ตอนที่ 5
สิบนาทีผ่านไป รสาอธิบายผลิตภัณฑ์ทุกตัวของบริษัทได้อย่างคล่องแคล่ว เพราะเธอใช้เวลาระหว่างที่เดินทางมาที่ห้องนี้ ท่องจำว่ามีกี่รุ่นกี่สีและราคาเท่าไร แต่...
"สมรรถนะล่ะ ความเร็วของเครื่องยนต์อยู่ที่เท่าไร วัสดุที่ใช้เป็นอะไร แล้วถ้าผมอยากได้ซูเปอร์คาร์ตัวท็อปล่ะ ผมควรเลือกรุ่นไหนดี"
"เอ่อ คือ" หญิงสาวอึกอักพูดต่อไม่ได้ เพราะไม่รู้เลยว่ารถแต่ละคันของบริษัทที่ผลิตออกมามีความแตกต่างกันอย่างไร ยิ่งซูเปอร์คาร์ตัวท็อปด้วยแล้ว รสาไม่รู้จักด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร
ไบรอันนิ่งมองสาวน้อยตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์ แค่นี้ก็ดูออกแล้วว่ารสาไม่เหมาะกับการขาย และไม่มีทักษะเรื่องนี้เอาเสียเลยด้วยซ้ำ ไม่ต้องมีความรู้เรื่องรถยนต์หรอกแค่ไหวพริบในการตอบคำถามให้ลูกค้า ก็ดูออกแล้วว่าทำไม่ได้แน่
ทีมขายชุดนี้ไบรอันต้องการคนที่มีทักษะในการดูแลลูกค้า ไม่ใช่เพียงแค่ขายเป็นหรือขายเก่งเท่านั้น แต่ต้องการคนที่สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดี เพื่อดึงดูดความน่าสนใจสู่การขาย เปรียบเสมือนคนคอเดียวกันคุยเรื่องเดียวกันก็จะยิ่งสนุกมากขึ้นไปอีกนั่นเอง
"ตกลงว่าไง" เขาถามเสียงขรึม พิจารณาแน่แล้วว่ารสาไม่ผ่าน
"เอ่อ ฉันไม่ทราบค่ะ" หญิงสาวตัดสินใจพูดความจริงออกมา
ชิดชนกพูดถูก รสาไม่มีความรู้เรื่องรถ ไม่รู้จักอะไรที่เกี่ยวกับรถเลย และไม่คิดว่าการเป็นพนักงานขายรถมันจะยากแบบนี้
เห็นทีว่าเธอคงจะต้องพิจารณาตัวเองเสียใหม่ ลาออกเดี๋ยวนี้เลยน่าจะดี จะได้ไม่ต้องทำงานที่ตนไม่มีความสามารถและไม่ต้องเจอหน้าคนที่ไม่อยากเจอด้วย
"คุณไม่ผ่าน" ไบรอันพูดตามตรง
"ค่ะ ฉันขอลาออก" รสาตัดสินใจทันทีโดยไม่เสียดาย
"ไม่ได้ ผมไม่ให้คุณลาออก" เขารีบบอก
"แต่ว่าฉันจะออก เพราะฉันไม่อยากทำงานที่นี่แล้ว" หญิงสาวลุกขึ้นจากเก้าอี้ ตั้งท่าจะเดินออกไป แต่ไบรอันเรียกไว้เสียก่อนว่า
"คุณไปไม่ได้ เพราะคุณติดหนี้บริษัท" ท่านรองหนุ่มลุกขึ้นจากโต๊ะเดินตามมาทันที
"คุณไม่ผ่านการขายแล้วยังทำให้บริษัทเสียลูกค้า รู้ไหมถ้าผมเป็นลูกค้าจริง คุณทำให้บริษัทสูญเงินไปเท่าไร" ไบรอันแกล้งทำหน้าเข้มแล้วพูดต่อไปว่า
"ดีที่ผมเอะใจว่าคุณไม่มีประสบการณ์การขายมาก่อน แต่ที่รับคุณเข้ามาเพราะเห็นว่าคุณเคยผ่านงานกับบริษัทใหญ่ๆ น่าจะมีเรื่องคุยเพื่อสร้างสัมพันธ์กับลูกค้า และในใบสมัครคุณก็ระบุชัดเจนว่าพร้อมจะเรียนรู้ก้าวไปกับเรา แล้วจู่ๆ จะมาทิ้งไปกลางคันทำให้บริษัทเสียหายโดยไม่รับผิดชอบอะไรเลยไม่ได้นะ"
"คุณ" รสาพูดไม่ออกไม่คิดว่าการตัดสินใจของตนจะทำให้เรื่องราวบานปลายขนาดนี้
