บทที่ 1 กลับมาพบครอบครัว
แคว้นจ้าว
จวนตระกูลไป๋
"คุณชายใหญ่ คุณชายรอง คุณหนูฟื้นแล้วเจ้าค่ะ"
อาจูสาวใช้น้อยรีบหันมาเอ่ยกับเจ้านายตนด้วยน้ำเสียงที่ดีใจอย่างสุดซึ้ง เมื่อไป๋หลงคุณชายใหญ่ และไป๋หลางคุณชายรองได้ยินว่าน้องสาวตนฟื้นแล้วก็กระโดดโลดเต้นดีใจด้วยความลิงโลด น้องเล็กฟื้นแล้ว ดียิ่งนัก หากน้องเล็กยังไม่ฟื้น หรือเกิดล้มป่วยหนัก ท่านพ่อท่านแม่ต้องทุบตีพวกเขาอย่างหนักเป็นแน่
ก่อนหน้านี้พวกเขาพาน้องสาวมาตกปลาที่ชานเมืองนอกเมืองหลวง เดิมทีไป๋เหม่ยเหมยไม่ค่อยชอบเรื่องพวกนี้ นางมักจะคบหากับเหล่าสตรีน้อย พูดคุยเรื่องเครื่องประทินโฉม เรื่องชุดที่จะตัดเย็บใหม่ช่วงฤดูใบไม้ผลิอันใดเทือกนั้น แม้จะมีวรยุทธ์ล้ำเลิศแต่ความรักสวยรักงามเยี่ยงสตรีอย่างไรน้องเล็กของพวกเขาก็ยังชื่นชอบอยู่เสมอ
แต่เพราะไม่ทันระวัง น้องเล็กจึงพลัดตกแม่น้ำและหมดสติไป พวกเขาตกใจจนแทบเป็นบ้า รีบพานางไปโรงหมอทันที
ไป๋เหม่ยเหมยที่ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นก็พลันได้สติ นางค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา ภาพเบื้องหน้าคือหลังคาที่มุงด้วยใบจาก เมื่อหันไปมองโดยรอบก็พบกับไป๋หลงและไป๋หลางพี่ชายฝาแฝดของนาง และยังเห็นอาจูสาวใช้น้อยที่คอยรับใช้อยู่ข้างกายนางอีกด้วย
เดิมทีพวกเขาล้วนตายจากไปหมดแล้ว แต่เหตุใดจึง..
ภาพในอดีตวนย้อนกลับมาอีกครา หลังจากนางฆ่าตัวตายก็ได้เวียนว่ายตายเกิด ย้อนกลับมาเกิดใหม่ยังร่างของตนเองอีกครั้ง
ไป๋เหม่ยเหมยรู้สึกปวดหัวยิ่งนัก นางพยายามลุกขึ้นมานั่ง อาจูที่เห็นเช่นนั้นก็รีบเข้ามาประคองเจ้านายตน ไป๋หลงพี่ใหญ่รีบเอ่ยถามน้องสาวด้วยความเป็นห่วง
"น้องเล็ก เจ้าเจ็บตรงที่ใดอีกหรือไม่ หิวหรือไม่!"
ไป๋เหม่ยเหมยที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง
"เกิดเรื่องใดขึ้น เหตุใดข้าจึงมานอนอยู่ที่นี่ แล้วที่นี่คือที่ใดกัน?"
ไป๋หลางพี่รองรีบเข้ามาจับมือน้องสาวทันที
"เป็นความผิดของพวกพี่เองที่ชวนเจ้ามาตกปลา จนทำเจ้าตกน้ำ เจ้าก็บอกแล้วว่าไม่อยากมา แต่พวกพี่กลับบังคับเจ้ามาด้วย พวกพี่ขอโทษนะน้องเล็ก"
ไป๋เหม่ยเหมยเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ใจเต้นรัวแรง
ตกปลาอย่างนั้นหรือ?
ในชาติก่อน ตอนนางอายุสิบสี่ปี พี่ใหญ่และพี่รองพานางมาตกปลา แต่ทว่านางกลับพลัดตกน้ำจนล้มป่วยหนัก จำได้ว่าท่านพ่อและท่านแม่ดุด่าพี่ชายทั้งสองของนางเสียยกใหญ่
อยู่ๆไป๋เหม่ยเหมยก็ดวงตาแดงก่ำก่อนจะร้องไห้โฮออกมา สวรรค์! นางได้ย้อนเวลากลับมาในร่างของตนตอนอายุสิบสี่ ตอนที่นางยังไม่ถูกความรักที่แสนตื้นเขินของจินฟานฉุดลงนรก
ไป๋หลงและไป๋หลางที่เห็นว่าน้องสาวตนอยู่ๆก็ร้องไห้โฮจึงทำอันใดไม่ถูก รีบพากันเข้ามาเอ่ยปลอบยกใหญ่ ผ่านไปครู่ใหญ่ไป๋เหม่ยเหมยก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้พวกเขา ก่อนจะโผเข้าไปกอดพี่ชายทั้งสองเอาไว้แน่น
ชาติก่อนนางละเลยความรู้สึกของพวกเขามากเหลือเกิน นางเอาแต่ใจตนเอง ทั้งที่พวกเขาหวังดีกับนาง แต่นางกลับมองความหวังดีนั้นเป็นสิ่งที่น่ารำคาญ
สุดท้ายแล้วพี่ชายสองคนที่รักนางมากกว่าสิ่งใด กลับต้องมาตายเพราะนาง
"น้องเล็กเจ้าหยุดร้องเถอะ เจ้ารอง ที่น้องเล็กร้องไห้คงเพราะหิวเป็นแน่ เร็วเข้า รีบไปซื้อซาลาเปามา เอาน้ำชามาด้วย!"
"ได้ๆ พี่ใหญ่ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้ น้องเล็กเจ้ารอก่อนนะ"
ไป๋เหม่ยเหมยไม่รู้เช่นกันว่าเหตุใดนางจึงหยุดร้องไห้ไม่ได้ นางดีใจมาก ดีใจจนร้องไห้ออกมาราวกับคนบ้า
ไม่นานไป๋หลางก็กลับมาพร้อมซาลาเปาในมือ ส่วนไป๋หลงพี่ใหญ่ของนางก็รีบหาผ้ามาเช็ดน้ำตาให้กับน้องสาว
"น้องเล็กรีบกินเร็วเข้า"
ไป๋หลางเอาซาลาเปาป้อนให้นางกินทั้งที่นางยังคงร้องไห้อยู่ ไป๋เหม่ยเหมยเหมือนควบคุมตนเองไม่ได้ นางกัดกินซาลาเปาที่เขาป้อนให้อย่างไม่อิดออด กินไปก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นไป ไป๋หลงที่เห็นอย่างนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะหันไปเอ่ยกับไป๋หลาง
"น้องเล็กยังร้องไม่หยุดเลย นางน่าจะยังไม่อิ่ม เร็วเข้าอาหลาง รีบป้อนนางอีก"
ไป๋เหม่ยเหมยอยากจะเอาเท้าก่ายหน้าผากตนแล้ว
นางไม่ได้หิว นางแค่หยุดร้องไห้ไม่ได้!
สองพี่ชายฝาแฝดคนหนึ่งป้อนซาลาเปาคนหนึ่งป้อนน้ำชาให้น้องสาวที่ร้องไห้อย่างเป็นห่วงเป็นใย ไม่นานนักไป๋เหม่ยเหมยก็หยุดร้องไห้ พวกเขาจึงยิ้มตาหยี พลางคิดไปเองว่าคงเพราะน้องเล็กอิ่มแล้วจึงหยุดร้องไห้
เช่นนั้นต่อไปหากน้องเล็กร้องไห้อีกก็ให้หาของกินมายัดปากนาง นางจะได้หยุดร้องไห้
ดียิ่งนัก ช่างเป็นความคิดที่ดีจริงๆ
ไป๋เหม่ยเหมยยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาตน อาจเพราะตกน้ำจนสำลักทำให้นางรู้สึกแสบจมูกคล้ายจะเป็นหวัดขึ้นมา ท่านหมอจึงจัดยาเพิ่มให้นางอีกหลายเทียบ บอกให้ต้มดื่มเช้าเย็น ไม่เกินสามวันก็จะหายดี
เมื่อเห็นว่าน้องสาวปลอดภัยแล้ว พวกเขาสองพี่น้องจึงพาน้องสาวนั่งรถม้ากลับจวนตระกูลไป๋ในทันที
ระหว่างทางกลับ ไป๋เหม่ยเหมยยื่นมือไปเปิดผ้าม่านรถม้าออกเพื่อมองดูสิ่งต่างๆ เมืองหลวงยังคงเหมือนเดิมไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างยังคงงดงาม ไม่มีการนองเลือด ไม่มีการแย่งชิงบัลลังก์
ครอบครัวของนางยังคงสุขกายสบายดี
ไม่นานรถม้าก็หยุดลง สองพี่ชายฝาแฝดรีบประคองน้องสาวตนเดินเข้ามาในจวน ไป๋เหม่ยเหมยที่เห็นเช่นนั้นก็รีบบอกพวกเขาว่านางเดินได้พวกเขาไม่ต้องคอยประคองนางเหมือนคนป่วยเช่นนี้ สองพี่ชายจึงยอมปล่อยให้นางเดินเอง
เมื่อเข้ามาในจวนก็พบกับแม่ทัพใหญ่ไป๋บิดาของนางที่กำลังยืนจังก้าอยู่หน้าเรือนใหญ่ ในมือถือแส้เส้นหนึ่งเอาไว้ หน้าตาถมึงถึงพลางจ้องมองบุตรชายฝาแฝดสองคนของตนอย่างคาดโทษ
"ไป๋หลง ไป๋หลาง พวกเจ้าบังคับอาเหม่ยให้ออกไปเที่ยวเล่นอีกแล้วหรือ แล้วนั่นเกิดเรื่องใดขึ้นกับอาเหม่ย เหตุใดนางจึงมีสภาพเหมือนสุนัขตกน้ำเช่นนี้ ลูกบัดซบ ข้าให้เข้ากองทัพก็ไม่เอา ให้อ่านตำราเตรียมสอบก็หนีไปเที่ยวเล่น แล้วยังพาอาเหม่ยเสียคนไปด้วยอีก วันนี้หากข้าไม่ตีพวกเจ้าสองคนอย่างมาเรียกข้าว่าท่านพ่อ!"
แม่ทัพใหญ่ไป๋รีบเข้ามาดูบุตรสาวคนเล็กของตนด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ก่อนจะหันไปมองบุตรชายทั้งสองด้วยความโมโห ไป๋หลงและไป๋หลางที่เห็นว่าบิดาโกธรเกรี้ยวแล้ว จึงรีบคุกเข่าลงพลางสารภาพความผิดว่าตนทำน้องสาวตกน้ำ
