บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3.1 เผือกร้อน

ตอนที่ 3.1 เผือกร้อน

ยามโหย่ว แล้ว ดวงอาทิตย์ทอแสงสีทองส่องประกายในยามพลบค่ำ ดวงจันทร์ลอยต่ำอยู่บนท้องฟ้าเตรียมส่องแสงสว่างแทนที่ดวงอาทิตย์ ความอึกทึกวุ่นวายเฉกเช่นยามกลางวันจางหาย

ผู้คนที่เคยเดินกันขวักไขว่เริ่มบางตา เพราะต่างกลับบ้านเรือนกันไปเหลือเพียงพ่อค้าแม่ขายที่กำลังเก็บข้าวของ บ้างบ่นขายไม่ดี บ้างหัวเราะร่ากำไรเต็มท้อง บรรยากาศกร่อยลงอย่างเห็นได้ชัด

จางเหม่ยอวี้พูดคุยอยู่กับชายคนรักครู่ใหญ่ ก่อนจะโบกมือลาจากก็อวยพรกันและกันด้วยรอยยิ้มหวานหยาดเยิ้ม

“ขอพี่เต๋อตั้งใจอ่านตำรา ปีหน้าการสอบสมหวัง”

ใบหน้าจางเหม่ยอวี้แดงก่ำด้วยความขวยเขิน ภายในใจอบอวลไปด้วยความหอมหวานสุขล้น

“สมหวังเมื่อใด ชุดเจ้าสาวที่อาอวี้ตัดไว้ต้องได้ใส่แน่นอน”

กัวจิ้นเต๋อลูบศีรษะคนรักเบาๆ อารมณ์ของเขาในยามนี้มีแต่ความรู้สึกไม่อยากลาจาก เสียงหวานดั่งระฆังแก้วใสของนาง ราวกับยาปลุกกำหนัด พลันให้คิดลึกสกปรก

หากร่วมเรียงเคียงหมอนเมื่อใด ลีลารักของอาอวี้น้อยผู้นี้จะพลิ้วไหวหรือเร่าร้อน เขาปรารถนาที่จะได้รู้เหลือเกิน

ดวงตาคู่คมจับจ้องสตรีตรงหน้า รอยยิ้มงามล่มเมืองเหมือนบุปผาที่กำลังเบ่งบานชวนให้รู้สึกหวงแหน

“ให้พี่ไปส่งอาอวี้กลับจวนดีหรือไม่” กัวจิ้นเต๋อเอ่ยถามทีละคำด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง ทว่าแท้จริงแล้ว ในใจบัณฑิตหนุ่มอยากยืดเวลาเพื่อให้ได้อยู่ใกล้ชิดคนรักอีกสักนิด

“ข้ายังต้องแวะร้านสมุนไพร รับเทียบยาแทนท่านย่าอีกพักใหญ่เลยเจ้าค่ะ” แม้นใจนึกอยากให้คนรักไปส่ง แต่ก็รู้สึกเกรงใจเขาอยู่ไม่น้อย

นางสัมผัสได้ถึงอารมณ์ห่วงใยของชายคนรัก ความอบอุ่นที่ไม่อาจบรรยายขึ้นมาได้ รวมถึงท่าทางอ่อนโยนของเขาเปี่ยมเสน่ห์เกินใจสตรีเช่นนางจะต้านทานไหว กลิ่นบุรุษอบอวลชวนสยิว หัวใจหญิงสาวถึงกับสั่นสะท้าน จนต้องเบี่ยงหน้าหลบ

“เช่นนั้นอาอวี้ขอตัวลากลับก่อน” จางเหม่ยอวี้รีบสับเท้าก้าวขึ้นรถม้าที่จื่อผิงจ้างรอไว้ก่อนแล้ว เพราะหากอยู่นานเข้านางอาจหักห้ามใจไม่อยู่จนเผลอไผลปล่อยกายไปกับห้วงสวาทที่อีกฝ่ายหว่านรอไว้

ครอบครัวขุนนางฝ่ายพลเรือนให้ความสำคัญกับหน้าตาเป็นอันดับหนึ่ง สำหรับบุตรีเมื่อสูญเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว ย่อมจะสูงศักดิ์เหมือนเดิมไม่ได้

แม้นนางกับกัวจิ้นเต๋อจะคบหากันอย่างเปิดเผย ทั่วเมืองหลวงต่างล่วงรู้ถึงความสัมพันธ์นี้ ทว่าด้วยหลักระเบียบประเพณีเป็นสิ่งสำคัญ สตรีใดชิงสุกก่อนห่าม ปล่อยให้ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกไปก่อนกาลอันควร ไหนเลยจะสามารถเชิดหน้าชูตา นั่งครองศักดิ์ฐานะฮูหยินเอกได้อีกเล่า

ณ จวนสกุลจาง…

จางเหม่ยอวี้กลับถึงจวนก็เป็นในยามที่ท้องฟ้ามืดสลัวไปแล้ว

หญิงสาวจึงครุ่นคิดในใจอย่างกระวนกระวาย ว่าจะถูกอนุหลินนำความไปฟ้องบิดาอีกหรือไม่ เพราะฝ่ายนั้นมักกล่าวหาว่านางมัวเตร็ดเตร่อยู่นอกจวน ทำผิดกฎตระกูลข้อสตรีเรือนหลังต้องอยู่ห้องนอนหลังตะวันตกดิน

ทว่าท่านย่าก็หาทางหนีทีไล่ไว้ให้แล้ว โดยการอ้างว่าให้นางไปรับยาแก้ไอที่ร้านสมุนไพร นางคงไม่โดนแม่เลี้ยงหาเรื่องกระมังคราวนี้

แต่แล้วก็ผิดคาด ทันทีที่สองเท้าเหยียบเข้าจวน จางเหม่ยอวี้กลับ

ไม่เห็นอนุหลินยืนกอดอกเฝ้ารอหาเรื่องใส่ความเหมือนทุกคราว หนำซ้ำบรรยากาศในจวนยังอบอวลไปด้วยความสิ้นหวัง และความหวาดหวั่นแปลกๆ

ทหารยามหนุ่มสองคนที่เฝ้าอยู่ตรงประตูจวนเอาแต่หน้านิ่วคิ้วขมวดจนลืมคำนับนางตอนเข้ามา จางเหม่ยอวี้รู้สึกถึงลางไม่ดี จนต้องหยุดเท้าครุ่นคิด

‘หรือท่านย่าจะเกิดเรื่อง?’

หัวสมองพลันสว่างวาบขึ้นมา หญิงสาวสับเท้าวิ่งเข้าจวนตาลีตาเหลือก ลืมแม้กระทั่งจรรยามารยาทหญิงเรือนหลังจนหมดสิ้น เพียงแค่ภาพท่านย่าวัยชราล้มป่วยปรากฏในห้วงคิด ใจนางก็ร้อนลวกราวกับถูกไฟแผดเผา

“คุณหนูระวังเจ้าค่ะ!” จื่อผิงสาวเท้าวิ่งตามไปติดๆ ในใจสาวใช้สังหรณ์ไม่ดีเหมือนคุณหนูรอง ที่ผ่านมาจวนสกุลจางเคยอึกทึกครื้นเครงแม้นจะอยู่ในยามเย็นย่ำ ทว่าบัดนี้กลับเงียบเชียบวังเวงอย่างผิดปกติวิสัย

ซ้ำมีเสียงร้องไห้เจ็บปวดดังสนั่น ราวกับฟ้าถล่มปลิวมาตามสายลม ยิ่งเข้าใกล้เรือนท้ายจวนมากเท่าไร เสียงร้องไห้ก็ยิ่งดังมากขึ้นเท่านั้น

จางเหม่ยอวี้ทิ้งห่อยาพรวดพราดมุ่งหน้ายังห้องปีกซ้าย ซึ่งเป็นที่พำนักของท่านย่า ดวงตาคู่งามเห็นสาวใช้หลายคนนั่งคุกเข่าตรงระเบียง หัวใจพลันร่วงดิ่งลงสู่ห้วงทะเลลึก ไม่พูดพร่ำทำเพลงใช้มือเลื่อนบานประตู ถลาเข้าห้องไปอย่างเร็วรี่

“ท่านย่า!”

ฮูหยินผู้เฒ่านั่งบนตั่งตัวยาวเอียงคอ พลางกะพริบตาปริบๆ มองหลานสาวคนโปรดด้วยแววตาฉงน

“อาอวี้?” นางเอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน รอยยิ้มปรากฏวาบในดวงตา แต่ยกมุมปากไม่ได้ ตอนนี้ฮูหยินผู้เฒ่ามิอาจแสดงกิริยาอื่นใดนอกจากเคร่งเครียดตามสถานการณ์

“มานั่งนี่” มือหยาบย่นกวักเรียกหลานสาวที่สีหน้าซีดเผือด น้ำตาเอ่อคลอ ผมเผ้ายุ่งเหยิง มองปราดเดียวก็รู้ว่าอีกฝ่ายร้อนรนกระวนกระวายสักเรื่องหนึ่ง

จางเหม่ยอวี้ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนสายตาจะเหลือบเห็นอีกหนึ่งสตรีที่นั่งคุกเข่าอยู่ภายในห้องนี้ด้วย

“พี่หญิง” หญิงสาวหลุดปากเรียกอีกฝ่ายออกมาด้วยเสียงแผ่ว นางงุนงงหนักหนาว่าเหตุใดพี่สาวต่างมารดาจึงมานั่งยอบกายแทบพื้นข้างกายท่านย่า แล้วไฉนพี่สาวตัวร้ายของนางถึงมีสภาพเช่นนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel