23. เซ็งเป็ด
“พี่ป่าน…โทรศัพท์”
ปัญญา ตะโกนเรียกเปมิกาที่อยู่ในห้องนอนให้ออกมารับโทรศัพท์ข้างนอก
“จากไหน…ถ้าอีตานพไม่รับนะ” เปมิการีบบอก
“ไม่ใช่พี่นพ...แต่เขาขอสายคุณเปมิกา..ถ้าพูดชื่อจริงแบบนี้อาจเป็นบริษัทที่พี่สมัครงานก็ได้”
“อ๊าย..จริงเหรอ....”
เปมิกา รู้สึกตื่นเต้น หล่อนนึกไปถึงบริษัทต่าง ๆ ที่หล่อนไปหว่านสมัครงานเอาไว้ คงจะมีที่ไหนสักแห่งโทรศัพท์มานัดหมายให้หล่อนไปสัมภาษณ์
“สวัสดีค่ะ..ดิฉันเปมิกาพูดค่ะ..”
เปมิกา กรอกเสียงหวานด้วยความหวัง
“โอ้..คุณเปมิกาจริง ๆ ด้วย...”
เสียงผู้ชายที่โทรมานั้นดูเหมือนจะตื่นเต้นกว่า
“ไม่ทราบจากไหนคะ..”
“จาก..คนที่อยากมีอะไรกับคุณเปมิกาน่ะสิคร้าบ..”
“เอ๊ะ...นี่คุณเป็นใคร..แล้วรู้จักชื่อฉันได้ไง..” เปมิกา เริ่มตกใจ
“รู้ได้จากข้อมูลที่มีสิคร้าบ...ผมเห็นว่าเป็นชื่อที่เพราะดี คุณคงจะหุ่นดีและสวยเซ็กซี่เป็นบ้าเลย ใช่ไหมครับ..โอ้ว..คุณเปมิกา คร้าบ..ผมกำลังจะ....”
เสียงคนโทรมาเริ่มกระเส่าคล้ายกระซิบ แต่เปมิกา กำลังตกใจจนทำอะไรไม่ถูก พอจะรู้สึกตัวหล่อนก็หลงฟังเสียงของมันสำเร็จความใคร่ทางโทรศัพท์ไปเรียบร้อยแล้ว
“ว้าย! ไอ้บ้า..ไอ้ทุเรศ ..ไอ้โรคจิต…”
พอหายตกใจ เปมิกา ก็รัวคำด่าเป็นชุด แล้วก็กระแทกโทรศัพท์ดังโครม
“เกิดอะไรขึ้นครับพี่ป่าน…”
ปัญญา ชะโงกหน้าออกมาถามด้วยความแปลกใจ
“ก็ไอ้โรคจิตน่ะสิ…หนอยไอ้เรารึดีใจแทบตาย นึกว่าจะได้งานทำซะที ดันเป็นพวกโรคจิตโทรมาหา ซวยรูหูจริง ๆ
ชีวิตทุกวันนี้ก็แย่อยู่แล้วยังจะมาเจอคนแย่ ๆ โทรมาซ้ำเติมชีวิตอีกหรือเนี่ย..“
ปัญญา หัวเราะชอบใจ แต่เปมิกา ยังหงุดหงิดไม่หาย ก็มีเสียงโทรศัพท์ที่ห้องดังขึ้นอีก
“ว้าย..ต้องเป็นไอ้โรคจิตเมื่อกี้แน่เลย..” เปมิกา สันนิษฐาน
“งั้นผมรับสายเองพี่ป่าน...”
ปัญญา อาสาด้วยสีหน้าสะใจกะจะด่าคนโทรมาเต็มที่
“นี่ไอ้ลูกหมาปัญญาควาย ถ้าคิดจะโทรมาระบายความใคร่กูจะสงเคราะห์ให้เอาไหมวะ..พอดีกูกำลังจะหาผัวให้หมาตัวเมียแถวนี้พอดี มึงสนใจไหมวะ..ไอ้โรคจิต”
ปัญญา พูดเสียงดัง
“ปอ..ทำไมพูดกับพี่อย่างนี้ล่ะ..ถึงพี่สาวของปอจะมองว่าพี่เป็นโรคจิต แต่ก็เป็นโรคจิตชนิดนิยมมีเมียเป็นคนไม่ใช่หมา นะปอ..”
เสียงคนโทรเข้ามาครวญเสียงละห้อย
“อ้าว..พี่นพ เหรอครับ...”
ปัญญา พูดเสียงกลั้วหัวเราะ เขาหันไปมองหน้าพี่สาวก็เห็นหล่อนโบกไม้โบกมือทำหน้าเหยเกไม่ขอรับสายจากชายชื่อมานพ
“พี่ป่านไม่อยากรับ เอ๊ย..พี่ป่านไม่อยู่หรอกครับพี่นพ..เอาไว้วันหลังค่อยโทรมานะพี่..”
ปัญญา พูดจบก็วางสายไปทันที
“ดึงปลั๊กโทรศัพท์ออกเลยปอ..พี่ไม่อยากประสาทเสียอีกแล้ว วัน ๆ คงจะมีแต่พวกโรคจิต พวกสติไม่ดี โทรมาหา แต่ไอ้ที่อยากให้โทรมา อย่างบริษัทที่สมัครงานไว้ไม่มีสักที่..ทำไมเกิดมาโชคร้ายอย่างนี้ก็ไม่รู้...สงสัยชาติที่แล้วจะทำบาปทำเวรไว้เยอะ..เซ็งจริง ๆ”
เปมิกา พูดจบก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นทันที
“เห็นไหมพี่ป่าน...พอถอดสายโทรศัพท์บ้านออก มือถือพี่ก็ดังขึ้นแล้วสงสัยพี่นพจะรู้เบอร์ใหม่พี่แล้วล่ะ” ปัญญาเดา
“ถ้ารู้ก็คงเพราะนายนั่นแหละเผลอบอกไป...”
เปมิกา ต่อว่าน้องชาย ก่อนจะไปดูเบอร์ที่โทรเข้ามา
“อุ๊ย...ริน...” เปมิกา ตื่นเต้นเมื่อรู้ว่าเป็นบุรินทร์โทรมา
“ริน...รู้ไหมคะว่าป่านกำลังคิดถึงพอดีเลย...” เปมิกา กดรับเสียงหวานจ๋อย
“แหม..เปลี่ยนอารมณ์เลยพี่เรา...เฮ้อ..แต่งตัวไปทำงานดีกว่า.” ปัญญา หันมาพูดลอย ๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องของเขาไป
“งานของรินไม่ยุ่งแล้วใช่ไหมคะ..ถึงได้มีเวลาโทรหาป่านได้..”
เปมิกา ลืมความหงุดหงิดเมื่อครู่ได้ทันที
“วันนี้เป็นวันพิเศษ ผมจะมาชวนป่านไปงานเลี้ยงที่บริษัทของผมค่ำนี้ครับ…”
“งานเลี้ยงเหรอคะ..”
เปมิกา รู้สึกตื่นเต้นที่เขาชวนหล่อน
“ป่านเตรียมหาชุดสวย ๆ ไว้เลยนะ แล้วก็ไม่ต้องแต่งหน้าเข้มเหมือนยัยคนนั้นล่ะ..ที่ป่านเคยแนะนำให้ผมรู้จักที่ร้านยกยอน่ะ..”
“อ๋อ..คุณแมว”
“นั่นแหละ..แต่งยังกะไปเล่นงิ้วแบบนั้นไม่เอานะ ผมไม่ชอบ..แล้วประมาณสักหกโมงเย็นผมจะมารับที่คอนโดนะ”
“ได้ค่ะ..”
วางสายจากบุรินทร์ เปมิกาก็แทบจะถลาไปที่ตู้เสื้อผ้าด้วยความดีใจ หล่อนค้นหาชุดที่จะใส่ด้วยความกระตือรือร้น หล่อนเลือกชุดราตรีสั้นแขนล้ำสีเขียวอ่อน ความยาวของ
กระโปรงเสมอเข่า เป็นชุดที่เปมิกาเคยใส่ไปงานแต่งงานของอดีตเพื่อนร่วมงานเพียงครั้งเดียว และเป็นชุดที่บุรินทร์เคยชมว่าใส่แล้วสวย
.............................
งานเลี้ยงจัดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เป็นงานที่ค่อนข้างจัดแบบเป็นกันเอง เพราะเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถนำคนในครอบครัวอย่างเช่น สามี ภรรยา หรือลูก ๆ มาร่วมงานได้ เป็นการเลี้ยงฉลองครบรอบสิบปีของบริษัท มีพิธีมอบรางวัลให้กับพนักงานในแผนกต่าง ๆ ด้วย
เปมิกา เข้ามาภายในงานแล้ว จึงได้ทราบว่าบุรินทร์ก็เป็นพนักงานคนหนึ่งที่กำลังจะได้รับตำแหน่งใหม่ ได้ขึ้นเป็นผู้ช่วยแผนก หล่อนรู้สึกตื่นเต้นและดีใจไปกับเขาด้วย
“ไม่เห็นรินบอกป่านมาก่อนเลยว่ากำลังจะได้ตำแหน่งเป็นถึงผู้ช่วยแผนก”
“ผมอยากให้ป่านมารู้ที่งานครับ..จะได้ตื่นเต้นไงล่ะ..”
บุรินทร์ บอกอย่างอารมณ์ดี
เปมิกา ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับหัวหน้าแผนกของบุรินทร์รวมทั้งเพื่อนร่วมงานในแผนกเกือบทุกคน ซึ่งตลอดเวลา บุรินทร์ จะจับมือโอบไหล่เปมิกา เสมือนให้ทุกคนรู้ว่าหล่อนกับเขาเป็นคู่รักกัน
