ตอนที่ 3
รสาไม่สนสิ่งที่ชิดชนกพูด และคิดว่าไม่จำเป็นต้องบอกเรื่องราวในชีวิตตนให้ผู้ชายคนนั้นรู้อีกแล้ว หญิงสาวคว้าข้อมือเพื่อนรักเดินออกมาหาข้าวเย็นกินกันตามประสา
ชีวิตใหม่ที่เธอกำลังจะเริ่มต้นจะต้องไปได้สวยแน่ รสาเสียอย่าง
อาคารสูงสิบชั้นริมถนนสุขุมวิทคือสถานที่ทำงานแห่งใหม่ของรสา ป้ายชื่อบริษัทรถยนต์ยี่ห้อดังเด่นตระหง่าน หญิงสาวก้าวเดินเข้าไปด้วยความมั่นใจเต็มร้อย
ถึงแม้ว่างานใหม่ที่กำลังจะเริ่มจะแตกต่างจากเดิมที่เคยทำมาก่อนก็ตามที แต่มันคงไม่ยากและผู้บริหารที่ตัดสินใจรับเธอเข้าทำงาน ต้องดูแล้วว่ามีความสามารถที่ทำได้แน่
แต่ถึงกระนั้นรสาก็ยังอดหวั่นใจไม่ได้ เพราะงานขายเป็นสิ่งที่ห่างไกลจากตัวเองมากเหลือเกิน
"มารายงานตัวค่ะ"
รสาแจ้งเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์เพื่อแลกบัตรขึ้นไปด้านบน วันนี้เธอจะต้องประชุมเพื่อรับนโยบายการขาย และทำความรู้จักกับเจ้าของผลิตภัณฑ์ตัวจริงที่เดินทางมาประเทศไทยพอดี
รสาพร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นงานใหม่ เธอยิ้มทักทายเพื่อนร่วมงานทั้งที่ทำงานมาก่อนหน้า และที่มาเริ่มงานใหม่พร้อมกันในวันนี้ ก่อนที่ทั้งหมดจะถูกเรียกให้เข้าไปในห้องประชุมเพื่อรับนโยบายสำคัญของบริษัท
รสามองไปรอบห้องด้วยความตื่นเต้น ที่นี่ตกแต่งเรียบหรูสมกับเป็นผู้นำเข้าซูเปอร์คาร์ชื่อดังระดับโลก ที่ฝาผนังมีรูปภาพของลูกค้าซึ่งเป็นบุคคลมีชื่อในแวดวงต่างๆ มากมาย
แต่หญิงสาวก็ต้องหยุดชะงักกับรูปรูปหนึ่ง ซึ่งมองดูไกลๆ เหมือนกับว่าเคยเห็นคนที่อยู่ในรูปที่ไหน เมื่อเพ่งมองไปเธอก็ต้องตกตะลึงมากขึ้นเมื่อรู้ว่าเป็นเขา
"ขอต้อนรับคุณไบรอัน ศิวกร ชาร์ตัน ท่านรองประธานบริษัทแม็กมาร์ติน ที่วันนี้สละเวลามาเยี่ยมเยือนพวกเราค่ะ" เสียงพิธีกรกล่าวแนะนำบุคคลสำคัญที่ยืนอยู่กลางห้องประชุม
คุณพระช่วย !
หัวใจของรสาร่วงหล่นไปที่ตาตุ่ม เป็นไปไม่ได้ ต้องไม่มีทาง ไม่มีวันเกิดขึ้น !
เธอตาฝาด !
ไม่ก็ยังลืมเรื่องนั้นไม่ได้ !
ไม่จริง ! มันไม่ใช่เรื่องจริง !
รสาหันซ้ายหันขวาหามุมที่ตนเองจะหลบได้ ต้องไม่เจอ ต้องไม่เห็นหน้า ต้องไม่พบกันเด็ดขาด
ไม่เช่นนั้น เรื่องราวในคืนนั้นที่ตามหลอกหลอน จะกลับมาทำให้ชีวิตที่เริ่มสงบสุขของเธอปั่นป่วนรวนเรอีก
เธอไม่รู้หรอกว่าเขาจะจดจำเรื่องคืนนั้นได้ไหม …
แต่สำหรับรสา นั่นคือฝันร้ายที่ไม่มีวันลบเลือนจากใจ …
อุบัติเหตุหรือความผิดพลาดที่นำชีวิตให้เปลี่ยนไป
ทำไม! โชคชะตาต้องเล่นตลกกับเธอด้วย
ทำไม! ต้องให้เขา ผู้ชายคนนั้นกลับมาอยู่ต่อหน้ากันอีก
ทำไม! ไม่ให้ทุกอย่างหายไปราวกับอากาศ
ทำไม! ต้องเกิดเรื่องแย่ๆ ในวันเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วย
รสาพยายามก้มหน้าไม่มองใครทั้งนั้น บังเอิญหรือว่าตั้งใจไม่รู้เจ้าหน้าที่จัดให้นั่งอยู่ตรงข้ามกับตำแหน่งที่ผู้ชายคนนั้นนั่งอยู่ และมีการแนะนำทีละคนให้รู้จัก
เพราะเนื่องจากพนักงานกลุ่มนี้ จะเป็นพนักงานพิเศษที่จะต้องไปพบลูกค้าที่มีความสำคัญกับบริษัทโดยตรง รายชื่อทีละชื่อค่อยๆ ไล่เรียงมาจนถึงเธอ
"คุณรสา พนักงานขายคนใหม่ของเราค่ะ"
รสาจำเป็นต้องเงยหน้าขึ้นและส่งยิ้มทักทายทุกคนที่อยู่ในห้องนั้น รวมถึงเขาด้วย
เพียงวินาทีที่สบตากันหญิงสาวขนลุกซู่ไปทั่วร่าง อยากจะหายไปจากตรงนั้นเสียเดี๋ยวนี้
แววตาคู่คมที่ประสานมองมาบ่งบอกให้รู้ว่า เขาจำได้ !