ไบรอันมองปราดเดียวก็รู้ว่ารสากำลังกลัว และเขาจะใช้โอกาสนี้ทำในสิ่งที่ต้องการ นั่นคือการทำให้อีกฝ่ายยอม
เพื่ออะไรน่ะเหรอ ตอนนี้ยังบอกไม่ได้รู้เพียงแต่ว่าถ้าปล่อยเธอให้หลุดมือไปอีกครั้ง อาจจะไม่ได้พบกันอีกเลยตลอดชีวิต
รสาเดินถอยหลังเมื่อคนตัวโตย่างเท้าเข้ามาใกล้ หัวใจเธอสั่นเมื่อประสานสายตากับเขา ไบรอัน ศิวกร ชาร์ตัน ผู้ชายที่พรากความสาวไปในคืนนั้น
เขากำลังใช้สายตาและท่าทางคุกคามอย่างเห็นได้ชัด มันไม่ใช่เรื่องงานที่พูดมาก่อนหน้า แต่มันเป็นเรื่องอื่น เรื่องที่รสาอยากจะลืมใจจะขาด
"ยะ อย่าเข้ามานะ" รสาเสียงสั่น
ไม่ใช่แค่เสียงที่สั่น หัวใจก็สั่นเต้นรัวราวกับกลองเพลด้วย คืนนั้นเธอจดจำทุกอากัปกิริยาที่ทั้งคู่ร่วมกันทำได้อย่างไม่ลืมเลือน ใบหน้าคมเข้ม ริมฝีปากหยักได้รูป ดวงตาสีน้ำตาลที่มองจ้อง ทุกอย่างบนเรือนร่างเขาแนบแน่นอยู่กับเนื้อตัวของรสาทั้งคืน
ริมฝีปากของเขาสัมผัส สัมผัสไปทั่วร่าง ปลายจมูกดอมดมไม่เว้นพื้นที่สักตารางนิ้วเดียว ฝ่ามือลูบไล้เคล้าคลึงบีบเคล้น ร่างสูงถาโถมทาบทับไม่ยอมห่าง
นอกจากฤทธิ์ยาที่กระตุ้นให้รสาทำในสิ่งที่ไม่คาดคิดแล้ว เสน่หาในเพลงรักของไบรอันก็ดึงเธอให้กระโจนลงสู่เหวลึกแห่งความหฤหรรษ์อย่างถอนตัวไม่ขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
และตอนนี้ความสมาร์ตหล่อเหลาที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า ก็ทำให้หัวใจดวงนี้หวั่นไหว และพานไร้เรี่ยวแรงต่อต้านอย่างไม่มีสาเหตุ ดวงตาที่จับจ้องเหมือนมนตร์สะกดให้เคลิ้มตาม
ยิ่งเข้าใกล้มากขึ้นเท่าไรกลิ่นกายที่รสายังคงฝันถึงก็มีพลังดึงดูดให้หยุดยืนอยู่กับที่ ราวกับจะรอรับคำสั่งของเจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ที่จะบัญชาการลงมาต่อทาสสาวผู้ภักดี
"จะ จะทำอะไร"
รสาถามเสียงสั่นไปไหนต่อไม่ได้เพราะถอยจนติดกับตู้ใบใหญ่ที่อยู่ในห้อง เป็นโอกาสให้เขายกแขนทั้งสองข้างคร่อมตัวเธอไว้และโน้มใบหน้าคมเข้ามาใกล้ ลมหายใจอุ่นเฉียดแก้มสาวไปอย่างตั้งใจ
"ทำให้ลูกค้าไม่พึงพอใจ ต้องชดใช้ รสา" ไบรอันเอ่ยต่อไปอีกว่า
"บริษัทขาดรายได้จากการขายสินค้าเพราะความไม่เป็นมืออาชีพ คุณต้องเป็นคนจ่ายค่าชดเชยนี้มา"
"จะ จะบ้าเหรอ ฉันยังไม่ได้ขายอะไรใครเลย แล้วคุณก็ไม่ใช่ลูกค้าด้วย" รสากลั้นใจตอบโต้
"ใช่ ผมไม่ใช่ลูกค้า แต่ผมเป็น..."
เขายังพูดไม่จบเสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขัดจังหวะเสียก่อน รสารู้สึกว่าระฆังช่วยชีวิตมาแล้ว เธอผลักอกร่างสูงที่หมายจะคุกคามให้ออกห่างแล้วรีบวิ่งออกไปให้เร็วที่สุด โดยไม่ทันได้มองด้วยซ้ำว่าใครที่รอพบท่านรองเป็นคนต่อไป
