แรกพบ 2
กู้หลินฟางไม่ทำนิสัยเสียแบบนี้กับใครก่อน แต่กับเฉียวเชียนนั้นเป็นอีกเรื่อง บุรุษผู้นี้ดูถูกนางตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ก่อนหน้าจะพบกันก็ส่งจดหมายผ่านทางแม่สื่อมาเกี้ยว แต่เนื้อหาแฝงไปด้วยความดูถูกสตรีอย่างนาง ต่อให้ใช้ถ้อยคำสวยหรูแค่ไหนก็จะแอบจิกกัดมาตอนท้ายทุกครั้ง
ท่านพ่อไปโดนแม่สื่อคนไหนเป่าหูมาถึงได้คว้าชายผู้นี้มาเป็นว่าที่คู่หมั้นข้าได้
ไม่เช่นนั้นแม่สื่อคนที่ว่าก็โดนซื้อตัวไปตั้งแต่แรกแล้ว
“สตรีอย่างเจ้าจะเชิดหน้าชูคอได้สักเท่าไรกันเชียว”
กู้หลินฟางกลอกตา มีบุตรชายแบบนี้มารดาของเขาคงช้ำใจแย่
“ขอตัวก่อนนะเจ้าคะ”
นางไม่อยากอยู่ให้เปลืองน้ำลายโต้เถียงแม้แต่นิดเดียว บุตรสาวพ่อค้าเดินออกมาโดยไม่หันหลังกลับไปอีก
มีแต่เสียงโวยวายที่ยังได้ยิน วันนี้เจอเรื่องโหวกเหวกแต่เช้าทำให้นางอารมณ์เสียอย่างช่วยไม่ได้ อยากอยากจะเอาเงินไปละลายทิ้งเพื่อผ่อนคลายตัวเองเสียจริง
“คุณหนูเจ้าคะ นั่งรถลากกลับดีไหมเจ้าคะ”
“ทำไมล่ะ”
“คุณหนูอาจจะเจออดีตคู่หมั้นมารังควานอีกก็ได้เจ้าค่ะ”
“อดีตคู่หมั้นของข้าที่ชอบทำตัวรุ่มร่ามก็มีแต่เจ้าเฉียวเชียนอะไรนั่นเท่านั้นแหละ”
คู่หมั้นสองคนก่อนหน้านี้ของนางจบกันโดยไม่มีอะไรติดค้าง แม้จะจบกันได้ไม่ดี เพราะการหมั้นหมายถูกยกเลิก แต่พวกเขาไม่เคยมาตามเหน็บแนมนางเป็นผีไร้ญาติแบบนี้
กู้หลินฟางพรูลมหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย
หรือข้าหนีขึ้นสำเภาไปเลยดี?
เมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์นางก็นำสัมภาระส่วนตัวออกมาจัด เปลี่ยนเครื่องประดับผมทั้งหมดเป็นสีเงินพร้อมเสื้อผ้าสีเข้มเป็นส่วนใหญ่ ถึงนี่จะเป็นงานของสาวใช้แต่บางอย่างนางต้องจัดการเอง
การเป็นตระกูลพ่อค้ามีคู่แข่งมากมาย ถึงจะร่ำรวยเงินทองแต่ก็มีคนอิจฉาตาร้อนให้อยู่ไม่สุขได้เสมอ
นางเรียนรู้จากบิดามาหลายอย่าง นี่แค่ส่วนเล็ก ๆ ในบทเรียนเหล่านั้น
มีดเล่มเล็กที่ซ่อนอยู่ในรูปของปิ่นปักผมถูกดึงออกมาเพื่อเช็กความคม ถึงจะดูเหมือนของไม่จำเป็น แต่มีไว้มันอุ่นใจกว่า การขัดแข้งขัดขาในธุรกิจมีให้เห็นอยู่บ่อย ๆ และสกุลกู้ก็ใช่ว่าไม่เคยทำ สิ่งที่ต่างไปมีเพียงว่าใครใช้เล่ห์กลบริสุทธิ์ และใครเล่นงานคนอื่นถึงชีวิต
ถึงจะเป็นวิธีที่โหดร้ายมาก แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีคนจำพวกนั้นอยู่ กู้หลินฟางก็รักชีวิตตัวเองเหมือนกัน
“คุณหนู สินค้าถูกนำขึ้นรถไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“หลังจากนี้พวกเจ้าก็ไปพักผ่อนเถอะ ข้าคงอยู่ในห้องทั้งวัน ไม่ไปไหนหรอก”
“ทราบแล้วเจ้าค่ะ ถ้าคุณหนูต้องการอะไรก็เรียกใช้ได้เลยนะเจ้าคะ”
คุณหนูใหญ่สกุลกู้พยักหน้าแล้วจัดเรียงอาวุธลับของตัวเองต่อไป
ยามเช้าของวันถัดมาก็มีกลุ่มต้าหยางมารออยู่ด้านนอกคฤหาสน์แล้ว พวกเขาทำความคุ้นเคยกับคนของคฤหาสน์ที่จะร่วมเดินทางไปด้วยระหว่างรอคุณหนู
ถึงจะเป็นตระกูลพ่อค้าร่ำรวย แต่ก็ไม่มีเงินมากพอจะเลี้ยงทหารของตัวเองเอาไว้หลายชีวิตทุกเดือนไปอย่างสูญเปล่าได้ การจ้างคนนอกมาเสริมเป็นทางเลือกที่ดีกว่า คนจากสำนักคุ้มภัยจึงตอบโจทย์เรื่องนี้มาก
คนของสกุลกู้ได้ยินชื่อกลุ่มต้าหยางมานานตั้งแต่พวกเขาเริ่มมีชื่อเสียงในแถบนี้ ว่ากันว่าพวกเขาเสียงดังและร่าเริงเป็นปกติ แต่พอถึงเวลาทำงานบรรยากาศของกลุ่มกลับเงียบเชียบ ไม่รู้เรื่องนี้จริงเท็จแค่ไหน เพราะสกุลกู้ก็พึ่งเคยจ้างวานพวกเขาครั้งแรก
แคว้นอ้ายมีเมืองติดทะเลอยู่หลายแห่ง แต่เมืองท่าที่ใช้ค้าขายหลัก ๆ มีอยู่สองแห่งคือเมืองถงและเมืองหลิวที่พวกเขาอยู่ปัจจุบัน เพราะธุรกิจเชิงสินค้าแลกเปลี่ยนมีมากคนของสำนักคุ้มภัยเลยมีงานกันคับคั่ง
ท่าเรืออยู่ฝั่งตะวันตกของเมืองแต่พวกเขากำลังจะมุ่งหน้าไปทิศใต้
กู้หลินฟางไปทักทายคนที่ตนจ้างมาอีกครั้ง ไม่รู้พวกเขากำลังจับกลุ่มคุยอะไรกัน แต่ทันทีที่เห็นนางเดินมาพวกเขาก็สะกิดหัวหน้า
“เรื่องหลังจากนี้ฝากด้วยนะ”
