บทที่ 2 คู่กัด
“ยัยครีมทางนี้” เพื่อนของเธอเมื่อเห็นว่าเธอมาถึงแล้วก็รีบโบกไม้โบกมือเรียกให้เธอเข้าไปนั่งในที่ที่จองไว้ให้
“ว้ายยัยครีมแกไปตกน้ำที่ไหนมา” กานดาเอ่ยตามด้วยความตกใจ
“ไม่ได้ตกน้ำหรอกแกแค่เจอคนพาลอย่าสนใจเลย”
“เป็นงั้นไป งั้นฉันไม่สนเรื่องแกแล้วนะ พวกแกรู้อะไรไหมวันนี้จะมีหนุ่มหล่อมาเรียนกับเราด้วยนะ”
“ใครอ่ะแก แกรู้จักหรอ” น้ำชาถามกลับอย่างตื่นเต้น
“หลายคนเลยแกเชื่อฉันสิ หนุ่มๆคิ้วบอยในมอเราฉันรู้ความเคลื่อนไหวหมดแหละ” กานดาตอบกลับอย่างอารมณ์ดี
“แกนี่ก็จริงๆนะ” ครีมส่ายหัวไปมากับความบ้าผู้ชายของเพื่อน
“นั่นไงๆพูดถึงก็มาพอดีเลย” สี่หนุ่มจากคณะบริหารเดินเข้ามาในห้องปุ๊บก็กลายเป็นเป้าสายตาของสาวๆทันที คติยาเพ่งมองดีๆก็พบว่าหนึ่งในกลุ่มคนที่สาวๆกรี๊ดมีไอ้คนพาลของเธออยู่ด้วย
“หมอนั่นนี่”
“แกเรียกใครหมอนั่นยัยครีม” น้ำชาถามกลับอย่างสงสัย
“ก็คนที่ทำฉันเปียกอย่างนี้ไงล่ะ”
“คนไหนๆ”
“คนที่ใส่เสื้อคลุมน่ะ”
“ตายแล้วคนนั้นน่ะชื่อโอม ทายาทเจ้าของกิจการส่งออกผ้าทอรายใหญ่ของประเทศเราเลยนะ หล่อเนาะในรูปว่าหล่อแล้วตัวจริงหล่อกว่า”
“ฉันไม่สนหรอก ฉันแค่เซ็งที่ต้องได้มาเรียนกับหมอนั่น”
“ฮ่าๆเขาก็คงไม่สนใจแกเหมือนกันนั่นล่ะ” กานดาตอบกลับเพื่อนสาวขำๆ
“อาจารย์มาแล้วเราหยุดคุยกันก่อนดีกว่า”
“โอเคๆ” อาจารย์สอนเนื้อหาที่เรียนไปสักพักเขาก็พูดถึงเรื่องงานที่อยากให้นักศึกษาต่างคณะได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างกัน โดยเขาจะทำการสุ่มชื่อให้นักศึกษาจับคู่กันออกมาบรรยายหัวข้อเกี่ยวกับความสุขในรั้วมหาวิทยาลัย
“กรี๊ดด ฉันไปคู่กับภูผา โอ้ยฉันจะเป็นลม”
“ฉันคู่กับยัยมิ้น”
“ฮ่าๆพวกไม่มีดวง แล้วแกล่ะครีมคู่กับใคร”
“โอม”
“กรี๊ดด ฉันว่าดวงแกกับเขาคงสมพงษ์กันแล้วล่ะ ฮ่าๆ”
“ฉันไม่ขำนะเปลี่ยนกันได้ไหมน้ำชาฉันไปคู่กับยัยมิ้นแทน นะๆ”
“ได้ที่ไหนกันเล่าครีมอาจารย์เขาเป็นคนเลือกให้เรานี่ เปลี่ยนไม่ได้จ้ะ”
“อืม ก็จริงของแก” เมื่อรู้แล้วว่าคู่กับใครอาจารย์ก็บอกกำหนดการเสนอความเห็นนี้ เขาให้เวลาหนึ่งอาทิตย์ในการคิดหาคำตอบ หลังเลิกเรียนกานดาเลยชวนเพื่อนๆเดินไปหาหนุ่มๆ
“สวัสดีเราชื่อกานดานะ เราได้คู่กับภูผา ส่วนนี่ครีมจ้ะ ครีมได้คู่กับโอมนะ” กานดาจัดแจงแนะนำทุกอย่างให้เสร็จ
“อืม ยินดีที่ได้รู้จัก” ภูผาตอบกลับนิ่งๆต่างจากโอมที่แค่มองคู่ของตนเฉยๆ
“เวลานัดทำงานเราก็นัดพร้อมกันเลยดีไหมเรากับครีมจะได้มาพร้อมกัน”
“ก็ดีแล้วแต่เถอะแต่สถานที่ฉันจะเป็นคนเลือกนะ”
“โอเคๆได้เลยจ้ะ” เป็นเวลาห้าโมงเย็นนนทิพัชร์ขับรถหรูของตนมาจอดที่คฤหาสน์หลังใหญ่แต่ชั่งเงียบเหงา สถานที่แห่งนี้ทำให้คนที่ยังมีชีวิตที่ต้องอาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนี้ต้องรู้สึกอ้างว้าง
