บทที่ 7 ขู่
“บอกว่าอย่าขยับเข้ามาไงโจเนส!”
“…”
“มะ ไม่ได้ยินหรือไง?”
“เกิดอาการรักนวลสงวนตัวขึ้นมาทันทีหรือไงวะเด็กนอกอย่างเธอที่เกิดและเติบโตจากที่นั่นยังต้องมานั่งกังวลเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?”
“…”
“นึกว่าจะชิน..”
“แล้วมันเรื่องอะไรของนายไม่ทราบไม่ใช่กงการอะไรเสียหน่อย”
ที่ฉันพูดมันถูกนะถูกมากที่สุดด้วยทำไมเกิดและเติบโตที่นั่นก็ไม่ใช่ว่าฉันจะต้องรับเอาวัฒนธรรมของฝรั่งมาด้วยนิ มันก็แค่บางเรื่องเท่านั้น
การเรียนรู้ของคนไม่ใช่ว่าต้องนำเอาทุกอย่างที่อยู่รอบตัวหรือว่าเอาสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวในเมืองนอกเข้ามาใช้เสียหมดสำหรับฉันเองก็เลือกแค่สิ่งที่ตัวเองคิดว่าดีไม่ก็ดีที่สุดเข้ามาใช้เหมือนกันเช่น ทางด้านแฟชั่น เทคโนโลยีในด้านต่างๆ ที่เขานำพวกเราไปต่อไหนไม่ใช่ไปเรียนแบบในเรื่องการกระทำที่ไม่ดี
การกระทำแบบนั้นเช่นการกอด จูบที่พวกเขาทำเป็นเรื่องธรรมดาแบบไม่คิดอะไรใช่ว่าฉันจะรังเกลียดเสียเมื่อไหร่แต่ทุกอย่างมันขึ้นกับการพิจารณาของตัวฉันเองทั้งนั้น อีกอย่างพวกเขาก็ไม่ได้ไปฆ่าเข็นใครด้วย
มันก็แค่ฉันไม่ชอบ..เท่านั้นเอง
“หึ”
แล้วเสียงของโจเนสก็เงียบลงไปไม่พูดหรือเถียงอะไรฉันแม้แต่น้อยมีเพียงเสียงดังในลำคอเท่านั้นเองที่เป็นเสียงสุดท้ายเพราะตอนนี้เขาใช้สายตาสีเหลือทองมองมายังร่างกายของฉันเองราวกับหมาป่าตัวใหญ่กำลังมองอาหารอันโอชารสเริดอยู่ก็ไม่ปาน
ทำไมจะไม่รู้ว่าสายตาแบบนั้นในหัวสมองของเขามันคิดอะไรเอาไว้เพราะไม่ใช่สิ่งดีอย่างแน่นอนทำไม ทำไม ทำไม ทำไมโจเนสต้องเป็นเหมือนคนอื่นๆ ที่ฉันเผชิญอย่างต่อเนื่อง
“ฉันถีบจริงๆ นะ!”
เรียวขาสวยที่ตอนนี้โพล่พ้นน้ำมาได้นิดหน่อยแต่กางเกงผ้าโปร่งของเมญ่าเปียกไปกับน้ำจนมันแนบชิดไปกับร่างกายของเธออีกทั้งมันยังแสนบางจนเห็นไปถึงขอบซับในสีเนื้อแล้ว
สิ่งเหล่านี้เป็นแรงกระตุ้นอารมณ์ชั้นดีที่ทำให้ไฟในกายของผมเองลุกช่วงโชติไปทั่วร่างกายไปหมดแล้วถึงแม้ร่างกายจะถูกโอบล้อมไปด้วยน้ำที่เย็นเฉียบมากแต่มันก็ไม่มีผลต่อร่างกายของผมเสียนิด
เพราะร่างกายที่อยู่ตรงหน้ามันช่วงยั่วยวนมากผิดปกติทั้งเรียวขายาวขาวผ่องที่ถึงแม้จะถูกคั่นด้วยผ้าบางมันก็ยังปกปิดออร่าได้ไม่มิดผสมกับด้านบนที่มีลำคอขาวระหงส์โชว์ถึงเมญ่าจะพยายามใช้มือปิดอย่างไงมันก็ไม่มิดก็แม่คุณเล่นสวมเสื้อโชว์ไหล่ขณะนั้น
“…”
“ขยับเข้ามาอีกฉันฆ่านายแน่โจเนสฆ่าอย่างไม่ลังเลด้วยซ้ำไปถ้านายยังไม่หยุดมองด้วยสายตาบ้าๆ นั่น!”
คำพูดขู่เข็นที่ฉันพยายามใช้น้ำเสียงหนักแน่นมากเท่าไหร่มันก็ไม่ได้ผลอีกตามเคย มีใครเคยบอกโจเนสไหมนะว่าเขาเป็นคนพูดยากมาก ยิ่งโตก็ยิ่งเข้าใจที่คนอื่นพูดไม่เข้าใจแม้คู่สนทนาจะพยายามอธิบายมากเพียงไหนมันก็ได้แค่ความนิ่งเงียบทั้งๆ ที่ร่างกายก็เริ่มขยับเข้ามานิดหน่อยแต่มันเยอะสำหรับฉันไงใครจะว่ายังไงช่างแม่ง
“โจเนส!”
“…”
“ทำไมนายพูดยากพูดเย็นขนาดนี้”
“ก็ไม่เห็นตายนี่”
“…”
โจเนสพยักใบหน้าหล่อด้วยความยียวนมากขึ้นกว่าเดิมยิ่งมือใหญ่ถูกแบออกมาข้างหน้าทั้งสองข้างยิ่งเป็นเครื่องการันตีว่าเขาไม่มีความสำนึก
“ไหนบอกขยับตายไงเมญ่า เหอะ”
คำพูดของเธอมันไม่ได้เข้าไปให้รูขุมขนของผมระคายแม้แต่น้อยอย่างเมญ่าก็ได้เพียงแค่ขู่ด้วยความแรงของริมฝีปากเท่านั้นนอกจากนั้นมันก็แค่เพียงอากาศเท่านั้น
“…”
“ไม่มีใครบอกหรออย่าพูดให้มันเปลืองน้ำลาย!”
“กะ กะ ก็...”
“ก็?”
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนายอีกแล้วอีกอย่างเรื่องของการหมั้นก็เหมือนกันเพราะฉันจะไปหมั้นจะไปแต่งงานกับใครมันก็คงไม่ไปหนักหัวนายเท่าไหร่หรอกเลิกทำตัวเหมือนเจ้ากรรมนายเวรเสียทีอีกอย่างครอบครัวฉันก็ไม่ว่า”
“…”
“พูดขนาดนี้หวังว่านายจะเข้าใจ”
