6. ตัดสินใจแล้ว
จากนั้นเธอก็เดินตามเขาไปที่ห้องอาหารเพราะเธอต้องทานข้าวร่วมกับพวกเขาด้วย เพราะปกติที่พวกเขาสองพี่น้องไม่อยู่ เธอก็มักจะทานข้าวเป็นเพื่อนคุณย่าเสมอ
หลายวันต่อมา...ประเทศไทย...
มารีลินก็มาซื้อของไปทำอาหารให้พ่อของเธอ เพราะวันนี้เป็นวันหยุดเธอไม่ได้ไปทำงานที่โรงแรม จึงนัดกับครีมที่ทำงานโรงแรมด้วยกันมาเดินตลาด
“มะลิ มะลิ เจอพอดีเลย ป้าได้ข่าวว่าเลิกกับคุณเอ็มเจ้าของเต้นท์รถในเมืองแล้วเหรอ...ตอนนี้คงไม่มีคนให้เงินใช้แล้วใช่ไหม” ช้อยเดินมาเอ่ยถามมารีลินอย่างอดไม่ได้
“มะลิไม่ได้ขอเงินเขาใช้นะป้า พูดให้มันดีๆหน่อย...แล้วนี่ป้าไปรู้มาจากไหนว่ามะลิเลิกกับพี่เอ็มน่ะ” มารีลินเอ่ยตอบด้วยเสียงเข้ม แล้วเธอก็เอ่ยถามไปอย่างอยากรู้ว่ารู้มาจากใคร
“ก็คุณนายยุพินเขามาเล่าให้ฟังที่ร้านทำผมน่ะสิ บอกว่ามะลิเลิกกับคุณเอ็มแล้ว แถมยังหลอกเอาเงินคุณเอ็มไปรักษาพ่อตั้งเยอะน่ะ...มันจริงอย่างที่เขาพูดไหม” ช้อยตอบไปแล้วถามต่อทันที
“ไม่จริง...มะลิไม่เคยหลอกเอาเงินพี่เอ็มเขามารักษาพ่อของมะลิเลยนะป้าช้อย มะลิขายรถของพ่อแล้วป้าแดงก็ช่วย พี่เอ็มเขาไม่ได้ช่วยอะไรเลย ป้าเอากลับไปเล่าใหม่ด้วยนะ แล้วถ้าเจอแม่ของพี่เอ็มก็บอกเขาช่วยหุบปากด้วย” มารีลินพูดบอกไปแบบโมโห
“อุ้ยแรงจังเลย ป้าไปพูดแบบนั้นคุณนายยุพินก็ด่าไปน่ะสิ ป้าไม่กล้าพูดหรอก” ช้อยพูดไป
“ทีแบบนี้ล่ะไม่กล้าพูด แล้วจะมาเผือกเรื่องของคนอื่นเขาทำไมกัน สาระแนจริงๆ” ครีมพูดเสริมไป
“อ่าวอีนี่ กูก็พูดดีๆด้วยนะ นี่ว่ากูเสือกเหรออีครีม” ช้อยได้ยินแบบนั้นก็เอามือท้าวเอวด่าครีมทันที
“เออ...ถ้าไม่เสือกแล้วจะมาถามคนอื่นแบบนี้ไหมล่ะ..โดนด่าซะบ้างจะเป็นไรไป” ครีมตอบกลับไปแบบไม่พอใจเลย ที่มาถามเพื่อนเธอแบบนี้
“ก็กูอยากรู้ไง ก็ตอนนี้ไอ้ดำพ่อมะลิมันป่วยอยู่ไม่ใช่เหรอ เผื่อมะลิมันอยากจะหาเงินด่วนใช้ ฉันก็แค่จะมาเสนองานให้มะลิมันทำก็เท่านั้น แกนั่นแหละอยู่เงียบๆเลยอีครีม อย่ามายุ่ง” ช้อยพูดไปก็ด่าดรีมอย่างอดไม่ได้
“จะมาหลอกเพื่อนหนูไปอยู่กับลูกสาวป้าล่ะสิ ไปถามคนอื่นนู้นไป ไม่มีใครอยากจะไปอยู่กับลูกสาวป้าหรอก” ครีมพูดไปแบบปกป้องเพื่อนสาวเลย เพราะช้อยมักจะหาสาวๆสวยๆส่งให้ลูกสาวที่เป็นแม่เล้าอยู่ที่กรุงเทพ แล้วก็มักจะมาหาคนที่กำลังลำบากแบบนี้
