ตอนนี้อาจจะดูติดขัดไปบ้าง แต่เธอเชื่อว่าสักวันจะต้องใช้หนี้ก้อนนี้หมดอย่างแน่นอน

"หนูอยากทำเพื่อตอบแทนทุกคนค่ะ หนูรู้ว่าคุณพ่อกับคุณแม่กำลังลำบากใจ ซึ่งทางคุณสุริยันก็ไม่ได้อยากได้เงินคืน สิ่งที่เขาอยากได้คือหลานสะใภ้มากกว่า" ผู้เป็นแม่นั่งเงียบ โดยปกติแล้วท่านก็ไม่ค่อยมีปากมีเสียงหรือออกความคิดเห็นอะไรอยู่แล้ว

"น้ำชา...น้องคือน้องสาวของพี่ เราเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก พี่ไม่ให้น้องไป" ตั้งแต่เล็กจนโตม่านฟ้ากับน้ำชาก็เป็นพี่ เป็นน้อง เป็นเพื่อน เป็นอะไรหลายๆอย่าง ทั้งสองมักจะคุยกันทุกเรื่อง ไม่ได้แตกต่างไปจากพี่น้องสายเลือดเดียวกันเลย

"เอาล่ะๆ พ่อจะลองไปปฏิเสธดู" ก่อนอื่นเลยท่านจะต้องนึกคำพูดในแบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น แต่ดูเหมือนว่าน้ำชาได้ตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว

"พี่ม่านฟ้า...พี่ต้องเชื่อใจน้อง คนอย่างหนูไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบได้ง่ายๆหรอกค่ะ" น้ำชาหันไปพูดกับพี่สาว จากนั้นจึงหันมาพูดกับคุณพ่อต่อ

"คุณพ่อคะ หนูรู้ว่าคุณพ่อกำลังลำบากใจมาก ให้หนูแต่งงานครั้งนี้เถอะนะคะ ถ้าหากวันหนึ่งพวกเขาทำร้ายหนู ไม่รักหนู หนูจะกลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้กับคุณพ่อคุณแม่และพี่ม่านฟ้าเหมือนเดิมค่ะ" สำหรับน้ำชาเธอไม่ได้รู้สึกว่าการไปอยู่ที่อื่นเป็นปัญหา เธอเป็นคนไม่ยึดติด ถ้าอยู่แล้วสบายใจเธอสามารถอยู่ต่อได้เรื่อยๆ แต่ถ้าอยู่แล้วไม่สบายใจ เธอก็แค่เดินออกมา อายุของเธอยังน้อยสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ตลอดเวลา นี่คือความคิดของเธอ

"คนไม่เคยรู้จักกันจะรักกันได้ยังไง" ม่านฟ้ายังคงไม่เห็นด้วยเหมือนเดิม

"ขอแค่ถ้าหนูชอบ หนูนี่แหละจะทำให้เขารักหนูให้ได้ แต่ถ้าหนูไม่ชอบ เขาจะต้องเป็นฝ่ายทำให้หนูชอบก่อน ถ้าเขาทำไม่ได้ หนูจะกลับมาอยู่ที่นี่เหมือนเดิมค่ะ"

สำหรับน้ำชาทุกอย่างคือการทดลอง ไม่ลองก็ไม่รู้ ถึงแม้ว่าการทดลองในครั้งนี้ของเธอจะใช้หัวใจเป็นเดิมพันก็ตาม เธอขอทำเพื่อทุกคนสักครั้ง วันไหนที่เขาไม่ต้องการเธอแล้ว เธอก็แค่เดินออกมา คนอย่างเธอดีมาดีกลับ ไม่ยอมให้ตัวเองเสียเปรียบอย่างแน่นอน เธอเป็นคนเข้ากับคนง่าย เธอคิดว่าตัวเองอยู่ที่ไหนก็ได้

"........" ทุกคนนั่งเงียบไปสักครู่ ราวกับกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก

"ไม่ต้องคิดแล้วค่ะ หนูตัดสินใจดีแล้ว หนูเต็มใจค่ะ ส่งหนูไปแทนพี่ม่านฟ้าเถอะนะคะ" ในเมื่อน้ำชายืนยันที่จะไปจริงๆ ทุกคนรู้สึกขอบคุณแต่ก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้

"ถ้าเขาทำร้ายน้ำชาหรือพูดจาไม่ดี หาเรื่องทะเลาะแล้วเลิกกลับบ้านเราเลยนะ" ม่านฟ้ายังคงเป็นห่วงน้องสาว

"ค่ะๆ หนูสัญญา คนอย่างหนูไม่ให้ใครมารังแกได้ง่ายๆหรอกค่ะ" ทุกคนรู้ดีถึงแม้ว่านิสัยของน้ำชายังดูเหมือนเด็ก แต่เธอก็ไม่ใช่คนที่จะให้คนอื่นมารังแกได้ง่ายๆ

"ถ้าลูกยืนยันแบบนี้ พ่อกับแม่ต้องขอบคุณหนูมากๆ การเสียสละของหนูในครั้งนี้ พ่อกับแม่จะไม่มีวันลืมเลย" ทุกคนมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก แต่น้ำชารู้สึกเฉยๆ เธอไม่ได้กลัว ไม่ได้ตื่นเต้น แค่รู้สึกว่าการตัดสินใจในครั้งนี้ของเธอทำเพื่ออยากให้ทุกคนที่เธอรักมีความสุข

"น้ำชา...ขอบคุณนะ" ม่านฟ้าเอ่ยขอบคุณน้องสาวจากใจจริง

"ไม่ต้องทำหน้าซึ้งกันขนาดนั้น หนูเป็นแค่เด็กกำพร้า เติบโตขึ้นมาได้เพราะทุกคนในบ้านหลังนี้ หนูต่างหากที่ต้องเป็นคนขอบคุณทุกๆคน ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณคุณพ่อกับคุณแม่ที่ให้ที่อยู่ ให้อาหาร ให้ความรู้ หนูใช้ชีวิตสุขสบายราวกับเจ้าหญิงมานานเกินไปแล้ว" น้ำชาหันไปพูดกับผู้มีพระคุณด้วยรอยยิ้ม ในคำพูดของเธอสื่อความหมายลึกซึ้ง แต่ก็ยังคงติดพูดเล่นตามประสาเด็กไม่ยอมโต

"พูดอะไรแบบนั้น น้ำชาคือลูกสาวคนเล็กของพวกเรา"

"คุณพ่อกับคุณแม่และพี่ม่านฟ้าคือครอบครัวของหนูค่ะ"

ช่วงที่คุณยงยุทธและคุณสุนีย์รับน้ำชามาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม เพราะคุณสุนีย์ไม่สามารถมีลูกได้อีก ทั้งสองต้องการให้ม่านฟ้ามีเพื่อนเล่น จึงตัดสินใจรับน้ำชามาเลี้ยงดูเป็นลูกสาวอีกคน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel