บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 รักต้องเลือก

หลังแต่งงานปรินซ์พาอันดาเข้ามาอยู่ด้วยกันในบ้าน ไม่ได้แยกออกไปสร้างบ้านหรือซื้อบ้านใหม่เพราะความเป็นลูกคนเดียวเลยหวงแม่เป็นธรรมดา ซึ่งอันดาก็ไม่มีปัญหา ถึงแม้ที่บ้านฝั่งอันดาแนะนำให้แยกออกมาอยู่กันสองคนสามีภรรยา

“กฎของบ้านนี้ทานข้าวเสร็จต้องไปล้างจานของตัวเอง จะมาทำตัวเป็นคุณหนูในบ้านนี้ไม่ได้หรอกนะ” ปรินซ์ออกไปทำงาน ปรางทิพย์ก็ออกกฎทันที ซึ่งอันดาไม่มีปัญหากับกฎนี้ เธออยู่หอพักคนเดียวมาตั้งนานเรื่องแค่นี้สบายมากหรืออยู่ที่บ้านเธอก็ทำเป็นเรื่องปกติ

เธอรู้ว่าแม่สามีหวงลูกมาก จะคอยโทรหาโทรตามอยู่บ่อย ๆ ซึ่งตอนคบกัน ปรินซ์กับอันดาไม่เคยพักด้วยกัน ไม่เคยนอนด้วยกันจนถึงเช้า มีแค่ตอนไปเที่ยวเท่านั้นที่ทั้งคู่สามารถใช้เวลาด้วยกันยี่สิบสี่ชั่วโมง

ปรินซ์เคยพาอันดาไปเจอแม่หลายครั้ง ซึ่งทุกครั้งปรางทิพย์ก็จะไม่ชวนเธอคุย จะนั่งเงียบ ๆ มากกว่า แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทางรังเกียจ จนถึงวันที่เธอเปลี่ยนสถานะจากแฟนลูกชายมาเป็นสะใภ้ของบ้านหลังนี้

อะไรที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น

อะไรที่ไม่เคยเจอก็ได้เจอ

“เสื้อผ้าเธอก็เหมือนกัน ซักเองนะ อย่าใช้คนของฉัน”

“หนูไม่มีปัญหาเรื่องนี้ค่ะ เดี๋ยวของพี่ปรินซ์หนูซักให้เองได้ค่ะ”

“ไม่ต้อง! คนในบ้านนี้เขาก็มีคนทำให้ ส่วนคนนอกต้องทำเอง”

“…” อันดารู้สึกสะกิดใจกับคำพูดพวกนั้น ไม่คิดว่าแต่งงานเข้ามาจะกลายเป็นคนนอก ไม่ใช่คนในครอบครัว

“เพราะฉันรักตาปรินซ์หรอกนะ ถึงยอมให้เธอได้แต่งงานกับตาปรินซ์ แต่อย่าหวังรวยทางลัด อย่ามั่นหน้าว่าตัวเองเป็นสะใภ้สิริหงษ์ประภาแล้วจะชูคออยู่สบาย”

“หนูไม่เคยคิดแบบนั้นนะคะ” ใบหน้าสวยหวานส่ายหน้าปฏิเสธข้อกล่าวหา

ถึงแม้ปรินซ์สามีของเธอจะเป็นทายาทบริษัทอาหารแปรรูป แต่เรื่องแบบนั้นไม่เคยอยู่ในหัวเลยสักครั้ง

“น้อยไปนะสิ ถ้าไม่คิดจะรวยทางลัดจะทนคบกับลูกชายฉันได้หลายปีแบบนั้นเหรอ” ปรางทิพย์จับตาดูลูกชายอยู่ตลอด ความสัมพันธ์คู่นี้เรียบง่ายมาก ไม่เคยค้างคืนกันสักครั้ง ไม่เคยไปไหนด้วยกัน ลูกชายเธอไม่เคยไปนอนนอกบ้าน นอกจากเรื่องงาน

“หนูไม่เคยทนคบ ที่ผ่านมาเพราะหนูกับพี่ปรินซ์รักกันก็เลยตัดสินใจคบกันและแต่งงานกันค่ะ”

“หึ!” ปรางทิพย์แสยะยิ้มมุมปาก “งั้นฉันจะรอดูว่าเธอคบกับลูกชายฉันเพราะรัก ไม่ใช่เพราะเงิน”

“…” อันดาไม่โต้ตอบ แต่มั่นใจว่าเวลาที่อยู่บ้านหลังนี้จะพิสูจน์ให้เห็นว่าเธอจริงจังกับปรินซ์และคนในบ้านแค่ไหน

“เด็กอย่างเธอจะทนได้สักกี่น้ำกันนะ!” ปรางทิพย์ทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มบางอย่างที่อ่านความหมายไม่ออก

แต่หลังจากวันที่คุยกัน อันดาก็เข้าใจทันทีว่าแม่สามีหมายถึงอะไรเพราะแต่ละวัน เธอไม่เคยได้สงบสุข สบายใจที่อยู่บ้านหลังนี้ มีแต่เรื่องให้คิดมาก ร้อนในอกตลอดเวลา

คำว่า ‘อดทน’ อันดาเพิ่งรู้จักคำนี้ก็ตอนแต่งงานย้ายมาอยู่บ้านสามี เข้าใจอย่างลึกซึ้ง

เพราะตอนนี้ความรักของเธอและปรินซ์มีแต่คำว่าอดทนอยู่ในความสัมพันธ์มากกว่าความรู้สึกดีๆ

“อันจัดกระเป๋าให้พี่ปรินซ์เรียบร้อยแล้วนะคะ” ครั้งหนึ่งทั้งคู่แพลนจะไปฮันนีมูนล่าแสงเหนือด้วยกัน

ซึ่งเป็นแพลนที่คิดร่วมกัน เมื่อใกล้ถึงวันออกเดินทาง อันดาก็ทำหน้าที่ภรรยาจัดแจงจัดกระเป๋าให้เตรียมพร้อมเพื่อการเดินทางครั้งนี้

“พี่บอกแล้วว่าพี่จะกลับมาจัดเองไงครับ” ปรินซ์เข้ามากอดแล้วก้มลงหอมแก้มอันดาเป็นรางวัลคนเก่ง สูดดมกลิ่นหอมที่ทำให้มีชีวิตชีวา

“เรื่องแค่นี้อันทำได้ พี่ปรินซ์ทำงานมาเหนื่อยๆ อยากให้พักผ่อนมากกว่า”

“เมียพี่น่ารักจัง จะทำให้หลงไปถึงไหนหืม!?” มือหนาพลิกตัวเธอมาเผชิญหน้ากัน สบตากันหวานซึ้ง กระทั่งร่างบางถูกอุ้มแนบอก

“พี่ว่า… พี่ซ้อมฮันนีมูนก่อนดีกว่า”

“ซ้อมฮันนีมูนอะไรของพี่” อันดาว่ายิ้ม ๆ ตีแขนสามีเขินอาย “พี่ก็ซ้อมทุกคืน”

“ไม่เหมือนกันครับ”

“…?!” อะไรที่ไม่เหมือน

“อันนี้สูตรเร่งรัด ถึงเวลาจริงจะได้ไม่ติดขัด” ว่าจบ ร่างอันดาก็ถูกอุ้มมาวางบนเตียงนุ่ม ก่อนที่ร่างสูงจะขึ้นคร่อมบรรเลงเพลงรักอย่างอิ่มเอม เสพความสุขให้กันและกันแบบที่ทั้งสองทำให้กันตลอด

ทว่า…เหมือนเมื่อคืนพวกเขาจะเสพความสุขมากเกินไปเพราะมีเหตุบางอย่างให้แพลนฮันนีมูนหยุดชะงัก เมื่อแม่สามีเข้าโรงพยาบาลกะทันหัน

“ทำไมป้าสมจิตรไม่บอกผม” ปรินซ์โวยวายทันที สีหน้าไม่สู้ดีนัก เขามีความสุขในห้อง แต่ไม่รู้ว่าแม่ถูกส่งเข้าโรงพยาบาลตั้งแต่กลางดึก ทั้งที่นอนอยู่ในบ้านเดียวกัน

“เอ่อ คุณปรางกลัวรบกวนคุณปรินซ์ค่ะ” ป้าสมจิตรก้มหน้าบอกเสียงเศร้า

“รบกวน!? ผมเป็นลูก รบกวนอะไรกัน”

“ก็คุณปรินซ์จะเดินทางไปฮันนีมูนเช้านี้ไม่ใช่เหรอคะ”

“…” ปรินซ์เงียบไปทันที จริงด้วยเขาต้องพาเมียไปฮันนีมูนนี่น่า ใบหน้าหล่อเร่งเครียดก้มมองอันดาที่เงยหน้ามาสบตากันพอดี

