บท
ตั้งค่า

Chapter 6 โลกกลมๆ

เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นขัดจังหวะอาการเหม่อลอยเจ้าของเครื่อง เธอยกขึ้นมามองอย่างเสียไม่ได้ แต่พอเห็นชื่อของคนปลายสายที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ น้ำตาเจ้ากรรมก็รื้นขึ้นมาดื้อๆ กลายเป็นน้ำอุ่นใสเอ่อปริ่มจวนเจียนจะหลั่งออกมา เธอตกใจอยู่ไม่น้อยที่จู่ๆ เขาก็ติดต่อมาหลังจากที่ร้างลาการติดต่อมานาน

หญิงสาวนึกถึงคำพูดของพราวลดาในวันวาน ‘พูดถึงผี ผีก็มา’

หญิงสาวยกหลังมือปาดน้ำตา พยายามเพ่งมองไปที่เบอร์โทร. เข้าอีกครั้ง เพื่อย้ำความแน่ใจว่าเธอไม่ได้คิดถึงเรื่องของเขาจนตาฝาดไป

“คุณนวิน” หญิงสาวอ่านชื่อเจ้าของสายเรียกเข้า พยายามสะกดเสียงของตัวเองไม่ให้สั่น เลื่อนนิ้วมือไปกดรับสายและทักปลายสายเสียงเรียบ

‘ตาของเธอไม่ได้ฝาดไป แต่เธอควรจะดีใจหรือเปล่าที่เขาติดต่อมา’ นั่นเป็นคำถามที่เกิดขึ้นภายในใจ

“สวัสดีครับป่าน ผมโทร. มารบกวนเวลานอนคุณหรือเปล่า” เสียงปลายสายที่ดังผ่านเครื่องมือสื่อสารเครื่องจิ๋วยืนยันได้ว่าเป็นเสียงเขาจริง เสียงที่รางเลือนในความทรงจำ

“เปล่าค่ะ” เธอตอบไปเพียงสั้นๆ

“เราไม่ได้คุยกันนานเหมือนกันนะ ช่วงนี้ผมมีไฟล์ทบินกลับมาที่ไทย ผมอยากเจอคุณ พรุ่งนี้ผมไปรับนะ”

น้ำเสียงนุ่มที่ทอดมาตามสาย เสมือนเป็นเรื่องปกติทั้งที่เขาขาดการติดต่อไป แต่นั่นก็ทำให้หัวใจของเธอไหวยวบลง อีกหนึ่งเหตุผลคืออยากรู้ว่าเขามีเป้าหมายกับความสัมพันธ์มากน้อยแค่ไหน

เมื่อนึกถึงคำพูดของรินนี่เมื่อวาน เธอก็ตัดสินใจที่จะเจอเขา และตอบตกลงกลับไป แต่ก็ยังเป็นเพียงคำสั้นๆ เหมือนเดิม

“ค่ะ”

“พรุ่งนี้เจอกันนะ ผมมีนัดใกล้ๆ กับที่ทำงานของคุณ” ชายหนุ่มบอกเหตุผลของเขามาอีกประโยค

น้ำลายของหญิงสาวฝืดเหนียวและขมปร่าขึ้นมาดื้อๆ ‘เขาไม่คิดที่จะเข้ามาทำความรู้จักกับแม่ของเธอที่เป็นผู้ใหญ่เพียงคนเดียวหรืออย่างไรกัน’

“ค่ะ” หญิงสาวตอบรับเสียงแผ่ว ก่อนที่ปลายสายจะกดตัดสายสนทนาไป

สายสนทนาถูกตัดไปนานแต่หญิงสาวยังคงหมุนโทรศัพท์ในมือ หัวใจของเธอยังติดค้างกับประโยคสนทนาที่ผ่านมาไม่กี่นาที มันแทบไม่มีรอยต่อของความสัมพันธ์อันดีเกิดขึ้น ไม่มีถ้อยคำหวาน ไม่มีความคิดถึง หรือแม้แต่จะถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ นั่นคือสิ่งที่คนเป็นแฟนกระทำต่อกันหรือเปล่า หรือแค่คนรู้จักกันธรรมดา

ทว่าความคิดนั้นหยุดชะงักลงเมื่อมีเสียงเรียกเข้าอีกสายแทรกขึ้น หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อจู่ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังแทรกขึ้นมาในจังหวะของความเหม่อลอย

เมื่อเห็นชื่อของเพื่อนสนิทที่อยู่บนหน้าจอเธอก็รีบกดรับสาย น้ำเสียงแตกต่างจากเมื่อครู่ลิบลับ “ว่าไง! ยัยดาว”

“เธอไม่ต้องมาทำเสียงห้วนแบบนี้กับฉัน ตอนนี้พวกฉันอยู่ที่ผับเดิม ฉันมีเรื่องท้าดวลกับเธอ ถ้าขาดเธอสักคน ฉันคงจะไม่สนุก”

“เรื่องอะไรอีกละ วันนี้ฉันไม่ว่างทำเรื่องไร้สาระกับเธอนะ” คนปลายสายถามตัดบทอย่างรำคาญ

“ฉันมีผู้ชายที่ตรงสเปกเราสองคนมานำเสนอนะสิ ถ้าคิดว่ายังแน่ และมั่นใจในคำว่าดาวมหาวิทยาลัยที่ครอบหัวอยู่ว่ามันยังคงสถานะเดิม เธอต้องออกมาเจอฉันตอนนี้”

“ฉันไม่ออกแล้วละ ขี้เกียจ พรุ่งนี้ฉันมีนัด ไม่อยากโทรม เชิญล่าเหยื่อไปคนเดียวเถอะ” คนปลายสายตอบกลับอย่างเหนื่อยหน่าย

“พูดอย่างนี้แสดงว่าเธอไม่กล้าใช่ม่ะ! ฉันก็พอรู้มาละนะคำว่าคานทองทำให้เธอขาดความมั่นใจไปมากกว่าครึ่ง เสียทีที่เป็นถึงดาวมหาวิทยาลัย ถ้าเธอไม่กล้ามาฉันยิ่งจะเยาะเย้ยเธอมากกว่านี้อีก” ดารกาเยาะเพื่อนสาวและตัดสายไปทันที

เจอคำพูดเย้ยหยัน มีหรือที่คนอย่างป่านฝันจะยอมแพ้ ยิ่งยั่วยุอารมณ์ป่านฝันได้ดี เธอยอมไม่ได้เด็ดขาด

ไม่ถึงสี่สิบนาที ป่านฝันก็มายืนอยู่ที่หน้าผับ สองขาก้าวฉับๆ เดินเข้า

ไปทันที ไม่ทันได้สังเกตคนที่เดินตามเธอเข้าไป แต่ถึงเธอจะสังเกตก็คงจำเขาไม่ได้

“ไฮ! ป่าน” รินนี่เป็นคนร้องทักก่อน หญิงสาวจึงเดินเข้าไปหากลุ่มเพื่อน

“นึกว่าจะปอดแหกไม่กล้ามาซะแล้ว” ดารกาทักขึ้นตามหลัง

ป่านฝันเองก็เพิ่งสังเกตว่าตัวเองอยู่ในวงล้อมของพวกผู้ชาย และทั้งโต๊ะก็มีเพียงดารกาคนเดียวเท่านั้นที่เป็นผู้หญิงแท้

“ฉันนึกว่ามากับกลุ่มเราเสียอีก” ป่านฝันเอียงคอไปกระซิบถามรินนี่ ดารกาที่อยู่ไม่ไกลได้ยินเข้าพอดี

“เพื่อนกันทั้งนั้นแหละ นั่งก่อน นี่คุณพัทธ์ หุ้นส่วนโรงแรมของพ่อฉัน เขาเป็นเพื่อนกับรินนี่ด้วย ส่วนนี่ก็คุณก้อง คุณแมน แล้วสาวงามที่เข้ามาใหม่ ป่านฝันค่ะ” ดารกาแนะนำอย่างอารมณ์ดี พูดอย่างนี้มองปราดเดียวป่านฝันก็ดูออกว่าธงเกมของวันนี้เป็นใคร

“ดื่มอะไรดีครับ” ชายหนุ่มที่นั่งอยู่หันมาถาม แต่ดารกาเป็นคนชิงตอบแทนเสียก่อน

“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะคุณแมน ของป่าน ดาวเตรียมไว้ให้แล้ว” ดารกาเลื่อนแก้วของเธอที่อยู่ตรงหน้าให้เพื่อนสาว คบกันมานาน เธอรู้อยู่แล้วเต็มร้อย ยังไงป่านฝันก็มา

ป่านฝันไม่ใส่ใจเพื่อนนัก รับเครื่องดื่มจากมือเพื่อนสาวมาจิบแล้ววางมันลงที่เดิม และเปิดเกมรุกทันที ยังไงเธอก็ไม่มีวันยอมแพ้ดารกาแน่นอน ทุกครั้งเธอจะสู้ใจขาดดิ้น

“คุณพัทธ์คะ ไปแดนซ์เป็นเพื่อนป่านหน่อยสิคะ ป่านชอบเผาผลาญค่ะ” ไม่พูดเปล่า เธอเอี้ยวตัวไปเกาะแขนชายหนุ่มทันที อีกคนได้แต่เดินตามไปเท่านั้น

แต่ทั้งนี้ไม่มีใครจะมีความสุขมากเท่าดารกา เธอมองทั้งคู่อย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง ทุกอย่างเป็นไปตามแผน โดยที่คนกลางฟลอร์ไม่มีโอกาสได้รับรู้เลยสักนิด

เรื่องของวันนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างเพื่อนทั้งคู่ของป่านฝัน

พวกเขาต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่างในเรื่องที่ป่านฝันประกาศออกไปเมื่อ

สัปดาห์ก่อน

ป่านฝันโอบคอคู่เต้นอย่างยั่วยวนกลางฟลอร์ และก็ไม่รอดพ้นจากสายตาของชายหนุ่มอีกคน เขามองหญิงสาวอย่างดูแคลน เธอช่างไม่รักษาเกียรติของหญิงไทยเลยสักนิด ถึงแม้เขาจะจบจากเมืองนอก และใช้ชีวิตที่นั่นเป็นส่วนใหญ่ แต่เขาก็ไม่ชอบให้หญิงไทยทำตัวแบบนี้อยู่ดี

ทวิชเดินเข้าผับในเวลาไล่เลี่ยกับป่านฝัน และเธอก็อยู่ในสายตาของเขาตลอดเวลา ภาพของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มมองตามโดยไม่รู้สาเหตุ ทางที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเธอสักนิด

‘มันจะมากไปมั้ยเนี่ย! เพื่อผู้ชายคนเดียวต้องลงทุนขนาดนั้นเลยหรือไง’

ทวิชมองท่าทางของป่านฝันอย่างไม่เข้าใจหงุดหงิดในอารมณ์ พานนึกโมโหเพื่อนที่นัดเขามาผับนี้ ก่อนที่เขาจะเดินออกไป โดยไม่ทนรอคนนัด ที่ยังขับรถฝ่าจราจรแน่นขนัดมาไม่ถึง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel