เงาในความมืด 1/2
ลู่หยวนฮวาค่อยๆ เริ่มรู้สึกถึงความสงสัยที่กัดกร่อนในใจหลังจากที่ได้ยินชื่อของ “ลู่หยาง” หลุดออกจากปากของพลทหารคนหนึ่ง ทันทีที่ทหารผู้นั้นเอ่ยชื่อนี้ เขาก็รีบปิดปากเงียบเหมือนรู้สึกได้ถึงความผิดพลาด ลู่หยวนฮวาเงี่ยหูฟัง แสร้งทำเป็นไม่ได้สนใจ แต่ทว่าในใจของนางกลับเต็มไปด้วยคำถามมากมาย
"ลู่หยาง...พี่ใหญ่" นางพึมพำเบาๆ ชื่อนี้ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากพี่ชายเพียงคนเดียวที่นางตามหามาตลอด และบัดนี้ นางอาจจะพบร่องรอยของเขาอยู่ที่ค่ายทหารนี้ก็เป็นได้ หญิงสาวตัดสินใจแน่วแน่ทันทีว่าจะต้องสืบหาเรื่องราวนี้ด้วยตัวเอง
บรรยากาศในป่ายามวิกาลเงียบงัน มีเพียงเสียงลมพัดใบไม้ไหวที่แว่ว ความมืดมิดกลืนกินทุกสิ่งรอบตัว ลู่หยวนฮวาก้าวเดินเบาๆ ระวังไม่ให้เกิดเสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นดินที่เต็มไปด้วยกิ่งไม้และใบไม้แห้ง นางรู้ดีว่าการถูกจับได้ในตอนนี้อาจเป็นจุดจบของแผนการที่วางไว้
ความมืดที่แผ่ปกคลุมทำให้ทุกก้าวเดินเป็นไปอย่างเชื่องช้าและรัดกุม เสียงหายใจของนางค่อยๆ ถี่ขึ้นพร้อมกับความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นทุกขณะ หัวใจของนางเต้นแรงราวกับจะหลุดออกจากอก นางจับจ้องไปข้างหน้า พยายามฟังเสียงเล็กๆ ที่อาจบ่งบอกถึงการมาถึงของทหารยาม
ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าของทหารลาดตระเวนดังแผ่วๆ มาจากด้านหลัง ความหวาดกลัวค่อยๆ แทรกซึมเข้ามาในใจ ลู่หยวนฮวาพยายามสงบสติ หายใจเข้าลึกๆ และก้าวถอยหลังช้าๆ แต่เพียงแค่เสี้ยววินาที กิ่งไม้แห้งที่นางเหยียบลงไปกลับหักลงเสียงดัง นางสะดุ้งสุดตัว เสียงหักนั้นดังพอที่จะทำให้ทหารยามหันมองหาที่มาของเสียง
ลู่หยวนฮวารีบพุ่งหลบเข้าไปซ่อนหลังพุ่มไม้ที่อยู่ใกล้ ๆ นางพยายามเก็บลมหายใจเงียบกริบ ร่างของนางกดตัวต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆบดบังแสงจันทร์ ทำให้ทุกสิ่งดูยิ่งมืดลง
เสียงฝีเท้าทหารค่อย ๆ ใกล้เข้ามา นางได้ยินเสียงเขาพึมพำอะไรบางอย่าง ความหวาดกลัวทำให้นางไม่สามารถแม้แต่จะขยับตัว หยาดเหงื่อเย็นเยียบไหลลงมาตามไรผม นางภาวนาในใจว่าเขาจะไม่เห็นนางที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดนี้
ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าก็หยุดลง เพียงไม่กี่ก้าวจากจุดที่นางซ่อนอยู่ ทหารคนนั้นหยุดเดินเหมือนกับกำลังฟังอะไรบางอย่าง นางกลั้นหายใจ รอให้เขาเดินไป แต่เสียงฝีเท้ากลับไม่ขยับไปไหน ความเงียบงันทำให้ทุกวินาทีที่ผ่านไปดูเหมือนนานเป็นชั่วนิรันดร์
"มีใครอยู่ที่นี่ไหม!?" เสียงของทหารคนนั้นดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ ลู่หยวนฮวาก้มตัวลงต่ำกว่าเดิม ซ่อนใบหน้าของนางไว้ในเงามืด หวังว่าทหารจะไม่เข้ามาใกล้บริเวณที่นางหลบซ่อนไปมากกว่านี้
เสียงฝีเท้าของทหารดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับเคลื่อนไปทางอื่น นางรอจนแน่ใจว่าเขาเดินห่างออกไปแล้ว ก่อนจะลุกขึ้น ดวงตาของนางสอดส่องไปรอบๆ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ แล้วนางก็รีบก้าวออกจากพุ่มไม้และเดินต่อไปข้างหน้าด้วยความระวัง
แต่สิ่งที่นางไม่รู้คือ ตลอดเวลาที่นางแอบซ่อนอยู่ มีดวงตาคมสีน้ำตาลสวยคอยจับจ้องอยู่จากเงามืดเช่นกัน แม้รอยยิ้มบนใบหน้านั้นจะดูเหมือนเข้าใจทุกสิ่งที่เกิดขึ้น แต่รอยยิ้มนั้นกลับไปไม่ถึงดวงตา "ลู่หยวนฮวา เจ้ากำลังคิดทำการใดกันแน่?"
