ตอนที่ 5
ตอนที่ 5
สองหนุ่มพากันเดินออกจากห้องทำงานแล้วตรงไปยังลิฟต์ พอเข้ามาในลิฟต์ได้แล้ว ศิวาที่เพิ่งนึกได้ว่ามีเรื่องจะถามจึงหันมาสอบถามเพื่อนทันทีเกี่ยวกับข่าวที่เจ้าตัวขอแฟนสาวแต่งงาน
“เป็นข่าวจนได้”
“ก็แกไปขอนางแบบดังแต่งงาน นักข่าวไม่รู้ก็บ้าแล้ว”
“ฉันไปขอกี้ที่ฝรั่งเศส”
“แกทำใจเถอะ ไม่ว่าแกจะไปขอไกลแค่ไหน ยังไงนักข่าวก็รู้อยู่ดี ว่าแต่พ่อแกยอมให้แกแต่งกับคนนี้แล้วหรือไง” ศิวาถามอย่างสงสัย เพราะรับรู้มาตลอดว่าพ่อของเพื่อนยังไม่อยากให้ลูกชายรีบร้อนแต่งงานกับนางแบบคนนี้ เพราะยังคบกันไม่นาน คนเป็นพ่อจึงอยากให้ศึกษานิสัยใจคอกันไปอีกสักสองสามปี แต่เพื่อนของเขากลับใจร้อน อยากมีครอบครัวเลยขอแต่งไปเรียบร้อย
“ยัง”
“แล้วแกทำแบบนี้ พ่อแกไม่โกรธเอาหรือไง” ศิวาเอ่ยถามอย่างตกใจ
“คงไม่โกรธ แต่ค่ำนี้ฉันจะคุยกับพ่อ แล้วฉันก็มั่นใจว่าท่านจะยอมให้ฉันแต่งงานกับกี้อยู่แล้ว เพราะกี้คือผู้หญิงที่ฉันรัก”
“ก็ถ้าแกมั่นใจ ฉันก็หมดห่วง ว่าแต่แกจะแต่งเมื่อไหร่ ฉันจะได้หาสาวควงไปงานแกทัน แต่อย่าเร็วเกินไปแล้วกัน ฉันกลัวหาไม่ทัน”
“รอให้ผ่านงานแฟชั่นโชว์ที่จะจัดต้นเดือนหน้าไปก่อน”
“แสดงว่าแกจะเอาฤกษ์สะดวก”
“ก็กี้งานเยอะ แล้วกี้ก็บอกกับฉันแล้วว่าปลายเดือนหน้าจะมีเวลาว่างเป็นอาทิตย์”
“เร็วไปไหมเพื่อน ฉันว่าฉันหาสาวควงไปไม่ทันแน่ๆ”
“ก็ไปหาในงานไง กี้มีเพื่อนเป็นนางแบบเยอะ ต้องมีสักคนที่ถูกใจแก”
“ก็เข้าท่าดีเหมือนกัน” จบคำนั้นสองหนุ่มก็แยกย้ายกันไปขึ้นรถ แล้วพากันไปยังร้านอาหาร พอมาถึงแล้วก็สั่งอาหารมารับประทานและพูดคุยกัน จนบ่ายโมงสองหนุ่มก็แยกกันตรงร้านอาหาร พารันกลับไปทำงานที่บริษัท ส่วนศิวาก็กลับไปร้านขายภาพของตัวเอง
สัปดาห์ต่อมา...ที่สนามบิน
ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ตามแบบฉบับชายชาวต่างชาติ เดินลงจากเครื่องบินส่วนตัวเพื่อมาพักผ่อนที่ประเทศไทยและอีกประการก็คือเข้าร่วมงานงานแฟชั่นโชว์ตามคำเชิญของนักธุรกิจท่านหนึ่งที่สนิทสนิมกันมาหลายปี เนื่องจากอีกฝ่ายรู้ว่าเขาชอบสะสมเพชร และงานครั้งนี้ก็มีเพชรน้ำงามมาโชว์อยู่ในงาน ที่เขาไม่พลาดจะจับจ้องเป็นเจ้าของ
“คุณอเล็กซ์จะกลับโรงแรมเลยหรือเปล่าครับ” คนสนิทเอ่ยถามขณะเปิดประตูรถให้ผู้เป็นนายเข้าไปนั่ง โดยนักธุรกิจที่สนิทส่งมารับ
“กลับเลย” อเล็กซ์ตอบเพียงสั้นๆ จากนั้นรถก็เริ่มเคลื่อนตัวออกเพื่อไปยังโรมแรมที่พัก ขณะนั่งรถสายตาของชายหนุ่มก็สบเข้ากับป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่และถูกตาต้องใจนางแบบโฆษณาชุดชั้นเข้าอย่างจัง
“ทอรี่!”