“มึงไม่ต้องมาเสือก กูสนใจมะลิมันนู้นไม่ใช่มึง ไม่ต้องมาเสนอความคิดเห็น....มะลิ..ถ้าอยากได้งานสบายๆเงินดีๆก็ไปหาป้าที่บ้านนะ ลูกสาวป้าช่วยได้แน่นอน ป้าไปก่อนล่ะ ไม่อยากจะตบกับเด็กเมื่อวานซืนแถวนี้...” ช้อยด่าครีมไปก็หันไปบอกกับมะลิด้วยเสียงอ่อน แล้วเธอก็ปลายตามองไปทางครีมแบบหมั่นไส้
“งานสบายๆเงินดีๆที่ป้าช้อยพูดนี่คือไปเป็นสาวบาร์แบบที่พี่แคทเขาน่ะเหรอครีม พี่สาวแกก็ไปทำงานกับลูกป้าช้อยนิ” มารีลินถามไปอย่างสงสัย
“อืม....นี่แกอย่าบอกนะว่าแกสนใจน่ะ” ครีมตอบไปก็ถามเพื่อทันที เพราะมารีลินดูเหมือนจะสนใจ
“ก็ตอนนี้ฉันต้องใช้เงินเยอะ แล้วงานที่โรงแรมเราเงินเดือนก็ไม่ได้เยอะนะแก แล้วแบบนี้ฉันจะใช้หนี้คืนป้าฉันได้เมื่อไหร่ล่ะ ไหนจะพ่อฉันที่ต้องรักษาตัวเพื่อรอผ่าตัดที่กรุงเทพอีก ทุกอย่างมันใช้เงินหมดเลยนะแก ฉันว่าบางทีฉันอาจจะลองไปทำงานนี้ดูสักพักแล้วค่อยกลับมา” มารีลินพูดไป เพราะตอนนี้มันจะมีงานอะไรที่ได้เงินดีแบบนี้อีก
“พี่สาวฉันตอนจะไปมันก็พูดแบบแกนี่เลยมะลิ สุดท้ายมันก็ยังทำงานเป็นสาวบาร์จนทุกถึงวันนี้ แกจะไปทำงานนี้จริงๆเหรอมะลิ คิดดูดีๆก่อนนะ มันไม่ใช่แค่สาวบาร์แบบที่แกคิดนะ มันมีอะไรที่มากกว่านั้นแกก็รู้นิ ฉันรู้ว่าแกกำลังลำบาก แต่คิดดีๆนะมะลิ...” ครีมพูดไปด้วยสีหน้าจริงจัง
“อืม...ฉันรู้...แต่ว่าตอนนี้ฉันยังไม่มีทางเลือกอื่นที่จะหาเงินเร็วๆแบบนี้ได้ บางทีฉันอาจจะลองไปดูสักครั้ง” มารีลินบอกไป เพราะเธอคงต้องลองเสี่ยงดูสักตั้ง
“เฮ้อ...ก็แล้วแต่แกก็แล้วกัน ชีวิตของแกนิ ฉันจะห้ามอะไรได้ล่ะ ตอนนี้แกเองก็ลำบากด้วย เรื่องแบบนี้ไม่เจอกับตัวก็คงไม่รู้หรอกว่ามันลำบากใจแค่ไหนน่ะ แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องสำคัญแกควรจะปรึกษาคนที่บ้านแกให้ดีๆก่อนที่จะทำงานนี้” ครีมบอกไปแบบเข้าใจ เพราะความลำบากของแต่ล่ะคนมันไม่เหมือนกัน ตอนนี้เพื่อนของเธอคิดจะไปทำงานสาวบาร์แล้ว ก็คงจะสุดๆแล้วจริงๆ เธอจึงเสนอทางออกให้เพื่อนสาว
“อืม...ฉันจะลองกลับไปคุยเรื่องนี้ดู” มารีลินบอกไปแล้วก็ทำหน้าคิดหนักเลย เพราะไม่รู้ว่าแม่และป้าของเธอจะว่ายังไงบ้าง...
จากนั้นมารีลินก็เดินตลาดกับครีมไปแล้วก็คิดเรื่องที่จะไปทำงานนี้ตลอด พอถึงบ้านเธอก็เห็นแม่และป้ากำลังช่วยกันทำอาหารอยู่ในครัว เธอก็ไม่กล้าพูดจนผ่านไปเกือบสองทุ่มเธอก็นั่งดูทีวีกับป้าและแม่ เธอก็ตัดสินใจเอ่ยบอกไป
"แม่...ป้าแดง....คือมะลิมีเรื่องจะบอกค่ะ...มะลิจะไปทำงานกับพี่อ้อยลูกสาวป้าช้อยที่กรุงเทพนะคะ แม่กับป้าคิดว่ายังไงคะ” มารีลินพูดไปทำให้ละไมและจินหันมามองมารีลินอย่างตกใจเลย
“ไปทำงานกับนังอ้อยลูกสาวนังช้อยเนี่ยนะ....ไม่ได้....แม่ไม่ให้ลูกไปเด็ดขาด หยุดความคิดนี้เลยนะมะลิ แม่ไม่อนุญาตให้ลูกไปทำงานนี้” ละไมปฏิเสธทันทีเพราะเธอรู้ว่างานที่ลูกสาวของช้อยทำมันเป็นงานอะไร ดังนั้นเธอทำใจปล่อยลูกสาวคนเดียวของเธอไปทำงานแบบนั้นไม่ได้
“แต่มันได้เงินดีนะคะแม่ มะลิไปทำแค่เดือนสองเดือนพอให้ได้เงินรักษาพ่อก็กลับมาแล้วล่ะค่ะ ไม่ได้ไปทำนานสักหน่อย ตอนนี้เรากำลังลำบากนะคะแม่ เราไม่มีทางเลือกที่จะหาเงินเยอะแบบนี้แล้วนะคะ ให้มะลิไปเถอะค่ะ เราจะได้มีเงินมารักษาพ่อแล้วก็ดูแลพ่อระหว่างพักฟื้นด้วย อย่างน้อยมันก็ทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นบ้าง” มารีลินบอกไปตามตรง
“แต่แม่ไม่ต้องการอยู่สุขสบายบนความทุกข์ของลูก เงินรักษาพ่อป้าแดงกับจินก็ช่วยออกให้ก่อนแล้วไง ลูกไม่ต้องทำงานแบบนั้นก็ได้ เราก็ค่อยๆหาเงินมาใช้คืนให้ก็ได้นิ..อย่าไปเลยนะลูก” ละไมเอ่ยบอกไป
“ป้ากับพี่จินไม่ได้จะทวงคืนตอนนี้ซะเมื่อไหร่ล่ะ เรามีเมื่อไหร่ก็ค่อยมาใช้คืน ไม่ต้องไปทำงานแบบนั้นหรอก จินมันทำไปแล้วคนหนึ่ง ป้าก็ไม่อยากให้เราไปทำแบบนั้นอีกคน อย่าไปเลยนะลูก” แดงพูดไปแบบอดไม่ได้ เพราะลูกสาวของเธอก็ทำงานเป็นสาวบาร์อยู่เช่นกัน เธอจึงไม่อยากให้หลานไปทำอีกคน
“แต่กว่าพี่จินจะหาเงินพวกนี้มาได้ก็ลำบากเหมือนกันนะคะ มะลิตัดสินใจแล้วค่ะ มะลิไม่อยากจะรบกวนป้าแดงกับพี่จินไปมากกว่านี้แล้วค่ะ แค่นี้มันก็เยอะจนมะลิไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาใช้คืนแล้วล่ะค่ะ นี่คงเป็นงานเดียวที่จะทำให้มะลิหาเงินได้เร็วที่สุด อย่าห้ามมะลิเลยนะคะ มะลิตัดสินใจแล้วค่ะ พรุ่งนี้มะลิจะไปบอกป้าช้อยให้บอกพี่อ้อยค่ะว่ามะลิจะไปทำงานด้วย” มารีลินบอกไปแบบยืนยันคำเดิม เพราะเธอต้องหาเงินให้เร็วที่สุด
“มะลิ นี่ลูกจะไม่ฟังที่แม่กับป้าพูดเลยเหรอ ลูกจะเอาศักดิ์ศรีของตัวเองไปทิ้งกับงานแบบนี้จริงๆเหรอ ลูกทนกับสายตาดูถูกของคนอื่นเขาได้เหรอ” ละไมพูดออกไป
