บทที่ 11
หลังจากอุบัติเหตุที่วาเกือบจะตกเวทีเดินแบบในวันนั้น ทำให้นายแบบหนุ่มได้เจอกับชายหนุ่มผู้ทรงอิทธิพลที่ชื่อปูนิพัทธ์อยู่เป็นประจำ ช่วงแรกๆ เขาคิดว่าเป็นความบังเอิญ แต่คิดไปคิดมาก็ไม่น่าจะใช่เพราะหลังจากวันนั้นเขาก็ได้เจอกับชายหนุ่มผู้นี้อยู่ตลอดเกือบทุกงานที่เขาไป ซึ่งทุกครั้งที่ได้เจอกันก็มักจะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันให้ชายหนุ่มเข้ามาช่วยเหลืออยู่ตลอดเช่นกัน มันคือความบังเอิญ มันคืออุบัติเหตุหรือเป็นความจงใจให้เกิดขึ้นกันแน่ นายแบบหน้าหวานคิดซ้ำไปซ้ำมากับสิ่งที่เกิดขึ้น
วันนี้นับเป็นอีกวันหนึ่งที่เขาได้รับเกียรติเป็นนายแบบกิตติมศักดิ์เดินแฟชั่นโชว์ของห้องเสื้อระดับโลกที่จะมีการขยายสาขามายังประเทศไทย สำหรับการทำงานของนายแบบชื่อดังวันนี้ไม่มีแฟนหนุ่ม หรือแม้แต่คนติดตามอีก 2 คนมาด้วยวาจึงจำเป็นต้องฉายเดี่ยว เมื่อเขามาถึงภายในงานก็มีทีมงานการจัดงาน เจ้าของห้องเสื้อออกมาต้อนรับ ก่อนจะพาเขาไปยังห้องแต่งตัวโดยทันที งานวันนี้อยู่ในตรีม Sexy Me รูปแบบเสื้อผ้าและสีสัน จะออกไปในแนวโมเดิร์น เปรี้ยว เซ็กซี่ สีสันฉูดฉาดตามคอนเซ็ปของงาน
เมื่อนายแบบหนุ่มพร้อมในชุดเดินแบบ บรรยากาศด้านนอก ได้เริ่มการเดินแบบไปสักระยะหนึ่ง เหลือเวลาอีกไม่กี่นาทีก็จะถึงคิวของวา กับโชว์ชุดพิเศษปิดท้ายงาน
"มีอะไรหรือเปล่าครับน้องวายุ ทำไมดูสีหน้าเครียดๆ ไปล่ะครับ" เจ้าของห้องเสื้อเข้ามาทักอย่างห่วงใย เมื่อเห็นสีหน้าของเขาไม่สู้ดี
"วารู้สึกกังวลนิดหน่อยน่ะครับ ไม่มีอะไรมากครับพี่"
"น้องวายุกังวลเรื่องชุดของพี่เหรอคะ ใส่ไม่สบายตัวหรือเปล่าคะ"
"เปล่าครับ ชุดของพี่ทั้งสวยแล้วก็ใส่สบายมากครับ แต่ที่วากังวลใจนั้นกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นอีกครับ หลังๆ นี้มักจะเกิดอุบัติเหตุกับวาตลอดเลยครับพี่ ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไรครับ" เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเชิงไม่ค่อยสบายใจ
"คิดว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกครับ เพราะได้ให้ทีมงานจัดเวที ดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยของระบบเวทีทั้งหมดแล้วครับ"
"วาก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นครับ คงจะไม่เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นเช่นทุกงานที่ผ่านมา" ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เวทีได้เดินเข้ามาเชิญเขาให้เตรียมขึ้นเวที
"คุณวายุครับตอนนี้ได้เวลาแล้วครับ"
"ขอบคุณครับ เดี๋ยววาขอตัวก่อนนะครับพี่" เขากล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่เวทีและเจ้าของห้องเสื้อเพื่อเตรียมตัวขึ้นเดินแฟชั่นโชว์
"สู้ๆ ค่ะน้องวายุ"
"ขอบคุณนะครับพี่" เขากล่าวขอบคุณอย่างสุภาพในรูปแบบของตัวเอง ก่อนจะเดินออกจากห้องแต่งตัว VIP เพื่อไปเตรียมตัวขึ้นเวทีเดินแฟชั่นโชว์ต่อไป
เมื่อสิ้นเสียงพิธีกรดำเนินรายการ เพลงประกอบพร้อมแสงสีเสียง ถูกเปิดและสาดฉายอย่างเป็นระบบด้วยความสวยงาม นายแบบหนุ่มก้าวขึ้นเวทีพร้อมย่างก้าวอย่างสง่างาม ทันทีที่เขาก้าวย่างอวดโฉมบนเวทีแคทวอล์ค แสงแฟลชจากกล้องนับร้อยก็ถ่ายส่องกระทบบนเรือนร่างของเขานับไม่ถ้วนตลอดการเดินแบบ วายุเดินอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยมจนมาถึงบริเวณด้านหน้าเวทีเดินแบบ ยื่นโพสต์ท่าตามสไตล์พลางกวาดสายตาไปรอบงานก็พบเข้ากับชายหนุ่มคนเดิมที่นั่งประจำที่ประธานการจัดงาน รวมถึงเดย์ นักธุรกิจหนุ่มด้วย นายแบบหนุ่มส่งยิ้มหวานให้กับทุกคนพร้อมทั้งโพสต์ท่าอย่างสวยงาม ภายในใจเขากลับรู้สึกกังวลไม่น้อยกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้นกับเขาอีก ทันทีที่เขาหยุดเดินเพื่อโพสต์ท่าด้านหน้าเวที นักธุรกิจหนุ่มลุกขึ้นพร้อมถือช่อดอกไม้ใหญ่มามอบให้วา โดยทำมือเป็นสัญลักษณ์เพื่อบอกเขาว่าจะโทรหา นายแบบหนุ่มรับช่อดอกไม้ใหญ่นั้นด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินกลับเข้าไปยังห้องแต่งตัวตามเดิมเมื่อเสร็จสิ้นการถ่ายภาพต่างๆ ซึ่งในวันนี้ไม่ได้เกิดเหตุการณ์อะไรไม่ดีขึ้นกับเขาอย่างที่วากังวลนับเป็นความโชคดีอย่างมาก
หลังจากร่วมถ่ายรูปกับเจ้าของงานและสื่อมวลชนเป็นที่เรียบร้อย นายแบบชื่อดังเตรียมจะเดินออกจากงานมาพบเข้ากับชายคนคุ้นหน้าที่กำลังยื่นช่อดอกไม้ให้เขาบริเวณด้านหน้าเวทีเดินแบบ
"ดอกไม้สวยๆ สำหรับคนสวยอย่างคุณครับ คุณวายุ" ชายหนุ่มยื่นช่อกุหลาบสีชมพูให้แก่เขา
"ขอบคุณครับ คุณ...." เขากล่าวขอบคุณชายหนุ่มพลางจะเอ่ยชื่อ แต่ด้วยความที่เขาไม่รู้ว่าชายหนุ่มชื่ออะไรจึงไม่ได้เอ่ยอะไร
"ผมปอ ปูนิพัทธ์ ฉัตรเงินตรา ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณวายุ" ชายหนุ่มกล่าวแนะนำตัวเองด้วยรอยยิ้มแห่งไมตรีจิตแก่นายแบบหน้าหวานที่เขาชื่นชอบ
"ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ ขอบคุณมากครับ สำหรับดอกไม้"
"ด้วยความยินดีอย่างยิ่งครับ ดอกไม้สวยๆ ก็ควรจะคู่กับคนสวยๆ อย่างคุณ" เขากล่าวชื่นชมอีกฝ่ายทำให้มีอาการเขินอายเล็กน้อย
"วาขอขอบคุณคุณปออีกครั้งหนึ่งครับ เราเคยเจอกันที่ไหนหรือเปล่าครับ วารู้สึกคุ้นกับแววตาของคุณเหลือเกิน" เมื่อชายหนุ่มได้ฟังคำกล่าวจากเขาทำให้ปอรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที
"คงจะเป็นตามงานเดินแบบของคุณน่ะครับ ผมรู้สึกว่าช่วงนี้ผมถูกเชิญไปร่วมงานที่คุณเดินแบบอยู่บ่อยๆ" เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับผิด
"เหรอครับ แต่เท่าที่วาจำได้ไม่น่าจะใช่ตามงานต่างๆ หรอกครับ แววตานั้นเหมือนวาเคยเจอที่ไหนสักแห่งแต่พนายามนึกยังไงก็นึกไม่ออกครับ" ชายหนุ่มรู้สึกประหม่ามากขึ้น เริ่มมีเม็ดเหงื่อเล็กๆ ผุดขึ้นตามใบหน้าจนเห็นได้ชัดเจน จังหวะเดียวกันนั้นโทรศัพท์ของนายแบบหนุ่มมีสายเข้าพอดี นับเป็นสิ่งช่วยชีวิตปอได้ทันท่วงที
"ยังไงวาขอตัวก่อนนะครับ คุณปอ"
"ตามสบายเลยครับคุณวายุ ผมเองก็ต้องขอตัวเช่นกันครับ" คนทั้งกล่าวลากัน ก่อนที่นายแบบหนุ่มจะกดรับสายโทรศัพท์
"สวัสดีครับเดย์"
"สวัสดีครับ คุณออกมาจากงานหรือยังครับ ตอนนี้ผมรออยู่หน้างานครับ"
"วากำลังออกไปครับ เดย์มีอะไรหรือเปล่าครับ พอดีวาต้องรีบกลับบ้านน่ะครับ" ระหว่างที่เขาคุยกับคนในสายพลางเดินไปยังหน้างาน ก็พบกับคนในสายที่ยืนคุยโทรศัพท์กับเขาที่บริเวณหน้างานจริงๆ
"อ้าวเดย์ มีอะไรหรือเปล่าครับ"
"เราไปทานข้าวกันนะครับ ช่วงนี้ผมยุ่งๆ เลยไม่ค่อยมีเวลาทานข้าวกับคุณเลย" ชายหนุ่มอธิบายด้วยรอยยิ้ม
"เอ้อ วาคงไปกับคุณไม่ได้แล้วครับ เพราะคุณธีร์รอกินข้าวอยู่ที่บ้านน่ะครับ"
"ธีร์ ไอ้ข้าราชการกระจอกๆ พันธุ์นั้นน่ะเหรอ ที่มันมาแย่งคุณไปจากผม..." ชายหนุ่มกล่าวอย่างโมโหด้วยคำดูถูก
"ถึงเขาจะเป็นข้าราชการธรรมดาๆ แต่วาก็รักเขาครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้ววาขอกลับบ้านก่อนนะครับ"
"ไม่ได้ คุณต้องไปทานข้าวและไปฟังเพลงกับผมก่อน" เขากล่าวพลางคว้าข้อมือนายแบบพาเดินออกจากงาน
"ปล่อยวานะครับเดย์ วาไม่ไป... ปล่อย... วาเจ็บ..." ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จากชายหนุ่ม เขายังคงจับข้อมือคนตัวเล็กกึ่งลากกึ่งจูงต่อไป กระทั่งคนในงานเริ่มหันสนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทันใดนั้นได้มีมือหนึ่งมาจับแขนของชายหนุ่มข้างที่จับข้อมือนายแบบหนุ่มให้หยุดเดิน
"ปล่อยเขาเถอะครับ ถ้าเขาไม่ต้องการจะไปกับคุณคุณก็ควรจะปล่อยเขาไป"
"คุณปอ!"
"รู้จักกันด้วยเหรอ ดี! ถ้าอย่างนั้นก็อย่ามายุ่งเรื่องคนอื่น"
"ผมคงไม่ยุ่งไม่ได้ เพราะคุณกำลังบังคับคนที่เขาไม่เต็มใจไปกับคุณ"
"ไม่ปล่อยจะทำไม" เดย์ยังคงดึงดันลากจูงข้อมือคนตัวเล็กต่อไปทั้งที่มีมืออีกคนจับรั้งไว้อยู่ก็ตาม
"โอ้ย เดย์วาเจ็บแขนนะครับ"
"ปล่อยข้อมือเขาเถอะครับ ผมขอร้อง" เขากล่าวอย่างเรียบๆ แต่เพิ่มแรงบีบที่แขนของชายหนุ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อหวังให้ชายหนุ่มปล่อยข้อมือนายแบบหน้าหวาน
"โอ้ย เจ็บนะโว้ย ปล่อยแขนผมเดี๋ยวนี้"
"คุณต้องปล่อยเขาก่อน" เขากล่าวอย่างมีข้อต่อรอง
"ไม่ หรือมรึงจะเอา" ทันทีที่ชายหนุ่มกล่าวจบก็ปล่อยหมัดใส่ปากคนจับแขนไปเต็มๆ
ปั้ก!!
"นาย!!" เมื่อลูกน้องคนสนิทเห็นภาพตรงหน้าก็ร้องขึ้นด้วยความตกใจ เตรียมล้วงอะไรบางอย่างจากเอวของเขากลับถูกผู้เป็นนายห้ามไว้
"อย่า! เราจัดการเอง"
"คุณปอ เป็นยังไงบ้างครับ ทำไมเดย์ต้องใช้ความรุนแรงแบบนี้ด้วย วาผิดหวังในตัวคุณจริงๆ ปล่อยแขนวาเถอะครับ" เขากล่าวด้วยความตกใจพลางใช้มืออีกข้างจับที่รอยโดยชกเบาๆ ของชายเคราะห์ร้ายแล้วหันไปต่อว่าชายหนุ่มอีกฝั่งทันที
"ผมไม่เป็นไรครับคุณวายุ" เขาหันมองหน้านายแบบหนุ่มที่มีแววตาเห็นใจ
"ตกลงคุณจะไม่ปล่อยใช่มั๊ย!?...." เมื่อไม่มีสัญญาณจากอีกคน เขาจึงออกแรงบีบแขนเต็มแรง จนอีกคนรีบปล่อยข้อมือวายุลง เมื่อเขาเห็นว่าคนตัวเล็กปลอดภัยดีแล้วปอจึงรีบบิดแขนเหวี่ยงอีกคนให้ลงนอนกับพื้นอย่างง่ายดาย
ตุ้บ!
"คุณจะเอาเรื่องผมก็ได้นะครับ นี่นามบัตรของผม" เขายื่นนามบัตรให้คนที่ยังนอนหงายมองหน้าเขาด้วยสายตาเคียดแค้นบนพื้น ก่อนจะประคองนายแบบหนุ่มที่ยังเจ็บข้อมือไปยังหน่วยปฐมพยาบาลของทีมงานจัดงานแฟชั่นโชว์
"วาต้องขอขอบคุณคุณปออีกครั้งนะครับ วาคิดว่าวันนี้ไม่น่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับวา แต่ไม่วายเกิดเรื่องขึ้นจนได้ ยังได้คุณเข้ามาช่วยอีกเหมือนเดิม ขอบคุณจริงๆ ครับ" เขากล่าวขอบคุณชายหนุ่มเมื่อได้รับการปฐมพยาบาลเสร็จและเดินไปยังลานจอดรถพร้อมกัน
"คุณอย่าคิดมากเลยครับ ผมยินดีช่วยคุณเสมอหากคุณต้องการ" เขากล่าวพลางยิ้มอย่างจริงใจให้คนหน้าหวานตลอดระยะทางไปยังลานจอดรถ
"วาขอตัวกลับก่อนนะครับคุณปอ"
"คุณวายุขับรถไหวเหรอครับ"
"ไหวครับ ตอนนี้ไม่เจ็บเท่าไหร่แล้วครับ คุณปอไม่ต้องห่วงหรอกครับ"
"เรียกผม ปอเฉยๆ ก็ได้ครับ"
"จะดีเหรอครับ เราเพิ่งรู้จักกันเองนะครับ วาเกรงว่าจะไม่เหมาะสมน่ะครับ"
"ไม่เกี่ยวกันหรอกครับ คุณวายุ"
"ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นคุณก็เรียก วาเฉยๆ เถอะครับ"
"ครับวา ขับรถดีๆ นะครับ"
"ครับปอขอบคุณนะครับ วากลับก่อนนะครับ... บาย"
"บาย" ทั้งคู่ล่ำลากันก่อนแยกย้ายกลับบ้านของตน ขณะที่มีใครอีกคนบันทึกภาพและวีดีโออยู่ข้างพุ่มไม้...
