ตอนที่ 6 วัยเด็ก
เกือบสามเดือนแล้วที่ดอมเทียวซื้อนมผงที่ร้านของพิม ประกอบกับคนเริ่มพูดให้ได้ยินหนาหูว่าครอบครัวของเขาเลี้ยงเด็กเล็ก เธอจึงเก็บซ่อนความอยากรู้เอาไว้ไม่ไหวจึงเอ่ยถาม “ซื้อนมผงไปให้ใครเหรอดอม”
“อ้อ น้องสาวของพุดจีบมันเอาลูกมาฝากเลี้ยงน่ะครับน้าพิม” ยิ่งได้เลี้ยงดูเด็กคนนี้ดอมกับพุดจีบก็ยิ่งรักและหวงแหน หากบอกความจริงออกไปก็กลัวว่าพ่อกับแม่แท้ ๆ ของเด็กจะมาเอาคืน ดอมกับพุดจีบจึงตกลงกันที่จะบอกกับชาวบ้านอย่างนั้น
พิมพยักหน้าอย่างเข้าใจ ที่แท้ก็ลูกของน้องสาวพุดจีบ แต่บางอย่างก็สะกิดใจเธอให้ถามอีก “พุดจีบมีน้องสาวด้วยเหรอ” ก่อนหน้ามีแต่คนบอกว่าเมียของดอมเป็นเด็กกำพร้า ไร้ญาติมิตร ตัวดอมเองพี่น้องก็กระจัดกระจายไปอาศัยอยู่กับครอบครัวหลายจังหวัด ต่างคนก็ต่างทำมาหากินไม่ได้ติดต่อกัน พอแต่งงานก็ย้ายบ้านมาอยู่ที่นี่ตอนนั้นที่ทางราคาไม่แพงมากเขาจึงไปซื้อที่ท้ายหมู่บ้านเพื่อปลูกเรือนอยู่กับเมียซึ่งอยู่ติดกับนาของเธอพอดี วันนี้เขากลับบอกว่าพุดจีบมีน้องสาว
ดอมนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบออกไป “ลูกพี่ลูกน้องน่ะ ไม่ใช่น้องแท้ ๆ หรอก” จะอ้างว่าเป็นลูกแท้ ๆ ของเขาก็คงไม่ได้เพราะพุดจีบทำหมันแล้ว อีกทั้งพุดจีบยังตัวเล็กถ้าบอกชาวบ้านไปว่าเพิ่งคลอดลูกก็คงต้องหาคำมาโกหกเรื่องนี้อีกยาว สู้บอกว่าเป็นลูกของน้องสาวยังโกหกง่ายกว่า นานไปคนก็คงเลิกถาม
เท่านั้นพิมจึงได้คลายข้อสงสัย เวลามีคนถามเธอจะได้บอกได้อย่างถูกต้อง ไม่ใช่ต่างคนต่างเดากันไปทั่ว แต่ใครจะรู้ว่าสองสามีภรรยาได้ไปแจ้งเกิดข้าวหอมเป็นบุตรสาวและย้ายเข้าทะเบียนบ้านของตนเรียบร้อยแล้ว
สองสามีภรรยาเลี้ยงลูกทั้งสามไปตามมีตามเกิด ถึงกระนั้นพวกเขาก็ใช้ชีวิตในแต่ละวันได้อย่างมีความสุขตามสภาพ มีอะไรก็กินสิ่งนั้น จะว่าไปหมู่บ้านแห่งนี้ก็มีความอุดมสมบูรณ์ไม่น้อย ดอมจึงหาอาหารมาให้ครอบครัวได้ง่ายขึ้น
เช้าวันปิดเทอมของฤดูเก็บเกี่ยว เด็กหญิงวัยเจ็ดขวบกำลังวิ่งตามหลังพี่ชายพี่สาวเพื่อไปขุดแย้กับพ่อแม่ ข้าวหอมเริ่มรู้ว่าเธอจำเรื่องราวในอดีตชาติของตัวเองได้ตั้งแต่อายุครบเจ็ดขวบ แต่เธอก็ไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง จากนั้นก็ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้จะมีความคิดความอ่านที่โตกว่าเด็กในวัยเดียวกัน แต่เธอยังอ่านหนังสือไม่ออกและเขียนหนังสือไม่ได้ เพราะชาติที่แล้วของเธอไม่เคยได้เรียนหนังสือ เหตุการณ์ก่อนที่เธอจะจากมาอยู่ในยุคนี้ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเธอไม่เคยจางหาย ภาพผู้ชายคนนั้นที่นั่งอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยยังติดตรึงอยู่ในความทรงจำไม่เสื่อมคลาย เธอจำได้ขึ้นใจว่าเขาชื่อวีร์
ข้าวหอมเดินตามหลังพี่กับพ่อแล้วยิ้มอย่างมีความสุข ชีวิตในชาตินี้ก็ไม่ถือว่าลำบาก เธอยังมีข้าวปลาอาหารได้กินอิ่มทุกมื้อ มีเสื้อผ้าให้สวมใส่ มีน้ำสะอาดให้ดื่มกิน มีที่ให้หลับนอนไม่ต้องเร่ร่อนไปทุกแห่งหน ถึงแม้ครอบครัวจะไม่ค่อยมีเงินแต่ก็ไม่ได้อดมื้อกินมื้อเหมือนชาติที่แล้ว แค่นี้เธอก็ถือว่าพรที่เธอร้องขอจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่านได้ประทานให้แล้ว
พ่อกับพี่ชายกำลังใช้เสียมขุดแย้ ส่วนพี่สาวกับแม่กำลังใช้เสียมขุดจิ้งโกร่ง บนพื้นดินทรายที่อยู่ติดกับป่าสาธารณประโยชน์ของหมู่บ้านที่มีพื้นที่กว่ายี่สิบไร่ ยามหน้าฝนผู้คนในหมู่บ้านมักมาหาเก็บเห็ดและผักป่าในป่าแห่งนี้ ซึ่งเป็นภาพที่เธอคุ้นชินตั้งแต่เธอเริ่มจำความได้ วันนี้ก็เช่นกันมีชาวบ้านหลายคนออกมาขุดแย้กับจิ้งโกร่งตามแนวป่า แย้และจิ้งโกร่งมีจำนวนมากพวกเขาหาไปประกอบอาหารไม่ได้หาไปขาย มันจึงไม่สูญพันธุ์ง่าย ๆ
ข้าวหอมถือข้องมาหาพี่สาวกับแม่เพื่อใส่จิ้งโกร่ง “พี่ทิพย์กับแม่ขุดเก่งจังเลยค่ะ” ข้าวหอมนั่งยองลงข้างพี่สาวเพื่อดูพี่สาวขุดจิ้งโกร่งอย่างชำนาญ เธอถูกเลี้ยงมาให้กินของที่มีในท้องถิ่น
“ถ้าข้าวหอมโตขึ้นก็จะขุดเก่งเหมือนพี่” ธารทิพย์บอกน้องสาว ที่ดูเหมือนว่ายิ่งโตขึ้น หน้าตาของน้องสาวก็ยิ่งแตกต่างจากคนในครอบครัวมากขึ้น แต่คนในหมู่บ้านก็ไม่ได้สงสัย เพราะอย่างไรก็เข้าใจว่าข้าวหอมคือลูกของน้องสาวพุดจีบ และไม่มีใครพูดว่าข้าวหอมไม่ใช่ลูกของดอมกับพุดจีบให้เธอได้ยินแม้แต่ครั้งเดียว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนอยากเห็นหน้าตาน้องสาวพุดจีบอยู่ดี เพราะเด็กคนนี้ดูเหมือนเครื่องหน้าจะสวยสะดุดตาตั้งแต่เด็ก แถมผิวพรรณยังขาวเนียนต่างไปจากคนในครอบครัวมาก
พ่อกับพี่ชายขุดแย้ด้วยกันอย่างสนุกสนาน เพราะบางตัวมันวิ่งออกจากรูจนทั้งสองต้องวิ่งตาม แต่ถึงอย่างนั้นก็วิ่งตามไม่ทันมัน เพราะแย้เป็นสัตว์เลื้อยคลานที่วิ่งเร็วมาก สุดท้ายก็ต้องปล่อยมันไปและเริ่มขุดรูใหม่
ได้แย้กับจิ้งโกร่งตามจำนวนที่ต้องการแล้วทั้งห้าคนก็พากันกลับบ้าน ธันวาให้น้องขี่หลังเดินไปตามถนนลูกรัง สองข้างทางรวงข้าวกำลังกลายเป็นสีเหลืองทอง พวกเขาต้องเริ่มเก็บเกี่ยวมันแล้ว ควายสองตัวที่ผูกล่ามไว้ยังตั้งหน้าตั้งตากินหญ้าอย่างเอร็ดอร่อย
ดอมนำแย้ที่ขุดมาได้ก้อยใส่มะม่วงกระสอ พุดจีบทำจิ้งโกร่งขั้วเกลือ ส่วนที่เหลือก็เก็บไว้ตำน้ำพริก ลูกทั้งสามก็กินอาหารตามที่พ่อกับแม่ทำให้อย่างคุ้นเคยเป็นอย่างดี
“พี่ธันคะ ตอนเย็นสอนหนูขี่ควายได้ไหมคะ”
“ได้สิ แต่ต้องหลังจากที่พี่เกี่ยวข้าวแปลงใหญ่ช่วยพ่อกับแม่เสร็จก่อนนะ” ตอนนี้ธันวาและธารทิพย์โตพอที่จะช่วยงานพ่อกับแม่ได้ทุกอย่างแล้ว
“เย้! ขอบคุณมากค่ะ” ข้าวหอมชูมือข้างหนึ่งขึ้นด้วยความดีใจ ฉีกยิ้มกว้างให้พี่จนตาหยี การได้มาเกิดกับครอบครัวนี้ถือว่าเธอมีบุญมาก พ่อกับแม่รักเธอมาก อีกทั้งพี่ทั้งสองยังรักใคร่เอ็นดูเธอมากด้วยเช่นกัน