บทที่ 1
“ดีสิคะป้า ขวัญถือเองได้จริงๆ ค่ะ” เมื่อเจ้าตัวยืนยันมาแบบนั้นแม่บ้านวัยชราจึงไม่กล้าขัดใจอะไรมากนักนอกจากเดินนำคุณหนูคนใหม่ของบ้านเข้าไปด้านในที่ตอนนี้นั้นมีคนสองคนกำลังนั่งรอการมาของเธออยู่ในห้องโถงใหญ่ของบ้าน และหนึ่งในนั้นก็คือชายชราที่ทันทีที่เห็นหน้าลูกสาวเขาก็ลุกขึ้นพร้อมรอยยิ้มก่อนจะเดินตรงเข้าหาขวัญชนกลูกสาวของตัวเองแทบจะทันทีพร้อมกับรอยยิ้มที่แสดงให้เห็นถึงความยินดีปรีดา
“ขวัญ มาถึงแล้วเหรอลูก! พ่อคิดถึงหนูมาก มาให้พ่อกอด...”
“ห้องที่ขวัญจะต้องอยู่ไปทางไหนคะ” ทว่ายังไม่ทันที่เสียงเข้มของคนวิศรุตจะได้เอ่ยต้อนรับลูกสาวอีกคนที่เกิดจาก มายา ภรรยาคนเก่าที่ตอนนี้นั้นเสียชีวิตไปแล้ว เขาเลยต้องรับเอาขวัญชนกมาเลี้ยงด้วยตัวเอง และถึงแม้ว่าตอนแรกอีกฝ่ายจะไม่ยอมท่าเดียวแต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่างมันทำให้เธอจนตรอกจนต้องยอมรับข้อเสนอจากพ่อแท้ๆ ที่ทอดทิ้งเธอกับแม่ไปมีภรรยาใหม่ที่ร้ายกาจเสียยิ่งกว่างูพิษ และนับตั้งแต่นั้นมาท่านก็ไม่เคยคิดที่จะดูดำดูดีสองคนแม่ลูกอีกเลยจนกระทั่งวันที่แม่ของเธอจากไป วันนั้นเองที่เขาปรากฏตัวขึ้นในงานศพพร้อมกับคำขอโทษมากมาย
แต่คนที่ตายไปแล้วไหนเลยจะตื่นมารับรู้อะไรเหล่านี้ได้อีก กลับกลายเป็นคนที่ยังอยู่เสียอีกที่เจ็บปวดจนต้องจิกตัวเองไม่ให้ร้องไห้ออกมา
“ไร้มารยาท! มาถึงแทนที่จะไหว้เจ้าของบ้านแต่นี่อะไรกัน! กลับถามหาห้องของตัวเองหน้าตาเฉย! นิสัยของพวกยาจกชัดๆ” ทว่าเสียงตวาดจากแม่เลี้ยง ผู้หญิงที่ล่อลวงแย่งชิงพ่อของเขาไปจากครอบครัวที่เคยอบอุ่นและมีกันและกันมาตั้งหลายปีกลับดังขึ้นขัดจังหวะเข้าซะก่อนทำให้สายตาของขวัญชนกที่กำลังจ้องมองผู้เป็นพ่อต้องตวัดไปมองเจ้าของเสียงแทบจะทันทีด้วยความรู้สึกไม่พอใจที่อีกฝ่ายต่อว่ากันทั้งๆ ที่ตัวเองนั้นไม่น่าจะมีสิทธิ์ เพราะคนเดียวที่จะว่าเธอได้คือแม่แท้ๆ เท่านั้น!!
“ถ้าอย่างฉันเรียกว่าไร้มารยาท แล้วคนที่จู่ๆ ก็โพล่งขึ้นมาทั้งๆ ที่พ่อลูกเขากำลังคุยกันอยู่ควรเรียกว่าอะไรดีคะ” หญิงสาวตอบกลับไปอย่างหน้าตาเฉยก่อนจะเชิดหน้าขึ้นไม่เกรงกลัวอีกคน คนที่พรากเอาครอบครัวที่สมบูรณ์ไปจากเธอ คนที่ทำลายทุกๆ ความสุขภายในครอบครัวที่เธอเคยมี เพราะฉะนั้นจะแปลกอะไรหากเธอจะเกลียดคนๆ นี้
“แก!! นังเด็กเหลือขอ!!”
“หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะคุณมา! คุณจะไปไหนก็ไป ขอผมคุยกันขวัญตามลำพัง มาถึงเหนื่อยๆ ขวัญคงอยากจะพัก ไม่เป็นไรลูกไม่เป็นไร ถ้าอย่างงั้นเดี๋ยวพ่อให้ป้าสีพาไปที่ห้องของขวัญนะ” วิศรุตเอ่ยขึ้นเบาๆ ก่อนจะจ้องมองลูกสาวที่เขาคิดว่าจากนี้ต่อไปคงต้องทุ่มเทให้กับขวัญชนกให้มากๆ เพื่อจะได้ชดเชยความผิดพลาดที่เขาเคยทำเอาไว้กับเธอและแม่ของเธอให้ถึงที่สุดเท่าที่พ่อเลวๆ คนนี้จะทำได้ นั่นคือสิ่งที่ชายชราคิดจะทำ
“ขอบคุณมากค่ะ” ขวัญชนกขานรับเพียงสั้นๆ ก่อนหญิงสาวจะออกตัวเดินไปเบื้องหน้าตามหลังแม่บ้านผู้ใจดีที่รีบพาตัวเองมาเดินนำคุณหนูคนเล็กของบ้านไปยังห้องนอนที่ถูกจัดเอาไว้ให้อย่างดีที่ชั้นสอง
“ฉันล่ะไม่เข้าใจคุณเลยจริงๆ คุณรุต!! ทำไมคุณถึงไม่ซื้อบ้านหรือว่าให้เงินลูกสาวของคุณไปสักก้อน! จะให้เข้ามาอยู่ในบ้านของเราทำไมก็ไม่รู้!!” มายาเอ่ยขึ้นไล่หลัง สายตาเกลียดชังที่เธอใช้มองขวัญชนกนั้นทำเอาวิศรุตต้องลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ให้กับความใจดำของภรรยาที่เขาจำต้องรับผิดชอบเพราะเผลอหลับนอนกับเธอ มายาที่เป็นลูกสาวท่านรองนายกในตอนนั้นทำให้เขาไม่กล้าที่จะปัดความรับผิดชอบที่ควรมีต่อหล่อนไป เขาจำต้องยอมแต่งงานกับหล่อนตามข้อตกลงของทั้งสองฝ่ายจนขวัญชนกและแม่ของเธอเสียใจพากันหนีออกจากบ้านไปในที่สุด
แม้ว่าเขาจะตามหาคนทั้งสองจนพบแต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไรแต่แม่ของขวัญชนกก็ยังคงยืนยันคำเดิมที่จะขออยู่กันแค่สองคนแม่ลูกโดยที่ไม่มีคนเลวๆ อย่างเขาเข้าไปเกี่ยวข้องไม่ว่าจะสถานะไหนก็ตามที สุดท้ายเขาจึงทำได้เพียงส่งคนตามดูคนทั้งสองอย่างเงียบๆ มาโดยตลอดเท่านั้น และไม่นึกเลยว่าอดีตภรรยาที่เขารักเธอหมดหัวใจและจะไม่มีวันยอมให้ใครมาแทนที่เธอจะมาด่วนจากกันไปรวดเร็วเพียงนี้ เขาไม่เคยรู้อะไรเลยสักอย่าง
“ผมคิดถึงลูก ผมอยากให้อะไรแกบ้าง แต่คนอย่างขวัญชนกเงินซื้อเธอไม่ได้ อีกอย่างนะคุณมา ผมไม่ชอบที่คุณพูดจากับลูกของผมแบบนั้น อย่าให้ผมได้ยินอีก! ไม่อย่างนั้นผมจะตัดยอดเงินเดือนในแต่ละเดือนของคุณไปใส่ในบัญชีให้ยัยขวัญเดือนละสองแสน!!” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นกำราบชัดเจนก่อนจะลุกขึ้นเดินตามลูกสาวขึ้นชั้นบนไปติดๆ ทิ้งไว้แต่ภรรยาที่กรีดร้องอย่างไม่พอใจกับคำพูดของสามีตามหลังกันมาติดๆ
“เป็นยังไงบ้างลูก พอจะอยู่ได้รึเปล่าขวัญ หรือหากว่าหนูไม่ชอบอะไรตรงไหนถ้าอยากเปลี่ยนตรงไหนก็บอกมาได้เลยเดี๋ยวพ่อสั่งให้คนมาเปลี่ยนให้ ไม่ต้องเกรงใจนะลูก เพราะที่นี่มันก็คือบ้านของหนูเหมือนกัน” เสียงจากคนที่ยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องทำให้ขวัญชนกที่กำลังเดินสำรวจห้องนอนใหม่ของตัวเองชะงักไปครู่ ก่อนจะหันไปสบตาผู้เป็นพ่อ
สายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ…
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ขวัญอยู่ได้ อันที่จริงห้องนี้มันสวยมาก แถมยังใหญ่โตกว่าบ้านเช่าที่ขวัญเคยอยู่กับแม่เสียอีก” ถ้อยคำที่เรียบเฉยแต่เฉือนใจอีกคนเป็นอย่างยิ่งตอบกลับมาพร้อมกับใบหน้าเย็นชาของลูกสาว
