บท
ตั้งค่า

ตอนที่2.2 ผู้บัชชาการทัพจูเซว่

ตอนที่2.2 ผู้บัชชาการทัพจูเซว่

เมื่อขบวนแม่ทัพเดินทางมาถึง พวกเขามุ่งหน้าสู่ท้องพระโรง คุกเข่ากล่าวสรรเสริญฮ่องเต้ ท่ามกลางสายตาขุนนางที่ทอดมองมาด้วยความรู้สึกหลากหลาย

ฝ่ายพลเรือนเหยียดหยามต่างดูหมิ่นกันว่า ‘ทหารพวกนี้ ดีแต่ใช้กำลังไม่มีมันสมอง’ ขุนนางสังกัดฝ่ายพลเรือนหยิ่งผยองและจองหองพองขนนัก กดข่มฝ่ายทหารว่าโง่เขลาเบาปัญญา มองแม่ทัพเฉินราวกับเป็นสุนัขบ้าข้างทางที่มีประโยชน์ไว้กัดผู้รุกรานเท่านั้น

บ้างก็เบะปากรังเกียจ บ้างก็แค่นเสียงหยัน คลี่ยิ้มแดกดัน หรือแม้กระทั่งไหวไหล่อย่างไม่สนถึงความดีความชอบ

ตรงกันข้ามกับฝ่ายทหาร ขุนนางสวมชุดแดงปักลวดลายพยัคฆ์กลางแผ่นหลังทั้งหลาย ดวงตาลุกวาวราวเปลวเพลิง จิตใจสั่นสะท้านดั่งถูกสายฟ้าฟาด

ส่วนใหญ่ริษยา ส่วนน้อยศรัทธา

นั่นก็เพราะบุรุษหนุ่มที่คุกเข่าเบื้องหน้า นับเป็นอัจฉริยบุคคลที่ร้อยปีจะมีสักคน เฉินชิงซงถือเป็นคนฉลาดหลักแหลม อีกทั้งยังมีความเก่งกล้า วาจาคมคาย เป็นคนเคร่งครัดในกฎและระเบียบวินัย ทั้งยังมีไหวพริบปฏิภาณดีเลิศอย่างมิอาจหาจุดด้อยพบ

คิดดูเอาเถิด เหล่าองค์ชายของฮ่องเต้ยังไม่อาจเทียบเคียงแม่ทัพหนุ่มแห่งสกุลเฉินได้แม้เพียงเสี้ยว

ขุนนางฝ่ายทหารขนลุกเกรียว ยามคิดว่าบุรุษหนุ่มในวัยหนุ่มฉกรรจ์ผู้นี้อาจมีอายุขัยสั้นกุด บางคนเหลือบมองประมุขสือจ้าวที่นั่งบนบัลลังก์ แล้วถอนใจระคนเหนื่อยหน่าย

ฮ่องเต้ระแวดระวังคนปราดเปรื่องปรีชา แต่ในทางตรงกันข้ามกลับชื่นชอบคนปลิ้นปล้อนประจบสอพลอ อย่างเช่นขุนนางฝ่ายพลเรือนเสียมากกว่า

“ในที่สุดเจ้าก็กลับมาได้เสียทีนะ”

สือจ้าวฮ่องเต้ทักทายแม่ทัพเฉินชิงซงสามสี่ประโยคอย่างไม่ค่อยจริงใจนัก จากนั้นก็โบกมือให้กงกงคนสนิทนำราชโองการมาประกาศต่อหน้าขุนนางทั้งท้องพระโรง ด้วยท่าทีเหมือนรำคาญเสียมากกว่าจะยินดี เผยให้รู้ว่าพระองค์นั้นมิได้ยินดีกับการกระทำเช่นนี้แม้แต่น้อย

รางวัลตอบแทนผลงานใหญ่หลวงมีมากมาย เรียกว่าขบวนยาวเหยียดพอๆ กับกองทัพที่แม่ทัพเฉินเคลื่อนเข้าเมืองหลวงวันนี้

ที่นาร้อยหมู่ ที่ดินร้อยไร่ บ่าวไพร่ร้อยคน แพรพรรณล้ำค่า ปิ่นทอง ปิ่นหยก หยวนเป่าเงิน หยวนเป่าทองหมื่นตำลึง แต่ที่น่าสะพรึงจนขุนนางทั้งหลายสั่นสะท้านกลับเป็นบำเหน็จข้อต่อมา

สมรสพระราชทานระหว่างแม่ทัพเฉินชิงซงกับบุตรีของเจ้ากรมพิธีการจาง

รองเจ้ากรมพิธีการเข่าแทบทรุด ด้วยตกใจและคาดไม่ถึงว่าสกุลจางจะต้องมาเกี่ยวข้องกับตระกูลทหาร ตั้งแต่โบราณกาลการสมรสดองญาติล้วนไม่เคยข้ามฝ่าย

ฝ่ายพลเรือนเชื่อมบุพเพกันเพียงในฝ่ายพลเรือน ฝ่ายทหารผูกด้ายแดงฝ่ายทหาร ไฉนคราวนี้ฮ่องเต้ถึงตัดสินพระทัยโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา

รองเจ้ากรมจางรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ทว่าเขาจะทำอย่างไรได้เล่านอกเสียจากถอนใจเศร้าๆ อย่างจนปัญญา ขัดราชโองการมีโทษประหาร ไหนเลยเขาจะพาครอบครัวมอดม้วย เพียงเพราะไม่อยากได้ลูกเขยเป็นแม่ทัพดิบเถื่อน

พอขุนนางฝ่ายพลเรือนทั้งหลายตั้งสติได้ก็พากันยิ้มเจ้าเล่ห์ ส่วน

ขุนนางฝ่ายทหาร ส่วนมากสะใจ ส่วนน้อยสลดเศร้า นึกเวทนาสงสารแม่ทัพหนุ่มคนเก่งอนาคตไกลที่จู่ ๆ ก็ถูกขัดความก้าวหน้าลงจนแทบไม่เหลือ แต่งงานดองเกี่ยวข้ามฝ่าย รังแต่ก่อปัญหามากกว่ากลมเกลียว

ทว่าเหล่าขุนนางก็ต้องตกตะลึงตาเบิกค้างอีกครั้ง เมื่อได้ยินสิ่งที่ฮ่องเต้พระราชทานแก่แม่ทัพเฉิน ซึ่งแต่เดิมทุกคนคิดไปเพียงว่าคงจะจบลงเพียงแค่สมรสพระราชทานเท่านั้น

“ด้วยคุณงามความดีสั่งสมยาวนาน ฝ่าบาทพระราชทานบรรดาศักดิ์ ‘ปั๋ว’ แก่ตระกูลเฉินสืบต่อถึงลูกหลานสืบไป”

เฉินชิงซงดำรงตำแหน่งแม่ทัพจูเชว่ และสวมบรรดาศักดิ์ท่านปั๋วซึ่งขั้นสูงกว่าบรรดาแม่ทัพชายแดนอีกสามแดน จากนี้มิต้องก้มหัวให้พวกเขา กลับกันแม่ทัพสามแดนต่างหากที่ต้องคารวะ ‘ท่านแม่ทัพปั๋วเฉิน’

“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”

เฉินชิงซงไม่สนใจสายตาของเหล่าขุนนาง ที่เหมือนหนามแหลมจ้องทิ่มแทงเขา ในใจคิดเพียงว่าความแค้นนี้ หากไม่ได้ชำระความอย่าหวังจะหยุดมือ สวมบรรดาศักดิ์ก็ดี แต่งงานกับสตรีสกุลจางก็ช่าง เขาตั้งมั่นแล้ว

ที่จะควานหาศัตรูที่ฆ่าบิดาให้จงได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel