บทที่ 2 คำทำนายสองขั้ว
บทที่ 2
คำทำนายสองขั้ว
ชายหรือหญิง
“ข้าเรียกทุกคนในหมู่บ้านมาประชุม เพื่อบอกกล่าวล่วงหน้าถึงลางมงคลและลางร้าย ด้วยท่านผู้เฒ่ามีนิมิตจึงตรวจดวงชะตาเมือง ดวงชะตาแคว้น และดวงชะตาหมู่บ้านซานเจี่ยวของเรา คำทำนายได้เผยว่าถ้าหากหญิงตั้งครรภ์นางใดคลอดบุตรชายในวันนี้ก่อนยามจื่อ ผ่านพ้น จะต้องนำตัวเด็กส่งให้กับทางวังหลวงเพื่อถวายให้องค์ฮ่องเต้ชุบเลี้ยงเพราะเป็นเทพเซียนจากสรวงสวรรค์อวตารลงมาเกิด แต่ถ้าหากเป็นหญิงจะต้องฆ่าให้ตายโดยการเผาไฟทั้งเป็น ห้ามเลี้ยงเอาไว้โดยเด็ดขาด เพราะเป็นดวงวิญญาณชั่วช้าหนีจากขุมนรกมาเกิด”
ผู้นำหมู่บ้านอธิบาย พลางมองใบหน้าที่ค่อยๆ ซีดเผือดของอี้เตอด้วยความเป็นกังวล
“อะ...อะไรนะ! นะ...นี่มันอะไรกัน”
อี้เตอถอยหลังกรูดจนแผ่นหลังชิดประตูกระท่อมหลังน้อย หูยังคงได้ยินเสียงภรรยาร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ทว่าดวงตากลับจ้องมองบุรุษสูงวัยทั้งสามราวกับคนแปลกหน้า
ผู้เฒ่าผู้มีญาณหยั่งรู้ทำนายทุกสิ่งล้วนแม่นยำจึงได้ก้าวขึ้นมาพร้อมกับแผ่นหินลักษณะกลมบนฝ่ามือที่เขามักถือไปไหนมาไหนด้วยเสมอๆ
“ข้าทำนายจากแผนภูมิฟ้าดิน เนื่องด้วยวันนี้ธาตุทั้งห้ามารวมกัน อีกทั้งดาวหลอหูและดาวเกตู โคจรผันผ่านทาบทับเงาของกันและกัน ส่งผลให้ผู้ที่เกิดในวันนี้มีดวงชะตาพลิกผัน ซึ่งเรียกดวงลักษณะนี้ว่า ‘ผู้ให้กำเนิด’ และ ‘ผู้ทำลาย’
ผู้เฒ่ามากความรู้หยุดนิ่งไปแล้วแหงนมองดาวดารดาษบนท้องฟ้าก่อนจะพูดต่อไปว่า
“หากบุตรของเจ้าเกิดเป็นชายอันมีดาวหลอหูเป็นเจ้าเรือนจะก้าวหน้ามั่นคง มีดวงสนับสนุนค้ำจุนผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน จึงนับว่าเป็นผู้ให้กำเนิดโดยแท้ เหมาะแก่การถวายให้เป็นข้ารับใช้ใกล้ชิดฮ่องเต้เพราะจะยิ่งเสริมอำนาจของฮ่องเต้ให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร ทว่าดวงนี้อับโชคนักหากเป็นหญิง เพราะมีดาวเกตูเป็นเจ้าเรือน มีดวงทำลายล้าง นางจะกลายเป็นหญิงล่มเมืองมากผัวหลายชู้ไม่เลือกหน้า นางไปที่ใดก็จะนำพาไฟราคะไปเผาผลาญจนราบสิ้น และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด...”
ผู้เฒ่านักทำนายถอนหายใจเฮือกใหญ่ พยักหน้าให้รองผู้นำหมู่บ้านซึ่งมีอายุน้อยที่สุดในกลุ่มพูดต่อ ตัวเขาเองนั้นสะเทือนใจเกินกว่าจะเอื้อนเอ่ยออกมา
“หากเป็นหญิงนางจะนำความหายนะมาสู่บ้านเกิดเมืองนอน ร้ายแรงจนถึงขั้นลบชื่อหมู่บ้านซานเจี่ยวออกไปจากผืนแผ่นดินเลยทีเดียว ข้าและพวกเราทุกคนจะตายอย่างทรมาน ไม่มีแม้แต่ป้ายหน้าหลุมศพ จะเหลือเพียงแค่เถ้ากระดูกที่กองเกลื่อนบนพื้นดินอย่างไร้ค่าเท่านั้น ไม่เว้นใครหน้าไหนทั้งนั้นรวมทั้งเจ้าและเมียของเจ้าซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดนางอีกด้วย นับว่าเป็นดวงทำลายล้างที่น่าหวาดกลัวมากทีเดียว”
“อะ...อะไรกัน!”
อี้เตอได้ยินดังนั้นก็ถึงกับทรุดเข่าลงไปกับพื้นกรวดอย่างสิ้นไร้เรี่ยวแรง เขาปล่อยโฮร้องไห้ฟูมฟายออกมาด้วยความเสียใจและความกลัวตาย จะไม่เชื่อในสิ่งที่ผู้เฒ่านักทำนายกล่าวก็ไม่อาจทำได้ เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าท่านผู้เฒ่าจะเอื้อนเอ่ยสิ่งใดล้วนเกิดขึ้นจริงทั้งสิ้น
“คราวนี้พวกเรามาลุ้นกันเถอะ ว่าบุตรของเจ้าจะคลอดออกมาเป็นเพศใด”
ท่านผู้เฒ่าเอ่ยขึ้น ไขว้สองมือไปยังด้านหลังแล้วก้าวไปหยุดอยู่หน้าประตูกระท่อม ซึ่งบัดนี้เสียงหวีดร้องของหญิงสาวได้สิ้นสุดลงไปกว่าชั่วอึดใจแล้ว
พลันเสียงกรีดร้องของเด็กทารกที่เพิ่งถือกำเนิดก็แผดเสียงดังลั่น
อุแว้!
ประตูเปิดผางออกมาอย่างรวดเร็ว เด็กตัวแดงเถือกในอ้อมกอดของท่านหมอยังคงแหกปากร้องเสียงก้องกังวาน เด็กน้อยมีผิวแดงสดราวกับเลือด บ่งชัดว่าเมื่อโตขึ้นจะมีผิวพรรณผุดผาดขาวผ่องราวหิมะ จมูกของเด็กน้อยโด่งได้รูปรับกับใบหน้าอวบอิ่ม แก้มยุ้ยเป็นพวง ริมฝีปากบางกระจิริดชวนหลงใหล ผมของเด็กน้อยหยิกหยักศกเป็นสีน้ำตาลอ่อนชวนมอง
เป็นเด็กที่งดงามได้อย่างน่าอัศจรรย์แม้เพิ่งแรกคลอด
“เด็กผู้หญิง!”
สิ้นสุดเสียงตะโกน บนท้องฟ้าก็ปรากฏดาวตกพาดผ่าน ทว่ากลับไม่มีผู้ใดสนใจดาวตกอันเป็นสัญลักษณ์ที่กำลังบอกอะไรบางอย่างเลยสักคน...
