ตอนที่ : 9 กลับไม่ได้ 3
ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันแล้วหันหนี เพราะอะไรทั้งคู่ย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ ถ้าไม่ใช่เพราะอยากรักษาคำมั่นสัญญา ให้กับคนที่พวกเขารักนั่นเอง
“พูดไปก็เท่านั้นแหละ ไหน ๆ เราก็ต้องแต่งงานกันอยู่แล้ว สำหรับพี่มีแต่ได้”
“ฮะ” ศศิพิมพ์อ้าปากค้าง คำว่ามีแต่ได้ของเขานั้น มันให้เธอรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมา ยิ่งเห็นรอยยิ้มนิด ๆ ตรงมุมปากของเขา ยิ่งน่าโมโหนัก
“แล้วนี่พี่ชัชจะพาพิมไปไหนต่อคะ” หญิงสาวกระแทกเสียงถาม ก่อนที่เธอจะคุมสติของตัวเองไม่อยู่ แล้วกระโจนข่วนหน้าเขาให้แหก
“ลงไปหาของอร่อยกินในตัวเมือง”
“แต่พิมไม่อยากไป”
“ไปหน่อยเถอะน่า บนไร่ไม่มีอะไรให้ดูแล้ว มีแต่ผักผลไม้ อีกหน่อยก็ได้ทำงานเป็นชาวไร่สมใจแน่” เขาแขวะคนอยากอยู่บนเขา
“สมใจอะไรคะ พิมไม่ได้อยากมาเป็นชาวไร่สักหน่อย พิมเป็นดีไซเนอร์เสื้อผ้านะคะ” คนไม่ได้อยากมาอยู่ที่นี่ จะมาบอกว่าสมใจได้อย่างไร เรื่องนี้ศศิพิมพ์ยอมรับไม่ได้
“ไปหาของกินเป็นเพื่อนพี่ก็ได้ ไม่ต้องเรื่องมาก ขี้เกียจวนรถขึ้นไปส่ง” เขาตัดรำคาญแล้วเหยียบคันเร่งลงจากเขาไป โดยไม่คิดฟังคำทักท้วงของคนที่นั่งอยู่เบาะด้านข้าง
“เอาที่สบายใจเลยค่ะอยากพาไปไหนก็ไป” ศศิพิมพ์หงุดหงิดจนเบื่อจะคุยกับเขาแล้ว หญิงสาวหันหน้าออกไปมองแมกไม้ด้านข้างแทน
ร้านอาหารที่เขาพามานั่งกินข้าวเที่ยงนั้น มีเจ้าของร้านเป็นผู้หญิงหน้าตาสะสวย เตชัสมองตามตาแทบไม่กะพริบเลย
‘โถ พ่อคุณอยากมาเต๊าะสาวก็ไม่บอก’
“วันนี้คุณเตชัสจะสั่งอะไรดีคะ” เจ้าของร้านคนสวยถึงกับมารับออเดอร์ด้วยตัวเอง ปรายตามองมาทางศศิพิมพ์เล็กน้อย ก่อนจะหันไปยิ้มหวาน ๆ ให้เตชัสต่อ
“ก็เอาเหมือนเดิมนั่นแหละครับคุณอ้อน” เตชัสตอบด้วยน้ำเสียงโทนนุ่ม ๆ สายตาหวานฉ่ำ
“ได้ค่ะคุณเตชัส แล้วคุณล่ะคะ” หญิงสาวตอบรับเสียงหวาน ๆ แต่พอหันมาถามศศิพิมพ์ น้ำเสียงของหญิงสาวค่อนข้างห้วนกว่าตอนถามเตชัสเล็กน้อย ศศิพิมพ์ถึงกับเลิกคิ้วอย่างสงสัย
‘นี่หึงเหรอ หึ’
“นั่นสิคะ พี่ชัชขาเลือกรายการอาหารให้พิมหน่อยสิคะ พิมเพิ่งเคยมาที่นี่ครั้งแรก ไม่รู้เลยค่ะว่าอะไรอร่อย”
เตชัสตัวแข็งทื่อไปในทันที เมื่อหญิงสาวหันมาออดอ้อนเขาแบบจงใจ ทำตากะปริบ ๆ ใส่จนน่าหมั่นไส้
“เอ่อ เอาอันนี้ อันนี้ เพิ่มอีกอย่างละจาน แล้วข้าวเปล่าอีกจานนะครับคุณอ้อน” เขาแทบจะหลับตาจิ้มเมนูสั่ง
“ได้ค่ะ” อรชรเก็บเมนูบนโต๊ะแล้วเดินหน้าตึง ๆ เข้าหลังร้านไป
“อ้าว พี่ชัชขาคุณอ้อนขาโกรธซะแล้ว” ศศิพิมพ์ยื่นหน้าไปแหย่เขาใกล้ ๆ
“หยุดเลยนะน้องพิม เล่นอะไรไม่เข้าท่า”
“ใครเล่นคะ พี่ชัชกำลังจะแต่งงานกับพิมนะคะ มาเต๊าะสาวเรี่ยราดแบบนี้ไม่ได้นะคะ พิมไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ไม่ยอม ๆ” ศศิพิมพ์ส่ายหัวไหล่ไปมาอย่างน่าหมั่นไส้ บางทีเรื่องนี้มันก็สนุกอยู่เหมือนกัน
