บทที่ 7
ในใจอวี๋ซื่อเต็มไปด้วยความเสียดายที่ได้พาฮูหยินหานของหลู่กั๋วกงมาด้วย คนนี้มิใช่คนที่นางจะบังคับได้เลย
อีกทั้งหลินซือซือเป็นเด็กบริสุทธิ์ดุจผลคริสตัล ก่อนหน้านี้มักฟังตามที่นางว่าอย่างไม่สงสัย
วันนี้ไม่ทราบเพราะเหตุใด ทุกถ้อยคำกลับแทงตรงจุด ทำให้นางถึงกับเงียบกริบ ต้องยอมยุติเหตุการณ์ไป
นางวางแผนมานาน รู้สึกไม่พอใจยิ่งนัก
แต่ชั่วขณะนี้ นางก็จำต้องหาเหตุอ้างว่าไปต้อนรับแขกข้างนอก นำฮูหยินหานและเหล่าฮูหยินอื่น ๆ ออกไปก่อน
เมื่องานเลี้ยงสิ้นสุดลงแล้ว นางก็จะค่อย ๆ โน้มน้าวหลินซือซือเป็นการส่วนตัว อย่างมากก็ให้ลู่ซวี่มาช่วยปลอบประโลม ให้นางต้องกัดฟันยืนยันว่าทั้งหมดเป็นความผิดของลู่ฉ่างให้จงได้
พอถึงเวลาปิดประตู ลงโทษตามกฎของจวน เรื่องภายในเรือนนั้นก็เป็นเรื่องของบ้านตนเอง จะไปเกี่ยวกับใครเช่นไรกันได้
“คุณชายใหญ่ สุดท้ายแล้ววันนี้เจ้าก็ย่อมทำผิด ไปพักรออยู่ที่เรือนก่อนเถิด ส่วนเรื่องที่เหลือ เมื่อข้าแจ้งท่านพ่อของเจ้าแล้วค่อยมาจัดการต่อ” อวี๋ซื่อกล่าว
ผู้ชายจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า
“เรื่องนี้ข้ามีความผิด ข้าย่อมรับผิดชอบเอง แต่เบื้องหลังนั้นเป็นฝีมือของผู้ใด ข้าจะต้องตามจับคนนั้นให้จงได้”
พูดจบ เขาก็ไม่เหลียวมอง เดินจากไปด้วยหน้าเคร่งเครียด
ในใจอวี๋ซื่อสั่นระริกไปหมด
นางจ้องมองลู่ฉ่างเดินออกจากพื้นที่วุ่นวายและอัปยศด้วยความโกรธแค้นจนแทบระเบิด
นางรีบปลอบหลินซือซือเพียงสั้น ๆ แล้วก็พาผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปด้วยความกระวนกระวาย
หลินซือซือนั่งหน้าเครียดอยู่ที่ขอบเตียง ชาติก่อน ลู่ฉ่างไม่เคยเอ่ยคำเช่นนี้ แต่กลับยอมรับทุกความผิดอย่างเงียบ ๆ
ชิวอวิ๋นที่อยู่ข้าง ๆ มองด้วยใจเต้นระทึก รู้สึกได้ว่า วันนี้หลินซือซือแตกต่างไปจากทุกวันอย่างมาก
นางค่อย ๆ ก้าวเข้ามา เอ่ยด้วยน้ำเสียงระมัดระวังว่า
“คุณหนู เราไปด้วยกันเลยดีไหมเจ้าคะ?”
“แน่นอน!”
หลินซือซือจึงให้ชิวอวิ๋นช่วยจัดเสื้อผ้าและเกล้าผมให้เรียบร้อย จากนั้นก็ใช้ทางลัดกลับไปยังที่พักของตน
ในเรือนมีเพียงสาวใช้คนหนึ่ง ชื่อสี่เอ๋อร์ อยู่เพียงคนเดียว
ตั้งแต่เช้ามืด มีคนมาส่งจดหมาย บอกว่าฝั่งไห่หนิงมีผู้มาตามตัว ต้องการพบแม่นมจาง แม่นมจางจึงพาคนรับใช้และสาวใช้คนหหึ่งออกไปด้วย
ชุนอวี่ไม่รู้ว่าถูกใครเรียกตัวไปที่ไหน
ในชาติก่อน หลังเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้น ชุนอวี่ก็ถูกอวี๋ซื่อขายออกไป ส่วนชิวอวิ๋นก็อยู่ข้างหลินซือซือ คอยดูแลด้วยกันกับเหริ่นตง จนกระทั่งภายหลัง หลินซือซือจึงพบว่า ชิวอวิ๋นกลายเป็นคนของอวี๋ซื่อไปนานแล้ว
เมื่อลองคิดดู ชุนอวี่กลับเป็นผู้บริสุทธิ์ จึงถูกอวี๋ซื่อขายออกไปเช่นนั้น
“สี่เอ๋อร์ เจ้าไปหอจินเป่า เรียกแม่นมจางกลับมาโดยด่วน บอกว่ามีเรื่องสำคัญในจวน ให้รีบกลับมาทันที วันนี้งานในจวนยุ่ง เจ้าก็ไม่ต้องไปรบกวนคนอื่น เดินไปเองให้เร็วที่สุด”
สี่เอ๋อร์เป็นเด็กวัยสิบห้า ซื่อสัตย์ มือล่ำมือใหญ่ ทำงานได้คล่องแคล่ว หน้าตาเรียบง่าย ปกติแล้วทำแต่งานหนักในเรือน ไม่ค่อยออกไปทำธุระนอกจวน
สี่เอ๋อร์เมื่อได้ยินถ้อยคำของหลินซือซือ กว่าจะตอบสนองได้ คิดว่าอาจได้ยินผิดไป
งานแบบนี้ไม่ควรเป็นหน้าที่ของชิวอวิ๋นหรือชุนอวี่หรือ?
ชิวอวิ๋นซึ่งอยู่ข้าง ๆ ก้าวเข้ามาพูดว่า
“คุณหนู สี่เอ๋อร์ไม่เคยไปหอจินเป่า ให้บ่าวไปเองก็ได้เจ้าค่ะ”
หลินซือซือเย้ยหยันในใจ ให้เจ้าไปหรือ?
เกรงว่าเพียงแวบแรกเจ้าก็ไปแจ้งอวี๋ซื่อแล้ว
วันนี้แม่นมจางออกจากจวน เป็นไปได้ว่าก็เป็นแผนของอวี๋ซื่อ
แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาจัดการกับชิวอวิ๋น
“สี่เอ๋อร์เท้าใหญ่ เดินเร็ว พอดีเจ้าได้เตือนข้าแล้ว สี่เอ๋อร์ เจ้าถือบัตรนี้ไปด้วย”
หลินซือซือยื่นบัตรทองแดงให้สี่เอ๋อร์ มีบัตรนี้แล้ว พนักงานที่หอจินเป่าจะยินดีให้ความร่วมมือ
มิฉะนั้น สี่เอ๋อร์ซึ่งเป็นเพียงสาวใช้ทำงานหนัก หากไปถึงสถานที่หรูหรานั้น ก็คงเข้าประตูไม่ได้ด้วย
สี่เอ๋อร์รับบัตรด้วยใจตื่นเต้น เก็บใส่ไว้ในอก รับมอบภารกิจใหญ่โต ยังไม่ลืมเอ่ยรับปากต่อหลินซือซือ ว่าจะทำให้สำเร็จแน่นอน
ชิวอวิ๋นยังอยากเอ่ยอะไรต่อ หลินซือซือจึงกล่าวว่า
“ชิวอวิ๋น เจ้าตามข้ามาด้วย”
ชิวอวิ๋นไม่กล้าฝ่าฝืน
เมื่อเข้ามาในห้อง หลินซือซือให้นางเลือกชุดใหม่ให้ตน และสั่งให้ชิวอวิ๋นไปจุดไฟต้มน้ำในครัว เพราะนางจะอาบน้ำ
“คุณหนู ข้าจะให้ครัวใหญ่ส่งน้ำมาให้เจ้าค่ะ” ชิวอวิ๋นกล่าว
“วันนี้มีงานเลี้ยงในจวน ครัวใหญ่คงยุ่งจนไม่มีเวลาส่งน้ำหรอก”
หลินซือซือไม่พอใจ ตำหนิชิวอวิ๋นอย่างเข้มงวด
ปกติแล้วนางเป็นคนใจดี พูดจาง่าย ๆ ชุนอวี่กับชิวอวิ๋นก็เป็นสาวใช้ที่ตามนางมาจากไห่หนิง คุ้นเคยกันดุจเพื่อนสนิท จึงแทบไม่เคยถูกตำหนิ
ชิวอวิ๋นเห็นสีหน้าหลินซือซือไม่ดี จึงไม่กล้าเถียงต่อ ได้แต่ไปจุดไฟต้มน้ำที่ครัว
สักพัก ชิวอวิ๋นแอบเดินออกมา แต่กลับเห็นหลินซือซือนั่งอยู่ในสวน
ชิวอวิ๋นตกใจ เพราะคิดว่าตอนนี้หลินซือซือคงอยู่ในห้องนอน นางจะได้ใช้โอกาสส่งข่าวให้อวี๋ซื่อเสียหน่อย
“อย่างไร ต้มน้ำเสร็จเร็วเช่นนี้หรือ?” หลินซือซือเอ่ยถามอย่างจงใจ
“ไม่…ไม่…บ่าวจะไปครัวใหญ่เอาฟืนดี ๆ มาให้ไฟแรงขึ้นน่ะเจ้าค่ะ…” ชิวอวิ๋นตอบอย่างตะกุกตะกัก
“ชิวอวิ๋น หากเจ้าจากไป ในนี้ก็จะเหลือข้าเพียงคนเดียว เจ้าจะไม่กลัวข้าเกิดอันตรายอีกหรือ? ฟืนสำคัญ หรือข้าสำคัญ?”
หลินซือซือถามตรง ๆ
ชิวอวิ๋นไม่มีคำแก้ตัว นางลืมไปเองว่า หลินซือซือเพิ่งเผชิญเหตุการณ์ร้ายเพียงลำพัง ตอนนี้คงหวาดกลัวไม่น้อย
ชิวอวิ๋นรีบเอ่ยว่า
“คุณหนู บ่าวสำนึกผิดแล้ว วันนี้บ่าวจะไม่ห่างจากคุณหนูแม้ก้าวเดียวเจ้าค่ะ”
ชิวอวิ๋นจึงหมดโอกาสที่จะแอบออกไป ต้องชะงักความคิดไว้ชั่วคราว หวังว่าเมื่อสี่เอ๋อร์ออกจากจวน จะมีใครสังเกตเห็น
แม่นมจางคือผู้ช่วยที่สำคัญที่สุดของหลินซือซือ จึงเป็นเหตุผลที่อวี๋ซื่อจะล่อลวงนางออกไป หากนางกลับมาแล้ว แผนการของอวี๋ซื่อคงพังทลาย
อวี๋ซื่อทำไมไม่ส่งคนมาเฝ้าสถานการณ์บ้างเล่า?
ชิวอวิ๋นเหลือบมองประตูใหญ่ พบว่าประตูถูกลั่นแล้ว
หลินซือซือทำเป็นไม่ได้ยินท่าทีของชิวอวิ๋น เพียงสั่งให้รีบกลับไปต้มน้ำต่อ
ชิวอวิ๋นกลับไปด้วยใจครุ่นคิด แล้วต้มน้ำต่อจนเสร็จ หลินซือซือก็สั่งให้คอยดูแลอาบน้ำ ไม่ให้นางห่างไปไหนแม้แต่ก้าวเดียว
“คุณหนู บ่าวเหมือนได้ยินเสียงเคาะประตูด้านนอก บ่าวขอไปดูหน่อย”
ระหว่างที่คอยรับใช้หลินซือซืออาบน้ำ ทั้งสองก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังมาจากหน้าเรือน
“รอให้ข้าอาบน้ำเสร็จก่อนค่อยว่ากัน”
หลินซือซือไม่มีสีหน้าใด ๆ พูดอย่างแข็งทื่อ ทำให้ชิวอวิ๋นใจเต้นแรง
หลังจากคอยดูแลจนหลินซือซือสวมชุดเรียบร้อย เกล้าผมและแต่งหน้าเสร็จ ชิวอวิ๋นเปิดประตูออกไป ก็พบกับลู่ซวี่ที่มีหน้าตาเร่งร้อน
“ทำไมเปิดประตูช้าแบบนี้ล่ะ หูเจ้าตันหรือไง?” ลู่ซวี่เห็นชิวอวิ๋นเปิดประตู ก็ด่าทันที
เขาให้คนใช้ไปเอาบันไดมาแล้วด้วย
ชิวอวิ๋นทำอะไรไม่ถูก เพียงต้องขอโทษ
“ขอโทษด้วยเจ้าค่ะ คุณชายรอง เมื่อกี้บ่าวคอยรับใช้คุณหนูแต่งหน้าอยู่”
ลู่ซวี่ไม่อยากเอาเรื่องสาวใช้โง่ ๆ คนนี้มากนัก อีกทั้งชิวอวิ๋นก็เป็นคนสนิทของหลินซือซือ เขาจึงไม่อาจทำอะไรมาก
เขาก้าวเดินเข้าไปด้วยก้าวใหญ่
“ซือซือ เจ้าสบายดีไหม ข้าได้ยินเหริ่นตงบอกว่าเจ้าไม่สบาย”
ลู่ซวี่เห็นดวงตาของหลินซือซือแดงบวม แต่เพราะเพิ่งแต่งหน้าแล้ว จึงดูไม่เหมือนป่วย
หลินซือซือได้ยินเช่นนั้น จึงรู้ว่าลู่ซวี่ยังไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้
