ตอนที่ 4
ใครจะตกลงซื้อรถราคาแพงขนาดนี้ภายในวันเดียว แล้วพนักงานขายหน้าใหม่ที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนอย่างเธอ จะทำได้ง่ายดายเชียวหรือ
รสาอยากจะบ้าตาย และนึกโมโหกับความคิดประหลาดของคนที่ออกคำสั่งนัก
ถ้าคิดว่าขายง่ายก็มาลองทำเองแล้วจะรู้ …
"เรามีตัวช่วยไม่ต้องกลัว นี่คือรายชื่อของลูกค้าวีไอพีที่บริษัทติดต่อไว้ให้แล้ว คุณรสาแค่ไปพบตามที่นัดและพยายามปิดงานให้ได้ภายในวันนี้ก่อนสี่โมงเย็นค่ะ"
"วันนี้ ก่อนสี่โมงเย็น" รสาอยากจะเป็นลม
ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนล่วงหน้า ก็ไหนเมื่อวานตอนที่รับเข้าทำงานบอกว่า จะมีการฝึกสอนให้ก่อนหนึ่งเดือนแล้วค่อยลงสนามจริง
นี่มันอะไรกัน ยังไม่ทันได้รู้จักด้วยซ้ำว่าเจ้ารถหรูพวกนี้มีประสิทธิภาพมากแค่ไหน คุ้มกับราคาหลักสิบล้านที่จะจ่ายหรือไม่
ต้องตายแน่ รสาเอ๋ย งานนี้ …
เหมือนฟ้าแกล้งมากขึ้นไปอีก เมื่อลูกค้าที่รสาจะต้องเดินทางไปพบและเสนอขายสินค้าให้นั้น คือท่านรองประธานบริษัทแม็กมาร์ติน ผู้ออกนโยบายประหลาดๆ นี้นั่นเอง
"ทำไมเป็นคุณไบรอันคะ" รสาถามด้วยความสงสัย
"คุณรสาเป็นกรณีพิเศษค่ะ ท่านรองอยากดูทักษะความสามารถในการขายของคุณด้วยตนเอง"
"อะไรนะคะ" หญิงสาวตกใจ เมื่อรู้ว่าไบรอันเจาะจงเลือกตนโดยเฉพาะ
"ถือว่าเป็นสิทธิพิเศษกว่าคนอื่นนะคะ เพราะท่านรองแค่อยากดูทักษะเท่านั้น ไม่ได้อยากได้ยอดจริงเหมือนคนอื่น คุณรสาต้องทำได้แน่ค่ะ ไม่ยากหรอก" พนักงานคนดังกล่าวปลอบใจ
ใช่ ไม่ยาก ถ้าไม่ใช่เขา ผู้ชายคนนั้น คนที่รสาอยากหนีให้ไกลไม่ต้องเห็นหน้า
หรือถ้าให้ดีเธอยื่นใบลาออกตอนนี้เลยดีไหม จะได้ไม่ต้องพบไม่ต้องเจอกันอีก
แต่เมื่อคิดว่างานนี้เป็นงานเดียวที่หาได้ และถ้าลาออกไปก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะมีบริษัทอื่นเรียกตัวไปสัมภาษณ์ และก็ไม่รู้ว่าในสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้จะมีบริษัทไหนกล้าสู้เงินเดือนและเพิ่มเงินเดือนให้มากเท่าที่นี่อีก
รสาต้องสู้ สู้เพื่ออนาคตของตนเองและสู้เพื่อครอบครัวที่อยู่ข้างหลัง แต่จะทำอย่างไรให้เธอสามารถใช้ชีวิตเป็นปกติได้เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา
รสาหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องครุ่นคิดว่าจะต้องทำอย่างไรกับสถานการณ์ตรงหน้าตอนนี้ เธอมืดแปดด้านไม่รู้จะหันหน้าไปปรึกษาใคร
ถ้าเป็นเรื่องอื่นคงโทรศัพท์ไปขอคำแนะนำจากเพื่อนรักอย่างชิดชนกได้ หรือไม่ก็ขอกำลังใจจากคนที่เคยเคียงข้างกันมาเช่นปราบ แต่วันนี้ไม่เหลือใครเลยนอกจากตัวเอง
เรื่องที่เกิดขึ้นคืนนั้นควรเป็นความลับไปจนวันตายกับตนเอง รสาไม่มีวันปริปากพูดเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด และหวังว่าคู่กรณีของเธอก็จะไม่พูดเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
ความกังวลของรสาไม่ได้อยู่ที่การแสดงทักษะความสามารถในการขาย แต่อยู่ที่เรื่องคืนนั้นกับผู้ชายเจ้าของเรื่องนั่นต่างหาก
เขาจะจำเธอได้ไหม จะลืมเรื่องคืนนั้นหรือยัง
หญิงสาวเป็นกังวลว่าถ้าหากชายหนุ่มไม่ลืมเรื่องในคืนนั้น และเท้าความถึงมันอีก หรือใช้มันเป็นกลอุบายให้ต้องตกอยู่ในอำนาจตามความต้องการเช่นคนเห็นแก่ตัวแล้วละก็ เธอจะรับมืออย่างไร
เวลามีให้รสาคิดไม่มากและต้องรีบตัดสินใจ เพราะตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียงสองชั่วโมง ก็จะถึงกำหนดเวลาปิดการขายที่ตั้งไว้ตามกำหนด ทางเดียวคือเสี่ยง และหวังว่าการเสี่ยงครั้งนี้จะได้ผล
ขอให้เขาลืม จำเธอไม่ได้
อะไรก็ตามแต่ที่จะไม่เอ่ยถึงเรื่องคืนนั้นอีก ...
