บทที่ 2
“ขวัญ....” ผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกเสียใจที่ปล่อยให้ลูกกับเมียต้องอยู่กันอย่างลำบากมาตลอดหลายสิบปีโดยที่เขาไม่สามารถช่วยอะไรทั้งคู่ได้เลยเนื่องจากมายาคอยจับตาดูอยู่ไม่ห่างและหากเขาทำอะไรมากไปก็กลัวว่ามันจะกลายเป็นผลเสียต่อลูกและภรรยาที่เขารักและยังคงรักเธออยู่ได้เอาง่ายๆ เขาจำต้องยอมกลายเป็นพ่อเลวๆ ในสายตาของลูกเพื่อปกป้องเธอและแม่ไม่ให้มายาส่งคนของพ่อเธอไปทำร้ายหรือรังควาน
“ขวัญเหนื่อยค่ะ ขอนอนพักได้ไหมคะ”
“ได้สิลูกได้ ถ้าอย่างนั้นขวัญพักผ่อนไปก่อนนะ เย็นนี้หกโมงเจอกันที่ห้องอาหารนะลูก พ่ออยากจะแนะนำพี่เปรมกับพี่ลดาภรรยาของพี่เขาให้ขวัญได้รู้จัก ตกลงเอาตามนี้นะลูกนะ” หญิงสาวพยักหน้ากลับไปให้อีกคนส่งๆ ก่อนประตูห้องนอนจะถูกผู้เป็นพ่อปิดให้อย่างเบามือพร้อมหัวใจที่เป็นสุข นั่นเลยทำให้คนที่กล่ำกลืนฝืนทนมานานปลดปล่อยน้ำตาออกมาอย่างหักห้ามไม่อยู่ เธอไม่คิดเลยว่าชีวิตจะต้องมาทนทำอะไรแบบนี้ แต่อีกไม่นานนักหรอก หากเธอมีงานดีๆ มีเงินเก็บมากพอเมื่อไหร่รับรองเลยว่าเธอจะไม่รีรอที่จะรีบพาตัวเองออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
ไปจากแม่เลี้ยงใจร้ายที่เกลียดเธอมากทั้งๆ ที่แย่งชิงเอาทุกสิ่งไปจากเธอ ไปจากพ่อที่ทอดทิ้งเธอและแม่ไปอย่างใจร้ายใจดีที่สุด!
ทว่าเมื่อถึงเวลาทานข้าวเย็นตามกำหนดขวัญชนกกลับลงมาช้ากว่าปกติถึงครึ่งชั่วโมงเต็ม และแน่นอนว่าทุกๆ คนที่โต๊ะอาหารต่างก็ต้องแขวนท้องรอเธอตามคำสั่งของเจ้าของบ้านอย่างวิศรุตที่ดูเหมือนว่าอยากจะเอาใจลูกสาวจนไม่สนใจใครแม้แต่ภรรยาของตัวเอง ภาพของทุกคนที่นั่งรอการมาของเธออยู่นั้นทำให้คนมาใหม่จำต้องเอ่ยขึ้นทันทีที่มาถึง
“ขอโทษที่ขวัญลงมาช้าค่ะ พอดีเตียงที่ห้องมันนอนสบายมาก ขวัญเลยเผลอหลับนานไปหน่อย” หญิงสาวเอ่ยขึ้นก่อนจะจ้องมองคนที่เพิ่งจะเคยเห็นหน้าอีกสองคนด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก และเธอก็ไม่ได้คิดที่จะใส่ใจอะไรมันเพราะคนพวกนี้ไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับเธออยู่แล้ว
“ไม่เป็นไรลูกไม่เห็นจะช้าอะไรเลยจริงไหม มานั่งใกล้ๆ พ่อเถอะมา สีนวลสั่งเด็กตักข้าวได้เลย ทุกๆ คนคงหิวแล้ว” แม่บ้านชรารับคำทันทีที่ขวัญชนกทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ผู้เป็นพ่อตามคำขอร้องของอีกฝ่ายที่ได้ยิ้มให้
“เอาล่ะ! พ่อจะขอแนะนำให้รู้จัก นี่ขวัญชนกนะเปรม น้องสาวของแก ส่วนนี่พี่เปรมลูก นั่นก็พี่ลดา ภรรยาของตาเปรมเขา รู้จักกันเอาไว้ เพราะต่อจากนี้ไปขวัญชนกจะเข้ามาอยู่กับพวกเราที่นี่” วิศรุตเริ่มต้นแนะนำให้ลูกสาวได้รู้จักลูกชายที่เกิดมาจากมายาและสามีคนก่อนของเธอพร้อมด้วยสะใภ้คนสวยที่ยิ้มรับก่อนจะจ้องมองหญิงสาวที่นั่งฝั่งตรงกันข้ามด้วยความอิจฉาในความสวยของเธอที่มีมากเสียจนสามีจอมเจ้าชู้ของเธอเผลอมองตาไม่กระพริบ ซึ่งขวัญชนกเองก็ยิ้มรับก่อนจะย่นคิ้วอย่างสงสัยเพราะสายตาของพี่ชายยังคงมองกันไม่หยุด
“ไม่ทราบว่าหน้าขวัญมีอะไรติดอยู่เหรอคะพี่เปรม” เปรมแทบจะผงะไปทันทีที่เสียงหวานจับใจของน้องสาวต่างสายเลือดดังขึ้น ชายหนุ่มได้แต่หัวเราะแห้งๆ หลบซ่อนความพึงพอใจในรูปร่างหน้าตาของอีกฝ่ายเอาไว้แทบไม่มิดก่อนจะตัดสินใจเอ่ยตอบกลับไปเพราะเห็นว่าหลายๆ คนเริ่มมองมาที่เขาเหมือนจะรู้มันนิสัยที่เขาไม้ได้คิดจะปิดบังอะไรใคร
“เปล่าหรอก พี่แค่รู้สึกคุ้นๆ หน้าขวัญ บางทีเราอาจจะเคยเจอกันที่ไหนมาก่อน แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก” คนกระล่อนที่เอาตัวรอดไปได้เรื่อยๆ แก้ต่างให้ตัวเองก่อนจะส่งยิ้มให้น้องสาวที่เขารู้สึกพอใจเป็นที่สุด
“อาจเป็นเพราะหน้าขวัญโหลก็ได้มั้งคะ ยังไงก็ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ภรรยาของพี่เปรมสวยมากเลยค่ะ พี่ลดาใช่ไหมคะ” ลดาได้แต่ยิ้มรับคำชมพร้อมหยักหน้าก่อนตวัดสายตาหันไปมองสามีที่ขึ้นชื่อถึงความเจ้าชู้จนเธอต้องตามเก็บตามกวาดมาตลอดสองปีที่อยู่ด้วยกันมา แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่เคยคิดที่จะหยุดนิสัยที่ว่านั้นเลยสักครั้ง ทั้งหมดเริ่มต้นทานข้าวกันไปอย่างเงียบงันท่ามกลางความอึดอัดที่ก่อตัวขึ้นเป็นระยะๆ ก่อนที่มายาจะตัดสินใจเอ่ยถามลูกชายที่นางรักและอยากจะให้ทุกๆ สิ่งตกเป็นของเปรมแต่เพียงผู้เดียว ส่วนคนอื่นนั้นจะต้องไม่มีสิทธิ์อะไรในสมบัติของสามีเธอทั้งนั้น ต่อให้อีกฝ่ายขะเป็นถึงลูกสาวเพียงคนเดียวที่มีสายเลือดของเขาอยู่ตั้งครึ่งคร่อนหนึ่งก็ตามที นางจะไม่ยอมให้เรื่องบ้าๆ แบบนั้นเกิดขึ้น
