บทนำ
ปฐมบท
จุดเริ่มต้นของความแค้น
ไร่รินวรส
ท่ามกลางความเงียบสงบในงานศพของ ‘ศรุตา’ บุตรสาวคนเล็กของนายหัวขจรกับนายหญิงปรางทิพย์ ที่ล่วงลับไปนานแล้วเหลือไว้เพียงแค่ลูกชายกับลูกสาวที่ช่วยกันพยุงไร่กุหลาบของพ่อและแม่ด้วยกันสองคนพี่น้องมาโดยตลอด จนกระทั่งเกิดเรื่องที่ใครก็ไม่อาจจะคาดฝันขึ้นเมื่อสามคืนที่ผ่านมา ศรุตา บุตรสาวคนเล็กของนายหัวขจรและคุณหญิงปรางทิพย์กินยาฆ่าตัวตายภายในห้องนอนของตัวเองก่อนจะทิ้งเอาจดหมายลาตายฝากไว้ให้พี่ชายเพียงคนเดียวของตัวเอง ซึ่งในจดหมายนั้นถูกเขียนไว้ด้วยข้อความสั้นๆ ว่า
พี่ภูค่ะ น้องขอโทษที่คิดสั้น แต่น้องอยู่ต่อไปไม่ได้ถ้าขาดเปรม น้องรักเขามาก และน้องขอเลือกความตายหากจะต้องเสียเขาไปจริงๆ ชาติหน้าน้องขอเกิดมาเป็นน้องสาวของพี่ภูอีกครั้งนะคะ
ให้อภัยน้องนะคะ
ศรุตา
เรื่องราวต่างๆ มากมายมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อนาย เปรม นักศึกษาหนุ่มจากกรุงเทพเข้ามาขอฝึกงานในไร่กุหลาบของสองพี่น้องในช่วงปิดเทอม ซึ่งทันทีที่พบหน้าเด็กหนุ่มรูปงามคนนั้นศรุตาก็ไม่รีรอที่จะรีบเร่งเร้าให้ ภูวดล พี่ชายของเธอรับเอาเขาเข้ามาฝึกงานที่ไรของเธอในทันที ทั้งสองแอบชอบพอกันและก่อเกิดเป็นความรักขึ้นมาในที่สุด ทว่าเมื่อวันเวลาผ่านไปเปรมนั้นจำต้องกลับไปเรียนต่อให้จบ หากแต่ยังไม่ทันไรชายหนุ่มกลับติดต่อไม่ได้จนศรุตาร้อนใจเป็นห่วงจำต้องขอร้องให้พี่ชายพาขึ้นกรุงเทพ ก่อนจะได้พบความจริงอันน่าเศร้าว่าชายหนุ่มนั้นหมั้นหมายไปกับผู้หญิงคนอื่นไปเสียแล้ว และเขาเองก็ยังตราหน้าเธอต่อหน้าคนรักสาวด้วยว่าความรักที่เกิดขึ้นในไร่กุหลาบของเธอและพี่ชายนั้นเป็นแค่รักชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น เขาไม่ได้จริงจัง และไม่มีวันรักผู้หญิงขี้โรคอย่างเธอ
ศรุตาจำต้องหอบเอาความปวดร้าวแสนสาหัสกลับมาไร่กุหลาบของตัวเองพร้อมๆ กับพี่ชายที่โมโหจนแทบจะพังงานหมั้นในวันนั้นไปแล้วหากน้องสาวของเขาไม่มาเป็นลมล้มพับไปเสียก่อน หญิงสาวที่หลังจากกลับมาจากกรุงเทพก็เก็บตัวเงียบก่อนจะตัดสินใจคิดสั้นไปในที่สุด...
ภูวดล พี่ชายของศรุตาเป็นคนสุดท้ายที่ขึ้นไปวางดอกไม้จันให้กับน้องสาวที่เขารักยิ่งกว่าชีวิตของตัวเอง ชายหนุ่มจ้องมองรูปถ่ายที่ตอนนี้คนในรูปนั้นกำลังส่งยิ้มหวานละมุนมาให้กันอยู่นานท่ามกลางความปวดร้าวในใจ รอยยิ้มของน้องสาวที่เขาคงไม่มีวันที่จะได้เห็นมันอีกแล้ว...
