บท
ตั้งค่า

3

หลังจากที่นับดาวคุยกับเมย์ต่อได้อีกไม่กี่คำ แฟนของเมย์ก็เข้ามาขัดจังหวะเรียกเมย์ไปทานข้าว นับดาวจึงต้องวางสายไปอย่างเสียไม่ได้ เธอได้แต่จ้องชายคนแปลกหน้าอย่างไม่ละสายตา พยายามคิดถึงใบหน้าของเขาสมัยเด็กๆจนกระทั่งโตถึงอายุประมาณ๑๕ - ๑๖ ดูๆไปเค้าหน้าก็ยังคุ้นเคย นับดาวมองตฤณด้วยสายตาที่ต้องการค้นหาบางสิ่งบางอย่าง แต่สำหรับตฤณสายตาของเธอทำให้เขาหวั่นใจไม่น้อยและที่สำคัญเขาไม่อาจคาดเดาความรู้สึกของเธอได้เลยทำให้เขารู้สึกว่าบรรยากาศแบบนี้ช่างน่าอึดอัด เขาจึงฝืนยิ้มแล้วก็เอ่ยขึ้น

“ผมชื่อ ตฤณ ยินดีที่ได้รู้จักครับอีกครั้ง คุณจำผมไม่ได้จริงหรือมุขกันแน่” เป็นครั้งแรกที่เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นทางการและสีหน้าเรียบเฉย

นับดาวยังคงไม่พูดอะไร นอกจากมองจ้องหน้าเขา และทบทวนว่าจะอยู่กับผู้ชายคนนี้ในห้องของเธอแบบนี้ หรือ จะตัดสินใจไปพักอยู่บ้านสวนที่นนท์แต่ก็กลัวว่าตัวเธอเองอาจจะติดโควิดมาจากที่วัดแล้วไปติดคุณยายคงจะแย่ อยู่ที่ไปก่อนแค่เจ็ด แปด วันคงไม่เป็นไร ขณะที่นับดาวกำลังใช้ความคิดอยู่นั้น ตฤณก็พูดต่ออีกว่า

“คุณจำผมไม่ได้หราครับ” เขายิ้มอย่างมีมิตรไมตรีที่สุดเท่าที่เขาจะแสดงออกได้

“อะไร” เธอตอบมาห้วนๆ

“นั่นแน่! พูดแล้ว ที่จริงนอกจากตอนสมัยเด็กๆ เรายังเคยได้เจอกันตอนสมัยมัธยมอีกนะเรียกว่าเราสองคนสนิทกันเลยครับ เจอกันบ่อยๆที่ร้านข้าวข้างโรงเรียนชายล้วน พอจะนึกออกมั้ยครับ” ตฤณเริ่มแสดงทีท่ากวนๆ อีกครั้ง

“นายคงจะเข้าใจอะไรผิดไปนะ ร้านข้าวป้า ก็อยู่ข้างโรงเรียนชั้น”

“วันนั้นคุณยังพูดกับผมอยู่เลย”

ไม่ทันที่ตฤณจะพูดจบ นับดาวรีบพูดตัดบทขึ้นว่า

“โอ๊ย! เรื่องมันตั้งสิบยี่สิบกว่าปีแล้ว ใครจะไปจำได้ อีกอย่าง ชั้นก็ไม่ได้เจอนายทุกวันด้วย” เธอพยายามนึกทบทวน

“โอเค เดี๋ยวต่อไปเราก็จะได้เจอกันทุกวันแล้วล่ะครับคุณจะชินไปเองการที่ผมจะอยู่ในห้องนี้ ปัญหามันอยู่ที่ตรงไหน ปัญหาน่ะเกิดจากความอยากของคุณที่ไม่อยากให้ผมอยู่ เพราะข้างในของคุณโวยวาย’ ” ตฤณพูดจบก็ยิ้มให้นับดาว

“ยิ้มอะไร ไม่ได้เป็นอย่างที่นายพูดเลย ”

“ยิ้มก็ผิดด้วย ผมก็ต้องดีใจสิคร๊าบ งั้นเราข้ามเรื่องตอนเด็กๆ ไปก่อน เรื่องนั้นมันไม่สำคัญเท่าไหร่ ผมว่าเราสองคนควรตกลงเรื่องกฎในการอยู่ร่วมห้องกันจะดีกว่ามั้ยครับ”

นับดาวมองหน้าชายแปลกหน้าคนนี้ ไม่ว่าจะดูยังไงเธอก็ยังรู้สึกไม่สนิทใจ มันเป็นความรู้สึกแปลกแต่บอกไม่ถูกว่าแปลกอย่างไร เธอกลับรู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูกอยู่ดี จากนั้นนับดาวก็พูดขึ้นว่า

“นี่มันห้องชั้นนะ ต้องเป็นชั้นรึป่าวที่เป็นคนตั้งกฎ นายนี่เข้าใจอะไรผิดมั้ย”

“คร๊าบ เชิญท่านเจ้าของห้องเลยคร๊าบ” ท่าทีของเขากลับมาทะเล้นอีกครั้ง เมื่อได้ยินประโยคเมื่อครู่

นับดาวมองค้อนที่เขาพูดจายียวนกวนประสาทเธออีกครั้ง

ภายในห้องรับแขกเพดานสูงประดับด้วยโคมไฟขนาดใหญ่ห้อยเป็นช่อระย้าสวยเก๋ ดูแล้วช่างเข้ากับบุคลิกของเจ้าของห้องยิ่งนัก แต่นี่เป็นโคมไฟที่พึ่งจะเคยถูกเปิดใช้งาน นับตั้งแต่ที่ตฤณ ได้มาอยู่ที่นี่

“นายจะเปิดไฟทำไมสว่างขนาดนี้ ต่อไปไม่ต้องเปิดนะ เปลือง”

“อ้าว ! แล้วกัน งั้นคุณจะติดโคมไฟไปทำมัยล่ะ”

“ใช่เรื่องของนายที่ต้องรู้มั้ย” เธอเริ่มรู้สึกรำคาญเขาที่มัวแต่ถามซอกแซกอยู่ได้

“อ้าว! นี่คุณ ผมพูดด้วยดีๆ ไหงหาเรื่องแบบนี้ล่ะคร๊าบคุณเจ้าของห้อง” ตฤณเริ่มแสดงทีท่ากวนประสาท

“อะไร!” เธอเริ่มขึ้นเสียงด้วยความรำคาญอีกครั้ง

ยังไม่ทันที่นับดาวจะพูดจบ ก็ต้องสะดุ้งขึ้นเมื่อได้ยินเสียงกริ่งประตู เธอรีบเดินไปดูที่จอขนาดเล็กติดอยู่เหนือตู้รองเท้าข้างประตู โดยมีตฤณรีบเดินตามเธอมาติดๆ ในจอภาพเป็นหญิงสาว อายุราวๆ 20 กว่าปี ผมยาว บนหัวเต็มไปด้วยโรลม้วนผม มือข้างหนึ่งอุ้มหมอน อีกข้างเป็นตุ๊กตาแมว เธออยู่ในชุดนอนลายการ์ตูน กำลังยืนยิ้มหน้าแป้นแล้นที่นอกประตู จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากน้องพาสต้า สาวหมวยข้างห้อง ซึ่งเธอรู้ดีว่าพาสต้าเป็นคนยังไง นับดาวจึงหันมาหาตฤณแล้วบอกเขาด้วยเสียงแผ่วเบาว่า

“นายเข้าไปอยู่ในห้องนอนชั้นก่อน และห้ามออกมาเด็ดขาด เข้าใจ๊” เธอสั่งชายหนุ่มเร็วปรื๋อ

“อะไรนะ ผมไม่ได้ยิน” ตฤณส่งเสียงดังขึ้นเหมือนจะรู้และพยายามแกล้งนับดาว นับดาวมองค้อนเขาก่อนผลักเขาให้ตรงไปที่ห้องนอน ตฤณพยายามจะขัดขืนไม่ยอมไปดีๆ นับดาวเลยผลักด้วยท่าทางไม่พอใจ

“นี่ ! นายจะเอายังงัย จะประกาศให้คนทั้งคอนโดนี้รู้ว่าชั้นซ่อนผู้ชายไว้ในห้องใช่มั้ย”

“อืม ก็เป็นความคิดที่ดีนะครับ” ตฤณตอบ ทำท่าคิดสีหน้าเรียบเฉย แต่สำหรับนับดาวแล้ว มันเป็นสีหน้าที่เธออยากจะออกแรงใช้เท้าผลักแทนมือเสียเหลือเกิน นับดาวทั้งโมโหทั้งเป็นกังวลกลัวว่า น้องพาสต้าจะรู้ว่าตฤณพักอยู่ในห้องของเธอ นับดาวทำหน้าตกใจก่อนที่จะพูดว่า

“ตอนที่ชั้นไม่อยู่ นายเคยเจอน้องเขาบ้างมั้ย”

“คุณ เห็นผมเป็นคนยังงัย ผมไม่จีบใครมั่วซั่วนะครับ”

“ยังไม่ได้พูดว่าจีบเลยนายร้อนตัวไปก่อนทำไม หรือว่า...”

นับดาวยังไม่ทันพูดจบ เสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้นรัวๆ เธอหันไปเห็นหญิงสาวนั่นเองที่เป็นที่มาของกริ่งที่กำลังดังรัวๆ เหมือนกับกดเกมในโทรศัพท์ยังไงยังงั้น นับดาวผลักตฤณเข้าไปในห้องสุดแรง ก่อนดึงประตูปิดไว้ แล้วรีบตรงไปยังประตู ก่อนแง้มประตู โดยโผล่แค่ช่วงศีรษะออกไปส่งยิ้มให้กับน้องพาสต้า แล้วเธอก็รู้สึกได้ว่า ชายหนุ่มเจ้าปัญหาก็ไม่ยอมอยู่ในห้องนอนเธอเฉยๆ กลับเดินตามมาอยู่ที่ด้านหลังประตูเช่นกัน นับดาวยิ้มแบบให้หญิงสาวเพื่อนบ้านเจื่อนๆ

“พี่ดาวเป็นไรมะค่ะ ไม่สบายป่าว แล้วนี่ทำไมต้องทำเหมือนแอบๆ อะไรบางอย่างด้วยคะ”

“ไม่เป็นไรนิ มีไรหรา เอ่อ! พิซ ไม่อยู่หรา” นับดาวพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย

“ทำไมหราคะ พอพี่พิซไม่ออยู่นี่ไม่ให้พาสต้าเข้าห้องเลยหราคะ” หญิงสาวสีหน้างอนอย่างเห็นได้ชัด

“ไม่ใช่อย่างนั้น น้องพาสก็พี่เพิ่งกลับจากวัด” นับดาวพยายามเก็บอาการ และแอบลุ้นในใจไม่อยากให้หญิงสาวตัวป่วนคนนี้ได้เจอกับนายตฤณที่พยายามทำท่าทางกวนเธออยู่ที่หลังประตู

“พี่ดาวมีซีรี่ย์เรื่องใหม่นา พระเอกนี่สเปกพี่ดาวเลยนะ” พาสต้าพูดยังไม่ทันจบ ก็ทำท่าจะผลักประตูเข้ามาในห้องนับดาว จึงรีบพูดขึ้นว่า

“พาสต้าจ๊ะ โซเซี่ยล ดิสแท๊น นะจ๊ะ ทำแบบเดิมไม่ได้นะน้องนะ” นับดาวรีบหาเหตุมาแก้ตัว

“โห! ไรอ่ะ พี่ดาว พาสต้าวัดไข้มาแล้ว ไม่มีไข้ แข็งแรงดี ไม่ได้เป็นไร จริ๊ง” หญิงสาวพยายามจะผลักประตูพยายามเข้าไปในห้องให้ได้

“นั่นหละ ไม่แสดงอาการก็ใช่จะไว้ใจได้ อีกอย่างพี่เพิ่งกลับมา พี่อาจจะเป็นก็ได้ ตอนนี้พี่รู้สึกปวดเนื้อเมื่อยตัวยังงัยก็ไม่รู้” นับดาวรีบแสดงอาการเหมือนคนเริ่มไม่สบายหวังว่าจะให้พาสต้ากลัว และเลิกตอแยกับเธอไปสักสองสามวัน แล้วมันก็ได้ผล

