บทที่ 4
ปัง!!
เสียงปืนที่ดังขึ้นกระหน่ำไปพร้อมๆ กับกระสุนที่ฝังถูกขมับจากรูปถ่ายของใครบางคนที่ถูกแปะเอาไว้เป็นเป้านั้นทำเอาคนที่เฝ้ามองดูอยู่ห่างๆ ลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเฝืองเมื่อได้เห็นถึงความแม้นยำจากการยิงปืนของเจ้านายหนุ่มของตัวเองเข้า ผู้ซึ่งไม่เคยมีเลยสักครั้งที่กระสุนของเขานั้นมันจะพลาดเป้าหมายอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ และในครั้งนี้เองก็เช่นกันที่ทุกๆ อย่างนั้นยังคงสมบูรณ์แบบเหมือนอย่างแล้วๆ มา
“งานที่ฉันสั่งให้คนของเราทำตอนนี้คืบหน้าไปถึงไหนแล้วกวี!” ภูวดล เอ่ยถามคนสนิทที่มักจะติดตามเขาไปทุกทีหลังจากที่ส่งเอาปืนในมือกลับไปให้อีกฝ่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นัยน์ตาดุสีดำทมิฬจ้องมองมือขวาคนสนิทที่รู้ใจเขามากว่าใครๆ เพื่อรอฟังคำตอบที่เขาต้องการจะได้ยิน
“ทุกอย่างเตรียมพร้อมเอาไว้หมดแล้วครับ ตอนนี้เราก็รอแค่เวลาเท่านั้นครับนาย” อีกฝ่ายตอบกลับอย่างนอบน้อม แม้ในใจจะรู้สึกไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เจ้านายของตนเองกำลังคิดจะทำแต่ก็ยากที่เขาจะกล้าเอ่ยขัด
“ดี! งานนี้เราจะพลาดไม่ได้ ฉันอยากจบเรื่องนี้มันให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่วิญญาณของศรุตาน้องสาวฉันจะได้ไปสู่สุขติเสียที! งานครั้งนี้จะมีคำว่าผิดพลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด!!” ภูวดลเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินออกมาจากห้องซ้อมยิงปืน ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบเอากระเป๋าสตางค์ที่ภายในนั้นเขามักจะพบเอารูปถ่ายของ ศรุตา น้องสาวที่เขารักเสียยิ่งกว่าชีวิตของตัวเองไปด้วยทุกที่ แม้ว่าตอนนี้เวลานี้นั้นคนในรูปจะไม่ได้อยู่ให้ได้ปกป้องแล้วก็ตามแต่เขาจะไม่มีวันยอมให้การตายของเธอต้องสูญเปล่า
“ถึงเวลาของเราแล้วตา...ถึงเวลาของพวกเราแล้วจริงๆ พี่จะแก้แค้นให้น้องเองไม่ต้องห่วง” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเบาๆ ก่อนจะก้าวเดินออกไปเบื้องหน้าพร้อมๆ กับความแค้นที่กำลังใกล้ถึงเวลาชำระความเข้ามาทุกชั่วขณะ ความแค้นที่เขาเฝ้ารอเวลาที่เหมาะสมเพื่อที่จะได้สนองคืนทุกๆ สิ่งที่ไอ้ผู้ชายสารเลวคนนั้นมันเคยทำไว้กับน้องสาวที่น่าสงสารของเขา ทุกๆ สิ่งที่มันทำลงไปมันจะต้องได้รับการชดใช้อย่างสมน้ำสมเนื้อที่สุด!
และตอนนี้มันก็ถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะเอาคืน!!
ค่ำของวันถัดมา
ภายในงานเลี้ยงที่รวมรวบเอานักธุรกิจมากหน้าหลายตาให้มารวมกันได้อย่างลงตัวนั้น ภาพของหญิงสาวในชุดราตรีสีขาวแหวกอกตกเป็นเป้าสายตาคนทั้งงานทันทีที่เธอปรากฏตัวพร้อมๆ กับเปรมและลดาพี่สะใภ้ ขวัญชนกรู้สึกประหม่าไปไม่น้อยกับสายตาของชายหนุ่มในงานเลี้ยงหลายสอบคู่ที่กำลังจับจ้องมาที่เธอในตอนนี้ ไม่รู้ว่าเธอมีอะไรที่แปลกไปจากคนอื่นถึงได้มีแต่คนจ้องกันอย่างไม่ยอมละสายตาไปไหนเลย
“ตื่นเต้นเหรอจ๊ะน้องขวัญ ดูสิหน้าซีตเชียว”
ลดาที่เป็นคนอาสาเลือกชุดพร้อมทั้งแต่งหน้าทำผมให้น้องสาวของสามีอดไม่ได้ที่ต้องเอ่ยถามในขณะที่ลึกๆ ในใจนึกเกลียดตัวเองขึ้นมาหน่อยๆ ที่ดันเลือกเอาชุดนี้ให้อีกฝ่ายสวมใส่ เพราะนอกจากมันจะทำให้ขวัญชนกดูสวยกว่าเธอแล้วนั้น ยังเรียกเอาสายตาจากคนในงานให้พุ่งเป้ามาที่เธอกันอย่างไม่ขาดสายอีกด้วย นั่นเลยทำให้เธอดูไม่มีตัวตนไปเลย
เพราะว่าความสวยของอีกฝ่ายนั้นตอนนี้มันได้กลบเอารัศมีของเธอไปจนมิด และแม้ว่าจะสวมใส่เพรชเม็ดโตมาอวดก็ยังไม่มีใครเลยจะหันมาจ้องมองกันเหมือนอย่างที่ทุกคนกำลังมองมาที่อีกคน
“นิดหน่อยค่ะพี่ดา ขวัญไม่ค่อยได้มีโอกาสมางานแบบนี้สักเท่าไหร่ แต่ขวัญจะไม่ทำให้พวกพี่สองคนต้องขายขี้หน้าใครนะคะ ไม่ต้องห่วง” ขวัญชนกเอ่ยตอบพี่สะใภ้พร้อมรอยยิ้มบางเบา ความตื่นเต้นที่มีมากทำให้เธอรู้สึกประหม่าไปหมด ไม่คิดว่าเลยงานเลี้ยงของพวกไฮโซจะน่าเบื่อแบบนี้ เพราะหากรู้ก่อนล่วงหน้าเธอคงเลือกที่จะไม่มาเสียดีกว่า
“เอาเถอะจ๊ะ ครั้งแรกก็แบบนี้แหละ เดี๋ยวถ้าขวัญได้มาบ่อยๆ ก็คงจะชินไปเอง ถ้ายังไงเดี๋ยวดาขอพาน้องไปหาอะไรดื่มแก้เขินสักหน่อยนะคะพี่เปรม เราไปกันเถอะจ๊ะ” เปรมได้แต่พยักหน้ารับคำบอกกล่าวภรรยาไปส่งๆ ทว่าสายตาเจ้าเล่ห์นั้นกลับเอาแต้จ้องมองขวัญชนกไม่ละสายตา ยามเมื่อสะโพกกลมมนขยับซ้ายขวาตามก้าวที่เดินออกไปนั้นมันช่างเป็นภาพที่ชวนหลงใหลจนอดที่จะจินตนาการไปถึงวันเวลาที่หญิงสาวไม่ได้สวมอะไรเลยออกมาไม่ได้ หากลองเขาได้เจอเธอเร็วกว่านี้อีกสักนิดล่ะก็ ลดาไม่มีวันขึ้นแถ่นมาเป็นภรรยาตามกฏหมายของเขาอย่างแน่นอน
“ผู้หญิงอะไรวะ! ยิ่งมองก็ยิ่งน่าฟัดเป็นบ้า...”
เสียงเข้มเอ่ยบอกเบาๆ ก่อนจะหันไปเริ่มต้นพูดคุยกับนักธุรกิจด้วยกัน แต่กระนั้นสายตาเจ้ากรรมก็ยังไม่วายคอยหันไปมองสองสาวอยู่เป็นระยะๆ โดยหารู้เลยว่าการกระทำของตัวเองนั้นกำลังถูกจ้องมองจากสายตาของใครหลายคนที่อยู่มองเหตุการณ์อยู่ในมุมมืดมุมหนึ่งของงาน
“ผู้หญิงคนนั้น...ใครกัน!” ภูวดลเอ่ยถามคนสนิทหลังจากที่ยืนจับตามองเป้าหมายของตัวเองที่ตอนนี้เอาแต่มองก้นงอนๆ ของหญิงสาวที่สวยเสียจนเขาเองก็แทบจะละสายตาจากเธอไปไม่ได้ในวินาทีแรกที่ได้เห็น ความสวยโดดเด่นที่ใครเห็นเป็นต้องมองตากระพริบทำให้ต่อมความอยากรู้ของนายหัวที่ทั้งชีวิตอุทิศให้แต่งานในไร่จนไม่มีเวลาไปศึกษาดูใจกับหญิงสาวคนไหนๆ เป็นเรื่องเป็นราวกำเริบหนัก มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังตาค้างกับการมองตามแผ่นหลังบอบบางของใครคนนั้นที่ว่า
“คุณลดาน่ะเหรอครับนาย เธอก็เป็น....”
“แกคิดว่าฉันจะถามถึงคนที่รู้ดีแก่ใจอยู่แล้วว่าเป็นใครอย่างงั้นเหรอไอ้วี! อีกคน!! คนสวยๆ หุ่นน่าฟัดนั่นต่างหาก ใครกัน” ภูวดลตวาดมือขวาก่อนจะชี้ไปยังเป้าหมายที่แท้จริงของตัวเองให้กวีได้มองตามก่อนเขาจะได้เห็นหญิงสาวอีกคนเข้า นั่นเลยทำให้เขาถึงกลับร้องอ้อออกมา