“ตลกตายเลยระวังเถอะ อีกหน่อยจะหัวเราะไม่ออก” เขาคาดโทษเอาไว้
ศศิพิมพ์หน้าเจื่อนลงเล็กน้อยหลังได้ยินสิ่งที่เขาพูด แต่งงานไปแล้วคนที่จะตลกไม่ออกคงเป็นเธอ แต่เรื่องอะไรจะแสดงออกให้เขารู้ หญิงสาวยักไหล่แล้วหยิบมือถือออกมาดู คิดไม่ตกว่าจะคุยเรื่องลาออกกับบริษัทอย่างไรดี
สักพักเจ้าของร้านคนสวย เป็นคนเดินถือถาดออกมาเสิร์ฟอาหารเอง เตชัสยังคงโปรยเสน่ห์ด้วยรอยยิ้มนุ่ม ๆ ให้อีกฝ่ายก็เอียงอายเล็กน้อย
‘ต่อหน้าต่อตาเลยน้าพี่ชัช’
“พนักงานไม่ว่างเหรอคะ” ด้วยความหมั่นไส้ล้วน ๆ ศศิพิมพ์จึงถามประโยคนี้ออกไป
“อะไรนะคะ” อรชรหันมาทำหน้าเหวอหลังได้ยิน
“ฉันถามว่าพนักงานที่ร้านไม่ว่างเหรอคะ ถึงได้กล้าใช้ให้เจ้าของร้าน ออกมาเสิร์ฟอาหารเองแบบนี้ ลูกค้าก็มีแค่สองสามโต๊ะเอง เป็นฉันไล่ออกไปหมดแล้วค่ะ” ไม่เพียงแค่พูดศศิพิมพ์ยังปรายตาไปยังพนักงาน ที่จับกลุ่มยืนคุยกันอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์แคชเชียร์อีกด้วย
“เอ่อ คุณเตชัสจะไม่แนะนำหน่อยเหรอคะ” อรชรหน้าเสียเล็กน้อย ก่อนจะหันไปหาตัวช่วยจากเตชัส
“อ้อ คุณอ้อนครับนี่น้องพิมครับ เป็นเอ่อ เป็น”
“เป็นว่าที่เมียของพี่ชัชค่ะ” อ้ำอึ้งดีนัก ศศิพิมพ์เลยตอบให้เสียเอง
“นี่คุณเตชัสจะแต่งงานแล้วเหรอคะ” อรชรทำหน้าเหมือนโดนผีหลอก เขามาแจกขนมจีบให้เธอวันเว้นวัน ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ได้
“คุณอ้อนครับ” เจอคำถามนี้เข้าเตชัสถึงกับไปต่อไม่เป็น ได้แต่ทำหน้าเจื่อน ๆ ออกมา
“ยินดีด้วยนะคะ” คนสวยเปลี่ยนโทนเสียงไปในทันที เดินหน้าเชิดกลับเข้าหลังร้านไป เตชัสหันมามองศศิพิมพ์ด้วยสายตาเอาเรื่อง
“ตอนนี้พี่ชัชคงคิดว่า พาพิมกลับไปส่งที่บ้านตั้งแต่แรกคงดีกว่าใช่ไหมคะ พอดีพิมเป็นคนตรง ๆ ค่ะ ไม่ชอบอ้อมค้อม” หญิงสาวแสร้งทำหน้าเศร้าใส่เขา
“มาแค่วันเดียวก็ทำตัวกร่างซะแล้วนะน้องพิม ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่เขาอยู่กันยังไง”
“นั่นสิคะ คงต้องเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ” ศศิพิมพ์ยิ้มตอบกลับเขาไป อย่ามาขู่เธอไม่กลัวหรอก
“นั่นคุณเตชัสนี่ไปทักทายกันเร็วพวกเรา คุณเตชัสสวัสดีครับ” กลุ่มวัยรุ่นราวห้าคนเดินเข้ามาพากันยกมือไหว้เตชัส เขาเองก็รับไหว้อย่างคุ้นเคย
“จะไปไหนกันไอ้เพชร อย่าบอกว่าจะยกพวกไปตีกับใครเขาอีก” เตชัสเปลี่ยนโหมดเป็นคนดุขึ้นมาในทันที ทำให้ศศิพิมพ์นึกแปลกใจตามไปด้วย
“เปล่า ๆ ครับ พวกเราแค่แวะมากินข้าวแล้วจะไปเยี่ยมแม่ไอ้ปองที่โรงพยาบาลครับ” เพชรพูดแล้วหันไปทางคำปอง
“แม่เราเป็นอะไรไปปอง”
“เป็นไส้ติ่งอักเสบครับคุณเตชัส”
“แล้วตอนนี้เป็นไงบ้าง”
“ผ่าตัดไส้ติ่งเรียบร้อยดีครับไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง พี่เพชรนั่นแหละจะยกพวกไปเยี่ยมให้ได้ ผมบอกไม่ต้องไปก็ไม่เชื่อ” คำปองหันไปค้อนลูกพี่ตัวเองเล็กน้อย