“งั้นพี่ดาว ก็พักผ่อนไปก่อนละกันค่ะ พาสต้าไปนอนก่อน” พาสต้ามีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด ก่อนหอบหมอนและตุ๊กตากลับห้องไป ทันใดนั้นเองนับดาวก็คิดขึ้นได้ว่าหากน้องพาสต้าเข้าใจว่าเธอมีอาการเสี่ยงเป็นโควิด-19 พรุ่งนี้เธอคงเป็นเป้าสายตาของผู้คนในคอนโด เพราะคนอื่นคงสงสัยว่าเธอมีอาการเสี่ยงเป็นโควิด-19 อย่างแน่นอน

นับดาวถอนหายใจ รีบปิดประตูห้อง แล้วเดินมานั่งที่โซฟา โดยมีนายตัวแสบ ตฤณตามมานั่งข้างๆ ซึ่งเธอก็ใช้หนังสือดันไปที่แขนของเขา เพื่อส่งสัญญาณให้เขาขยับออกไปนั่งห่างๆ จากตัวเธอ

“นี่ คุณ จะรังเกียจอะไรผมนักหนา” ตฤณถาม

“ก็ชั้นไม่ไว้ใจนาย ช่วยอยู่ห่างจากชั้น ในระยะหนึ่งเมตรด้วย”

“อะไรกัน ห้องคุณก็ไม่ได้ใหญ่นะคร๊าบคุณผู้หญิง”

“เอ่อ! ที่สำคัญช่วยแต่งกายให้เรียบร้อยด้วยห้ามใส่กางเกงตัวเดียว ช่วยใส่เสื้อด้วย” เธอมองเขาด้วยหางตาแวบหนึ่ง พร้อมกับแสดงทีท่าไม่อยากเข้าใกล้

“ทำไมผมต้องแต่งตัวให้เรียบร้อยด้วย ในเมื่อห้องคุณก็ไม่ใช่สถานที่ราชการ” ตฤณยังคงแสดงท่าทีกวนประสาทต่อไป

นับดาวถอนหายใจ เริ่มโมโหผู้ชายคนนี้ที่แสดงทีท่าต่อล้อต่อเถียงกับเธอไม่หยุดหย่อน

“ถ้าไม่พอใจ งั้นก็ช่วยเก็บข้าวของออกไปตอนนี้เลย เข้าใจมั้ย” เธอใช้ไม้ตายข่มขู่

“โอเค คร๊าบ คำก็ไล่ สองคำก็ไล่ ผู้หญิงอะไรใจร้าย ผมกลัวคุณจะแย่อยู่แล้ว” ตฤณพูดและทำท่าทางประชดประชัน แต่ก็ยอมทำตามคำของเธอ รีบลุกขึ้นไปหยิบเสื้อมาสวมแต่โดยดี

“ผู้ชายอะไรปากร้าย ชั้นไม่อยากจะพูดกับนายละ ชั้นจะไปอาบน้ำ” นับดาวกำลังจะลุกขึ้น ทันใดนั้น ตฤณก็พูดต่ออีกว่า

“นี่คุณ ผมก็ยังไม่ได้อาบน้ำเลย ห้องน้ำก็อยู่ในห้องนอนคุณนะ แล้วผมจะได้อาบน้ำตอนไหนล่ะ” ตฤณพยายามทำหน้าเศร้าอีกครั้ง

“ทำไม ชั้นพูดก่อน อีกอย่างชั้นเป็นเจ้าของห้อง ชั้นมีสิทธิที่เลือกให้ใครอาบก่อนอาบหลัง”

“ตามใจคุณ ถ้าคุณอาบก่อนก็ต้องออกมานั่งรอผมนอกห้องนอนคุณอยู่ดี อีกอย่างถ้าดึกๆ ผมเกิดปวดฉี่ขึ้นมาล่ะจะให้ผมทำยังงัยล่ะคร๊าบ”

นับดาวจ้องหน้าเขาด้วยสีหน้าที่เบื่อหน่ายและรู้สึกรำคาญ

“ไปเข้าห้องน้ำกับพี่ยามข้างล่างเลยนะคะคุณผู้อยู่อาศัย แล้วพรุ่งนี้ดิฉันจะให้คุณยืมเงินจะได้ออกจะห้องชั้นไปซักที รำคาญญญญญญ” นับดาวลากเสียง ก่อนลุกหนีหายเข้าไปในห้องนอนของเธอก่อนปิดประตูใส่โดยไม่สนใจเขาอีกเลย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel