บทที่ 2 ป่วน
แล้วทุกอย่างก็เริ่มขึ้นเมื่อซันจอดรถและเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ สระน้ำที่มีขวดเหล้าเกลื่อนจนกระทั่งตอนนี้มันถึงเวลาที่ฉันเดินเข้ามาและนั่งลงบนตักใหญ่ของเขาทำทีว่ามาพึ่งมาหาใหม่ๆ คิดถึงมากมายแทบจะตายจากกันถ้าไม่ได้เจอและจากนั้นแขนของฉันก็ค่อยๆ เข้าไปสอดคล้องกับลำคอใหญ่ของซันทั้งๆ ที่ไม่ได้มีเพียงแค่ฉันกับซันเท่านั้นที่อยู่ในเหตุการณ์ที่เราทั้งสองสร้างขึ้นแต่กับมีผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูน่ารักวิ่งเข้ามาอย่างหน้าตาตื่นสายตาของเธอมองเราอย่างปวดร้าวดวงใจแทบแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เห็นจะได้มั้ง
“คิดถึงจังเลยค่ะ”
“…”
“รู้ไหมคะว่าเมญ่ารีบมาหาซันมากแค่ไหน?”
การเล่นละครของเราทั้งสองยังคงดำเนินต่อไปอย่างแนบเนียนที่สุดจนกระทั่งสายตาของฉันเข้าไปปะทะกับผู้ชายร่างสูงที่ยืนมองจากระเบียงชั้นสอง สายตาที่ฉันหลงใหลมากเป็นพิเศษมันเหมือนเป็นสิ่งที่ฉันต้องการเข้ามาให้ความอบอุ่นทางร่างกายและจิตใจ
โจเนส....
“….”
แล้วภายในสมองก็คิดอะไรออกมากกว่าการที่ได้นัดแนะกับซันเอาไว้ฉันเองก็แสดงความใจกล้าอย่างไม่มีลิมิตนอกเหนือจากบทนั่นก็คือการนำริมฝีปากแดงจรดเข้าไปยังแก้มของซันทันทีเพื่ออยากเห็นปฏิกิริยาของโจเนสบ้างว่าเขาคิดอย่างไรกับการกระทำของฉันในครั้งนี้
“นั้นใครคะซัน ดูเรามาตั้งนานแล้ว”
“แล้วคิดว่าเป็นใครล่ะ?”
เสียงเรียบเปล่งออกมาเป็นประโยคแรกพร้อมสายตาแข็งแรง
ฉันรู้ว่าซันคงไม่พอใจกับการนอกบทในครั้งนี้แต่ก็ใช้ว่าฉันจะสนใจนิในเมื่อเขาใช้ประโยชน์จากฉัน ฉันเองก็ควรใช้ประโยชน์จากเขาบ้างมันก็แค่นั้นไม่ใช่หรือ?
“เด็กรับใช้?” เธอพูดขึ้นพร้อมมองมาที่ฉันก่อนที่จะกวักมือเรียกเข้าไปใกล้ๆ “เอากระเป๋าฉันไปเก็บที่ห้องซันที ย้ำนะว่าห้องซัน!”
“หึ”
“…”
“ไปสิ ฉันคู่หมั้นซันนะอีกไม่นานก็เป็นเมียแล้ว”
ทันทีที่ผู้หญิงหน้าตาจืดๆ ที่ฉันเดาว่าเป็นเมียของซันเดินนำหน้าลากกระเป๋าของฉันนำทางไปเสียงแข็งก็ได้กระซิบลงมาใกล้หูฉันทันที
“เธอทำบ้าอะไรวะเมญ่า?”
“ก็อยากใช้ประโยชน์จากนายบ้างไง”
ใครจะยอมถึงแม้สายตาของซันจะมีความไม่พอใจผสมบ้างแต่ก็เชื่อเถอะถ้าการกระทำมันมีเหตุผลพอทุกอย่างมันก็จบ
“ไหนนายฉลาดมากไม่ใช่แต่ทำไมสายตาของนายถึงมองไม่เห็นว่าโจเนสเพื่อนรักมากมองอยู่เมื่อกี้มองลงมาจากระเบียง” ริมฝีปากเล็กยกขึ้นด้วยความเบื่อหน่ายไม่เชื่อว่าที่คนอื่นๆ พูดว่ากลุ่มนี้ฉลาดมันยังเป็นจริงอยู่หรือเปล่า “หรือมัวแต่มองเมีย?”
“…”
ภาพที่คนอื่นๆ เห็นอาจจะมองว่าเราทั้งสองเป็นคู่หมั้นที่แสนรักกันปานจะกลืนกินมีการหลอกล้อกันตลอดทางด้วยการกระทำและรอยยิ้มแต่ทว่าทุกอย่างจะไม่มีใครรู้ว่าทั้งฉันและซันต่างสวมหน้ากากเข้าตีบทบาทการแสดงอย่างแนบเนียนถ้าเป็นดารานักแสดงปีนี้คงต้องได้รางวัลเป็นแน่
ยิ่งเมื่อฉันเบี่ยงสายตามองไปยังผู้หญิงร่างเล็กที่แทบจะไม่พูดอะไรเลยสักคำทั้งแต่เดินนำมา ความรู้สึกที่เธอกำลังเจออยู่มันปกปิดได้อย่างไม่แนบเนียนด้วยซ้ำ ความปวดร้าวจนในใจแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงหรือไม่ก็คงแทบกะอักเลือดด้วยซ้ำจนพวกเราเข้ามายังห้องใหญ่ที่เป็นจุดหมายปลายทางที่จะสามารถจบเรื่องบ้าๆ นี้ฉันก็รีบออกจากอ้อมแขนของซันทันทีก่อนจะเดินไปปิดประตู
ปัง!
“ได้ทีลวนลาม”
ฉันค้อนสายตามองไปยังผู้ชายตรงหน้าที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นก่อนที่จะทำท่าปัดที่หัวไหล่เบาๆ เหมือนจะบอกว่าตอนนี้ปัดสิ่งสกปรกออกจากตัว
“เหอะ ไม่คิดจะแตะเลยด้วยซ้ำถ้าไม่จำเป็น”
“จำเป็น?” เป็นคำตอบที่ดีเนาะ “อยากจะลองใจเมียหรือไงซัน?”
“…”
“สิ้นคิด” ฉันพูดออกมาพร้อมมองไปยังซันที่ยังมีท่าทีเฉยๆ ไม่สะทกสะท้านกับสิ่งใดๆ ทั้งสิ้นแม้กระทั่งคำพูดของฉันเอง “ไปตามเมียนายซะไป ป่านนี้ไปกระโดดทะเลตายแล้วมั้ง”
