Chapter 5 คนนี้หรือคนไหน...
สายลมโชยนอกหน้าต่าง พัดพลิ้วใบไม้ให้ลู่ไหวไปตามทิศทางลม ป่านฝันหลับตาพริ้มนอนสบายบนเตียงอุ่น ความสุขสิ้นสุดลงในบัดดล เมื่อนาฬิกาหัวเตียงแผดเสียงลั่นตามเวลาเดิมเหมือนอัดอันมานาน มันยังทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม ไม่มีวันหยุด ไม่มีลาป่วย หรือแม้แต่ลาพักร้อนแม้แต่สักวันเดียว เมื่อคืนเธอคงเมามากจนลืมปิดการเตือนประจำสัปดาห์แน่นอน
คุณเดือนประดับเปิดประตูเข้ามา นางเดินเลยเข้าไปใกล้ตัวลูกสาว หยิบนาฬิกาปลุกที่กำลังแผดเสียงลั่นมาแนบข้างหูป่านฝัน จนคนนอนดึงผ้าห่มผืนหนามาปิดหู พันร่างตัวเองเหมือนหนอน แต่คนเป็นแม่ก็ไม่ยอมแพ้ นางยังพยายามยื้อแย่งดึงผ้าห่มออก จนในที่สุดคนที่ยอมก็เป็นป่านฝัน เธอมุดหน้าออกมาจากผ้าห่ม พร้อมกับยกคอขึ้นมองมารดาอย่างงัวเงีย
แม่! นี่มันวันหยุดนะคะ ป่านขอนอนต่อนะ” หลังจากบอกมารดา เธอก็เตรียมที่จะล้มหัวลงนอนต่อ แต่คนเป็นแม่ขัดขึ้นมาเสียก่อน
“ใช่ แม่ไม่เถียงว่าวันนี้เป็นวันหยุดของป่าน แต่วันนี้ป่านต้องไปพบคุณทาริกาเพื่อนของแม่ แม่บอกป่านไว้ตั้งแต่วันจันทร์ หรือว่าลูกลืม”
ป่านฝันได้ยินที่มารดาบอกก็ตอบกลับเสียงอ่อย “ป่านลืมไปเลย เรา
ต้องไปพบคุณป้าทาริกาเรื่องอะไรนะคะ เลื่อนเป็นวันอื่นไม่ได้เหรอคะ” หญิงสาวดึงผ้าห่มออกและถามมารดาทั้งที่ยังปรือตาไม่ขึ้น ลองต่อรองมารดาดู
“เรื่องที่ป่านจะต้องแต่งงานกับลูกชายของคุณป้าทาริกาในอีก 3 เดือนข้างหน้า” มารดาบอกย้ำ
“แต่งงาน!” เธอร้องออกมาสุดเสียงเพราะความตกใจ ไม่คิดว่ามารดาของเธอจะมีความคิดแบบนี้ด้วย
“ป่านเคยบอกแม่แล้วนะคะว่าป่านจะแต่งงานกับคนที่ป่านรัก แล้วแม่ก็เห็นดีกับความคิดนั้นไม่ใช่เหรอ”
“ใช่! แต่แม่เคยเห็นด้วยกับความคิดนี้ของป่านเมื่อสิบปีก่อน ถึงตอนนี้แม่ก็ยังไม่เห็นวี่แวว ไหนละ! คนที่ป่านรัก และก็รักป่าน แม่ไม่เห็นว่าที่ผ่านมาป่านจะพามาแนะนำให้ที่บ้านรู้จักสักที แม่ให้เวลาป่านมานานมากแล้วนะ ทุกวันนี้ป่านเอาแต่ทำงาน แม่ว่ามันถึงเวลาที่ป่านจะต้องทำตามที่แม่ขอบ้าง” น้ำเสียงของคุณเดือนประดับทอดระโหยเหมือนเฝ้ารอมานาน
“แล้วถ้าภายในเวลา 3 เดือนนี้ ถ้าป่านได้แต่งงานกับคนที่รักป่านล่ะคะ แม่จะว่ายังไง” ป่านฝันเสนอข้อต่อรองกับมารดาอีกครั้ง อย่างน้อยมันก็เป็นทางเลือกสำหรับเธอ
ทำไมช่วงนี้มีแต่คนพูดถึงเรื่องแต่งงานของเธอกันจัง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน หรือแม้กระทั่งแม่ ทั้งที่ผ่านมา แม่ไม่เคยวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวของเธอเลยสักครั้ง การขึ้นคานมันเลวร้ายมากขนาดนั้นหรือไง
“ก็ได้ ถ้าป่านมีคนที่ป่านรักและเลือกที่จะแต่งงานด้วยแล้ว แม่จะไม่บังคับและให้เวลาจนถึงวันครบกำหนด แต่หากไม่เป็นอย่างนั้น ป่านต้องเข้าพิธีแต่งงานกับลูกชายของป้าทาริกาทันที ทั้งแม่และคุณป้าอยากมีหลานเร็วๆ แล้วคู่หมั้นของลูกก็อายุมากแล้วด้วย”
“ค่ะ...” ป่านฝันรับคำไปอย่างนั้น เพื่อให้จบเรื่องไป ทั้งที่คำพูดของมารดาไม่ได้เข้าหูเธอเลยสักนิด จากนั้นหญิงสาวก็ล้มตัวลงนอนเหมือนเดิม
คนเป็นแม่ฉุดร่างของลูกสาวที่ล้มตัวลงนอนขึ้นมาอีกครั้ง
“นี่เราจะทำอะไร”
“นอนต่อไงคะแม่ ป่านเข้าใจที่แม่พูดทุกอย่างแล้วค่ะ”
ป่านฝันตอบโดยไม่ต้องคิด ก่อนที่เธอจะใช้ผ้าห่มผืนเดิมคุมโปง
เหมือนไม่ต้องการรับรู้อะไรทั้งสิ้น ตอนนี้เธอต้องการปิดตาลงเพื่อลดอาการหนักอึ้งบนศีรษะ เพราะมันแทบจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ แล้วในตอนนี้
“ไม่ได้!” คนเป็นแม่ยื่นคำขาดเสียงหนัก
“นี่มันแปดโมงกว่าแล้ว ยังไงลูกต้องตื่นไปอาบน้ำแต่งตัว แม่ให้เวลาครึ่งชั่วโมง ไม่อย่างนั้นแม่จะให้ลูกแต่งงานทันที แล้วเวลา 3 เดือนที่ขอไว้ ก็ลืมมันไปซะ!”
คำพูดของนางเห็นผลทันตา ป่านฝันรีบลุกพรวดพราดวิ่งเข้าห้องน้ำทันที คุณเดือนประดับมองตามยิ้มๆ
“จะรอดมั้ยเนี่ยยัยป่าน”
หลังจากเวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงป่านฝันก็เดินลงมาข้างล่าง ชุดเดรสสีเปลือกมังคุดช่วยขับผิวขาวผ่องให้ชวนมอง เป็นชุดที่เธอคิดว่าเรียบร้อยที่สุดเหมาะจะไปพบผู้ใหญ่ตามความต้องการของมารดา หญิงสาวก้าวตามมารดาที่ยืนรอก่อนจะขับรถออกไปตามเป้าหมายที่มารดาบอก
หลายวันที่ผ่านมาป่านฝันยังคิดไม่ตก หลังจากวันที่เธอได้รู้จักครอบครัวของคนที่มารดาเลือกให้ พอได้รู้จักคนที่เธอต้องแต่งงานด้วย เธอก็ยิ่งคิดหนักเป็นกังวล
‘ทำไมต้องเป็นเขา’
สิ่งที่เธอขอไว้กับมารดาก็สร้างความหนักใจให้เธอไม่แพ้กัน คนที่เธอรักและรักเธอ พอมานึกย้อนเรื่องราวที่ผ่านมาระหว่างเธอกับเขา ก็พบว่ามันยังเป็นเส้นขนานที่หาทางบรรจบกันไม่ได้
ฝ่ามือหมุนวนโทรศัพท์เครื่องจิ๋วอย่างครุ่นคิด ภาพบนหน้าจอเป็นภาพของเธอกับแฟนหนุ่มเมื่อหลายปีก่อน หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่จนมุมกับตัวเอง ถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่รู้ว่าจะจัดการเรื่องราวอย่างไรดี หวนนึกถึงอดีต เธอกับนวินรู้จักกันตั้งแต่ตอนเธอบินไปเรียนปริญญาโทที่อเมริกา
ช่วงแรกที่รู้จักกันเขาดูแลเอาใจใส่เธอดีมาก แม้ว่าจะมีตารางบินถี่ แต่เขาก็ยังหาเวลาติดต่อมาเสมอ มาพักหลังที่เขาเริ่มห่างออกไป ทั้งการเจอหน้าและติดต่อผ่านโทรศัพท์ หรือแม้โลกโซเชียล
หวนนึกมาถึงตรงนี้หัวใจที่อ่อนไหวกับความรักก็เจ็บแปลบขึ้นมา เธอ
ยังคิดไม่ตกเลยว่าเธอกับเขาตอนนี้ ยังคงสถานะแฟนกันอยู่หรือเปล่า