“หลับให้สบายนะตา...ที่เหลือพี่จะจัดการให้แกเอง ใครที่มันทำให้พวกเราเจ็บปวด พวกมันจะต้องเจ็บกว่าเป็นร้อยเท่า! พี่ให้สัญญา” คำพูดสุดท้ายสิ้นสุดลงพร้อมๆ กับมือหนาหยาบกร้านแข็งกระด้างของคนที่ทำงานหนักมาทั้งชีวิตจะค่อยๆ วางดอกไม้จันลงเพื่อส่งน้องสาวสุดที่รักขึ้นสวรรค์ไปหาพ่อและแม่ จากนั้นจึงเดินลงมายืนมองดูควันจากเมนที่เผาศพน้องสาวไปพร้อมๆ กับความแค้นที่รอวันชำระคืนให้สาสมกับไอ้คนที่มันทำเรื่องเลวทรามต่ำช้ากับน้องสาวของเขาอย่างเลือดเย็นที่สุด!
สักวันเขาจะเอาคืนให้สาสม
2ปีต่อมา
ร่างบอบบางของหญิงสาวรูปร่างผอมคนหนึ่งค่อยๆ ชะลอฝีเท้าลงอย่างช้าๆ เมื่อเดินเท้ามาจนถึงคฤหาสน์หลังงามหลังหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง ใบหน้าอ่อนหวานเงยมองมันท่ามกลางความรู้สึกมากมายที่คงไม่มีใครเข้าใจหากไม่ได้ลองมายืนในจุดที่เธอและแม่เคยยืนมาก่อน หลายคนอาจจะเรียกมันว่าบ้าน แต่สำหรับเธอแล้วสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ตรงหน้านี้นั้นไม่ต่างอะไรจากคฤหาสน์เลยสักนิด หนำซ้ำมันยังเป็นคฤหาสน์ของพ่อแท้ๆ ของตัวเองที่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ามันจะมีวันนี้
วันที่จำต้องฝืนใจมาเหยียบมัน...
ขวัญชนก ปานใจ หญิงสาววัยยี่สิบสี่ที่เพิ่งจะสูญเสียมารดาอันที่เป็นพึ่งเดียวของตัวเองมาตลอดยืนชั่งใจอยู่นานหลายนาทีด้วยความรู้สึกอึดอัด แต่เมื่อไม่มีทางเลือกหญิงสาวจึงกดกริ่งและเฝ้ารออยู่หลายนาทีจึงมีร่างอ้วนท้วมของใครบางคนวิ่งตรงมาเปิดประตูบ้านให้พร้อมรอยยิ้ม
“คุณขวัญชนกใช่ไหมคะ เข้ามาก่อนเถอะค่ะตอนนี้คุณผู้ชายกำลังรออยู่ด้านใน แล้วข้าวของมีเท่านี้เองเหรอคะ มาค่ะให้ป้าช่วยถือนะคะ” สีนวลแม่บ้านใหญ่เอ่ยทักทายลูกสาวของเจ้านายที่เกิดจากภรรยาอีกคนก่อนจะอ้าแขนทำท่าจะช่วยหญิงสาวถือข้าวของแต่อีกฝ่ายกลับรั้งมันเอาไว้ก่อนจะสายหน้าให้พร้อมคำตอบเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นอาวุโสกว่าตน
“ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะป้า ของแค่นี้เองขวัญถือได้ค่ะ” ท่าทางนอบน้อมไม่ถือตัวของลูกสาวคนเล็กของเจ้านายทำให้สีนวลรู้สึกถูกชะตากับหญิงสาวมากขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้จะไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวอะไรมากนักแต่นางก็พอจะรู้มาบ้างว่าแม่ของหญิงสาวนั้นเป็นเมียคนแรกของคุณท่านผู้ชายที่เขารักและจนถึงทุกวันนี้เขาก็ยังคงรักเธออยู่ ดูได้จากการที่ห้องนอนของท่านนั้นเต็มไปด้วยรูปของผู้หญิงคนหนึ่งที่ท่านกำชับทุกๆ เสียหนักหนาว่าห้ามให้ใครหน้าไหนเคลื่อนย้ายมันออกไปไม่ว่าจะด้วยกรณีไหนก็ตามที
“แต่มันจะดีเหรอคะคุณ ป้าว่าให้ป้าช่วยเถอะค่ะประเดี๋ยวคุณผู้ชายจะดุป้าเอาได้ที่ปล่อยให้คุณถือของเข้าไป...” นางถามต่อเพราะคนตรงหน้าเป็นถึงลูกสาวแท้ๆ ของเจ้านายที่กำลังรออยู่ด้านใน แม้ว่าคนตรงหน้าจะไม่ใช่ลูกที่ใครต่อใครรู้จัก แต่ตนเองก็ไม่อยากปล่อยให้ลูกสาว ของผู้มีพระคุณที่ให้ทั้งงานและความช่วยเหลือในเรื่องเล็กเรื่องใหญ่มาโดยตลอดต้องลำบากถือข้าวของเข้าไปในตัวบ้านด้วยตัวเองแบบนี้อยู่ดี