“ครับคุณอเล็กซ์”
“ฉันต้องการรู้ว่าผู้หญิงบนป้ายบิลบอร์ดคนนั้นเป็นใคร”
“เดี๋ยวผมสืบให้ครับ” จบคำ ทอรี่ บอดี้การ์ดหนุ่มร่างใหญ่ก็หยิบโทรศัพท์ของตนออกมา แต่ไม่ทันได้ค้นหา คนทำหน้าที่ขับรถก็เอ่ยบอก คนฟังถึงกับยิ้มและสั่งให้ลูกน้องติดต่อหานางแบบสาวคนนั้นทันที
“ฉันต้องการพบเธอเร็วที่สุด” อเล็กซ์ย้ำและไม่รู้เพราะอะไร แค่เห็นภาพของนางแบบสาว ร่างกายก็ร้อนรุ่ม อยากจับเจ้าหล่อนขยี้ด้วยรสวาท
ด้านนางแบบสาวที่กำลังทำให้คนบางคนร้อนรุ่มไปทั่วกายก็กำลังโพสท่วงท่าถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสารฉบับใหม่อย่างสวยงาม สมเป็นนางแบบมืออาชีพ ห่างออกไปก็เป็น แอน ผู้จัดการของนางแบบสาวคอยมองอยู่อย่างชื่นชม และคิดไม่ผิดที่ชักชวนอีกฝ่ายมาทำงานด้านนี้ แต่ก็น่าเสียดายที่อีกคนไม่สนใจงานด้านนี้ ไม่งั้นสองสาวจะต้องดังคู่กันแน่นอน
“โอเค เสร็จแล้วครับคุณกี้ วันนี้คุณกี้โพสท่าได้สวยมากครับ ” ช่างภาพหนุ่มบอก ภีรมาสจึงหันมาส่งยิ้มให้กับช่างภาพหนุ่มเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าห้องแต่งตัวตามด้วยผู้จัดการส่วนตัว
“เสร็จซะทีงานวันนี้” ภีรมาสเอ่ยออกมาทันทีที่เข้ามาถึงห้องแต่งตัว ก่อนจะรีบหาที่นั่งแล้วรับน้ำจากผู้จัดการที่หามาให้
“เป็นไงบ้างน้องกี้ เหนื่อยหรือเปล่า” ผู้จัดการแอนเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง
“เหนื่อยมากพี่แอน แล้วกี้อยากนอนแช่น้ำมากเลยตอนนี้” สีหน้าของภีรมาสเห็นชัดว่าเหนื่อย แต่เพราะต้องการให้ความเป็นอยู่ของชีวิตดียิ่งกว่านี้และชื่อเสียงดังกว่าที่เป็นอยู่ทำให้เธอต้องอดทน
“ทนหน่อยนะน้องกี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ได้พักหนึ่งวัน แต่วันมะรืนลุยอีกสองงานนะจ้ะ แล้วพอเสร็จจากสองงานนี้แล้วพี่จะให้น้องกี้หยุดพักหนึ่งอาทิตย์ ตกลงไหม” ผู้จัดการแอนเอ่ยบอก เพราะเห็นใจนางแบบสาว
“แล้วปลายเดือนหน้าล่ะพี่แอน กี้ยังจะได้พักอยู่อีกหรือเปล่า”
“ก็หยุดเหมือนแหละค่ะน้องกี้ แหมๆ กลัวไม่ได้แต่งงานหรือไงคะ”
“อย่าพูดถึงเรื่องแต่งงานเลยพี่แอน กี้ไม่อยากได้ยิน” แค่ได้ยินคำว่าแต่งงานนางแบบสาวก็เริ่มหงุดหงิด ทั้งที่ตอนที่คนรักขอแต่งงาน เธอดีใจจนเนื้อเต้น แต่พอถามเรื่องพ่อของเขาว่ายอมรับเธอหรือไม่ เขากลับอึกอัก
“มีอะไรเหรอคะ!”
“พูดตรงนี้ไม่ได้หรอกพี่แอน เดี๋ยวคนอื่นจะได้ยิน”