ไบรอันมองดูนาฬิกาที่ข้อมือสลับกับมองประตูห้องด้วยความร้อนใจ อุบายที่เขาเพิ่งจะสั่งลงไปน่าจะได้ผลแล้ว ตอนนี้เหลือเวลาอีกแค่สองชั่วโมงเท่านั้น รสามัวทำอะไรอยู่ หรือคิดว่าตัวเองทำไม่ได้จึงตัดสินใจลาออกไม่ทำงานที่นี่แล้ว
แต่เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูและเห็นร่างเล็กที่ตนรอคอยเดินเข้ามา รอยยิ้มที่มุมปากของท่านรองประธานสุดหล่อก็เกิดขึ้น ไบรอันปรับสีหน้าให้เป็นปกติใช้สายตาจับจ้องมองรสาที่เดินเข้ามาใกล้อย่างช้าๆ
ใบหน้ารูปไข่ริมฝีปากได้รูปที่เขาจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่รู้เบื่อ ดวงตาหวานซึ้งที่ค่ำคืนนั้นหวานฉ่ำหยดย้อยเสียจนต้องมนตร์สะกด
รูปร่างเล็กได้รูปมีส่วนเว้าส่วนโค้งที่รับกันทุกสัดส่วน อกอิ่มที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อสูทน้ำเงินทำให้ชายหนุ่มคิดถึงว่า ยามได้ลองลิ้มชิมรสที่ยอดงามมันหวานปานน้ำผึ้งเพียงไร
สะโพกผายงดงามที่ขับเคลื่อนร่วมไปด้วยกันอย่างเร่าร้อน เรียวขาขาวเนียนที่โอบรัดการเดินทางสู่ดินแดนแห่งความสุขแนบแน่น สวย เซ็กซี่ มีเสน่ห์ดึงดูดใจที่สุด
"นั่งสิ รสา" เขาผายมือให้หญิงสาวนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ใจจริงอยากให้เธอมานั่งใกล้ๆ อยากสูดดมความหอมของกลิ่นกายสาวที่ยังคงฝันถึง
แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดถึงความเร่าร้อนที่ตราตรึงอยู่ในความทรงจำ เขาใช้อำนาจผู้บริหารสั่งการโน่นนี่ไปมากมาย เพื่อให้ได้รู้จักผู้หญิงที่ไม่เคยลืมเลือน เธอชื่อรสา เป็นพนักงานใหม่ของบริษัทและตอนนี้มาอยู่ตรงหน้าแล้ว
"เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า" ไบรอันหยั่งเชิงถาม อยากรู้ว่าเจ้าหล่อนจะว่าอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา
"ไม่ค่ะ ดิฉันเพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่วันนี้วันแรก" รสาจงใจเน้นคำว่าวันนี้วันแรก
หัวใจเธอหล่นไปที่ตาตุ่มเกือบจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่เมื่อถูกถามเจาะจงซึ่งหน้าแบบนี้ เธอพยายามเบนความสนใจกลับมาที่งานตรงหน้า ไม่แสดงพิรุธใดๆ ออกมาให้อีกฝ่ายมีโอกาสถามต่อได้
"รู้ใช่ไหมว่าต้องทำอะไรกับผม"
ไบรอันพักเรื่องที่อยากรู้ไว้ก่อน ตอนนี้เขารู้แล้วว่ารสาจงใจปิดบังตนเองไม่ยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้น
มีหลายคำถามเกิดขึ้นในหัวสมองท่านรองหนุ่ม ทุกคำถามยิงตรงมาที่สาวน้อยหน้าแฉล้มที่นั่งอยู่ตรงหน้าทั้งนั้น
เอาเถอะ ตอนนี้ไม่รู้จักไม่เป็นไร แต่ไบรอันรับรองได้ว่าอีกไม่นานรสาจะต้องจดจำเขาไปจนวันตายแน่
"ค่ะ" รสารับคำเบาๆ พยายามมีสติกับงานตรงหน้าให้มากที่สุด
"ไหนว่ามาซิ รู้อะไรบ้างเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องขาย" ท่านรองประธานเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ รอฟังด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
"เอ่อ ดิฉันจะมานำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดของบริษัทเราให้ เอ่อ ให้คุณไบรอันทราบค่ะ เริ่มจากตัวแรกรถยนต์รุ่น..."