รสาแทบไม่ได้ฟังว่าในห้องประชุมพูดคุยเรื่องอะไรกันเพราะเอาแต่นั่งก้มหน้า และที่ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาก็เพราะสัมผัสได้ว่า มีสายตาของใครบางคนจับจ้องอยู่ตลอดเวลา
เมื่อการประชุมสิ้นสุดลง หญิงสาวเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้และรีบหายเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อสงบสติอารมณ์ที่กำลังไม่เป็นตัวของตัวเองทันที
"ลูคัส ไปหาประวัติของรสามาเดี๋ยวนี้" ไบรอันสั่งมือขวาที่ติดตามมาด้วยให้ทำงานสำคัญที่ร้อนใจที่สุดในเวลานี้
โลกกลม หรือพระเจ้าประทานพร ให้เขาได้มีโอกาสพบเธออีกครั้ง
เธอชื่อรสา ชื่อเพราะเสียด้วย ...
ไม่ใช่แค่ชื่อเพราะอย่างเดียวเท่านั้น เสียงก็หวาน สวยก็สวย และยังมีอีกหลายอย่างที่ตราตรึงอยู่ในหัวใจไม่รู้ลืม
ไบรอันแทบไม่เชื่อสายตาตนเองว่า ผู้หญิงที่อยู่ในความทรงจำของเขาตลอดอาทิตย์กว่าๆ นั้นนั่งอยู่ตรงหน้า และเป็นพนักงานของบริษัท
วันนี้เธอดูสวย มาดมั่นและมีเสน่ห์ผิดกับค่ำคืนนั้น เธอร้อนแรงด้วยความไม่ประสา เรียนรู้ไวเพียงแค่ได้รู้จัก และสร้างความตราตรึงในความรู้สึกจนลบเลือนไม่ได้เป็นอย่างดี
เขาคิดถึงเรียวปากนุ่มที่เฝ้าจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่รู้เบื่อ สัมผัสที่หอมละมุนกว่าผู้หญิงใดในโลกที่เคยได้ลิ้มลอง เสียงร้องหวานหูที่ได้ยินกี่ครั้ง ก็ทำให้เลือดในกายพลุ่งพล่านได้เสมอ
ทั้งหมดที่รวมเป็นรสา อยู่ในความทรงจำของไบรอัน มีเพียงสิ่งเดียวที่ติดค้างในใจมาตลอด
นั่นก็คืออะไรทำให้เธอกลายเป็นสาวน้อยร้อนรักในค่ำคืนนั้น ทั้งที่ตัวจริงไม่ประสาในเกมเสน่หาแม้แต่น้อย ถูกคนทำหรือทำตนเอง
เพราะอะไรและทำไม เขาจะต้องถามจากปากรสาให้รู้เรื่องให้จงได้
"ทดลองงานเหรอคะ"
รสาเอ่ยถามด้วยความแปลกใจระคนสงสัย เมื่อหัวหน้าฝ่ายบุคคลเรียกตัวเธอไปพบหลังจากที่ออกจากห้องประชุมแล้ว
"ค่ะ ตามนโยบายของบริษัทเรารับพนักงานชุดใหม่เข้ามาก็เพื่อให้ดูแลกลุ่มลูกค้าวีไอพีเท่านั้น คุณไบรอันมีความเห็นว่าเศรษฐกิจช่วงนี้เป็นขาลง ถ้าไม่ฝึกพนักงานขายให้มีความเชี่ยวชาญและสร้างเทคนิคในการขายที่แตกต่างจากเดิมแล้วละก็ ยอดขายที่เราตั้งไว้ช่วงการเปิดตัวโชว์รูมใหม่อาจจะได้ไม่ถึงตามที่ต้องการ ดังนั้นวันนี้คุณไบรอันจึงอยากให้พนักงานขายทุกท่านได้เสริมสร้างทักษะของตนเอง โดยแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการเป็นผู้ขายที่ดีค่ะ"
"แล้วดิฉันต้องทำอย่างไรบ้างคะ" รสามึนกับสิ่งที่เจ้าหน้าที่พูดมายืดยาวทั้งหมด สรุปโดยรวมสั้นๆ ก็คือ
"วันนี้ต้องขายผลิตภัณฑ์ให้ได้หนึ่งชิ้นงานค่ะ"
"หนึ่งชิ้นภายในหนึ่งวัน"
คุณพระช่วย!
นี่มันขายรถหรูราคาหลักสิบล้าน หรือขายหมูปิ้งนมสดไม้ละสิบบาทเจ้าอร่อยหน้าบ้านกันแน่