“ฮันนีมูนเมื่อไหร่ก็ได้ค่ะ เรารีบไปดูคุณแม่ก่อนดีกว่าค่ะ” อันดากอดแขนสามีอย่างให้กำลังใจ ไม่ได้คิดมากกับเรื่องนี้

“ขอโทษนะครับ พี่จะชดเชยให้ทีหลัง” เมื่อขึ้นมาบนรถ ปรินซ์ก็รีบขอโทษขอโพย

“เรื่องนี้มันไม่ใช่ความผิดของใครค่ะ ยังไงสุขภาพคนในครอบครัวก็สำคัญที่สุด”

“พี่คิดไม่ผิดจริงๆ ที่รักอันดา” ปรินซ์ดึงร่างนุ่มนิ่มมากอดแล้วจูบหน้าผากอย่างอ่อนโยนแล้วรีบไปหาแม่ที่โรงพยาบาล

หลังจากวันนั้นปรินซ์ก็วางแพลนใหม่ หาที่เที่ยวในทวีปเดียวกัน เพื่อให้ระยะเวลาเดินทางไม่นานเกินไป แต่ทุกครั้งก็มีเหตุให้ล่มไม่เป็นท่าทุกครั้งไป

“ถ้าพี่พาแม่ไปด้วย อันดาจะโอเคไหม”

ปรินซ์หยั่งเชิงลองโยนหินถามทาง

“โอเคสิคะ อันก็คิดว่าไปเที่ยวเป็นครอบครัวก็ดีเหมือนกัน”

“อันดาคิดแบบนี้จริงเหรอ” พวกเขาไม่เคยไปเที่ยวด้วยกันแบบนั้นเลยจึงจินตนาการภาพไม่ค่อยออก

“ค่ะ อันโตมากับครอบครัวใหญ่ เวลาไปเที่ยวกับครอบครัวหลายๆ คน สนุกดีค่ะ” อันดาแชร์ด้านตัวเองให้สามีฟัง

“งั้นเอาอย่างนี้ไหม ชวนพ่อแม่ พี่ๆ อันดาไปด้วย” ปรินซ์เสนอไอเดีย

“โอเคค่า เดี๋ยวอันชวนฝั่งอัน พี่ปรินซ์ชวนคุณแม่ ไปเที่ยวด้วยกัน”

สองสามีภรรยาสรุปจบแพลนเที่ยวกันใหม่ อยากออกไปเปลี่ยนบรรยากาศโดยมีครอบครัวสองฝั่งไปมีความสุขด้วยกัน

แต่พอถึงวันจริง…กลับไม่เป็นอย่างที่คิด

เมื่อแม่สามีต้องเข้าห้องฉุกเฉินกะทันหันตามเคยและฝั่งครอบครัวอันดาก็บินขึ้นมาจากจังหวัดตรังทั้งพ่อเอก แม่แอน พี่อัทธ์ พี่อิน พี่อาร์ม พี่สะใภ้และหลาน ๆ ทุกคนมากันครบพร้อมเดินทาง

“อย่าคิดมากเลยปรินซ์ พ่อว่าสุขภาพแม่ปรินซ์สำคัญที่สุด” พ่อตาเอ่ยปลอบเมื่อเห็นสีหน้าลูกเขยไม่ค่อยดี

“เอาอย่างนี้ดีกว่าครับ อันดาพาครอบครัวไปเที่ยวนะ”

“จะไปได้ไงคะ คุณแม่พี่ปรินซ์ไม่สบายอยู่”

“อันดาไปพักผ่อนนะครับ ไม่ต้องห่วงทางนี้”

ถึงปรินซ์จะคะยั้นคะยอยังไง อันดาก็ไม่ยอมไป จนปรินซ์ต้องเอาเรื่องค่าใช้จ่ายมาอ้างว่าเขาจองทุกอย่างไว้หมดแล้วจ่ายเงินแล้วด้วย ให้อันดาไปเที่ยวแทนเขาหน่อย อย่างน้อยก็ไปเที่ยวกับครอบครัวไม่ใช่คนอื่นคนไกล จนอันดาใจอ่อนยอมไป

เป็นครั้งแรกหลังจากแต่งงานที่ทั้งคู่ต้องห่างกัน

และเหมือนจะเป็นสัญญาณเตือนบางอย่างจนถึงปัจจุบัน…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel