ล็อคดาวน์ล็อกใจ

41.0K · ยังไม่จบ
Peanut Butter
28
บท
841
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“กรี๊ด………” หญิงสาวร้องเสียงหลง หลังจากที่เธอเปิดประตูคอนโด ซึ่งเธอแน่ใจว่านี่คือห้องของเธอ แต่ภาพที่เธอเห็นในห้องบัดนี้ กลับมีชายหนุ่ม เปลือยอก สวมกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียว ดูๆ น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ ชายหนุ่มผิวแทน รูปร่างสูง จมูกโด่งเป็นสัน ยืนนิ่งจ้องมาที่เธอ เขายืนอยู่โซฟาหน้าทีวี บนโต๊ะกลางระหว่างทีวีและโซฟาเต็มไปด้วยกองหนังสือวางระเกะระกะ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ข้าวของวางเกลื่อนกลาดอยู่เต็มพื้นที่ห้องรับแขก สายตาคู่นั้นเบิกกว้างพุ่งมองเธอด้วยความตกใจเช่นกัน อาจจะเพราะเธอเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับเสียงกรี๊ด นับดาวตกใจมากพอๆกับที่สงสัยว่ามีชายหนุ่มหน้าตาดี มายืนเท่ๆอยู่กลางห้อง

นิยายรักโรแมนติกนิยายผจญภัยนิยายรักนิยายปัจจุบันนิยายประวัติศาสตร์นิยายวิทยาศาสตร์

1

“กรี๊ด………”

หญิงสาวร้องเสียงหลง หลังจากที่เธอเปิดประตูคอนโด ซึ่งเธอแน่ใจว่านี่คือห้องของเธอ แต่ภาพที่เธอเห็นในห้องบัดนี้ กลับมีชายหนุ่ม เปลือยอก สวมกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียว ดูๆ น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ ชายหนุ่มผิวแทน รูปร่างสูง จมูกโด่งเป็นสัน ยืนนิ่งจ้องมาที่เธอ เขายืนอยู่โซฟาหน้าทีวี บนโต๊ะกลางระหว่างทีวีและโซฟาเต็มไปด้วยกองหนังสือวางระเกะระกะ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ข้าวของวางเกลื่อนกลาดอยู่เต็มพื้นที่ห้องรับแขก สายตาคู่นั้นเบิกกว้างพุ่งมองเธอด้วยความตกใจเช่นกัน อาจจะเพราะเธอเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับเสียงกรี๊ด นับดาวตกใจมากพอๆกับที่สงสัยว่ามีชายหนุ่มหน้าตาดี มายืนเท่ๆอยู่กลางห้อง

ไม่ทันที่เธอจะพูดหรือทำอะไรต่อไป ทันใดนั้นชายหนุ่มก็พุ่งตัวตรงเข้ามาหาเธอ พร้อมกับยกมือขึ้นมารีบปิดปากของนับดาวไว้เพราะเห็นว่าเธอกำลังตั้งท่าจะกรีดร้องอีกเป็นครั้งที่สอง หญิงสาวรูปร่างบอบบาง ผิวขาว แม้วันนี้ใบหน้าของเธอจะปราศจากเครื่องสำอาง แต่ความสวยของเธอ ก็ไม่ได้ลดลงเลย ปากได้รูป แก้มแดงเรื่อๆ เหมือนเป็นผื่นแพ้อะไรบางอย่าง เธอสวมเสื้อคอกลมแขนสามส่วน นุ่งผ้าถุงสีขาว รูปร่างบอบบางของเธอ ตรงข้ามกับเสียงร้องที่ดังแสบแก้วหู ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้หน้าตาของเธอจะถนัดนักเพราะเธอสวมแมสและแว่นตา แต่เขาก็ยังคงจำได้ เธอมาพร้อมกระเป๋าผ้าใบใหญ่

ทันทีที่ชายแปลกหน้ายื่นมือมาปิดปากเธอ เธอรีบทิ้งกระเป๋าลงข้างตัวพยายามหันหน้าหนี และเมื่อเธอพ้นจากมือของเขาได้ สัญชาตญาณการป้องกันตัวของเธอก็เริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว เธอเริ่มด้วยการถอดแมสออกแล้วตรงเข้าไปกัดเข้าที่มือของเขาสุดแรงเกิด เขาร้องด้วยความเจ็บปวด ไม่รอช้าเธอรีบถอดรองเท้าหมายจะเอาฟาดเขาต่อ แต่ชายหนุ่มที่หดมือหนี ทันเห็นจึงหลบทัน ทั้งสองชุลมุนวุ่นวาย นับดาวขว้างปาข้าวของที่อยู่ใกล้มือ ส่วนเขาก็หลบเป็นพลวัน

ชายหนุ่มแปลกหน้าเห็นท่าไม่ดี จึงพูดขึ้นขณะที่พยายามหลบสิ่งของทั้งเล็กใหญ่ที่พุ่งตรงมาหาเขา

“นี่.......นี่คุณ โอ๊ย! เจ็บน่าคุ๊ณ พอได้แล้วคร๊าบ”

เมื่อเห็นชายหนุ่มแปลกหน้าและหน้าแปลกคนนี้เริ่มมีอาการเจ็บจริงๆ นับดาวสงสารเขาจริงๆขึ้นมาพร้อมกับได้สติหยุดขว้างปาสิ่งของ และจิตใจเริ่มสงบลงทบทวนความจำว่า

‘ก่อนที่เธอจะกลับไปอยู่บ้านกับคุณยายและป้าวรรณ เพื่อนรักสุดซี้ของเธอที่ชื่อ เมย์โทรมาขอกุญแจห้อง ระหว่างที่เธอไม่อยู่ นับจากตอนนั้นถึงตอนนี้ก็เกือบเดือนแล้ว นับดาวถึงกับตกใจอยากจะร้องกรี๊ดให้คอนโดแตกอีกครั้ง เมื่อคิดว่าชายแปลกหน้าเพื่อนเมย์อยู่ที่ห้องของเธอเป็นแรมเดือน’

“นี่.....นายเป็นเพื่อนของยัยเมย์หรา ไหนบอกอยู่แค่สองสามวันไง อยู่มาเป็นเดือนแบบเนี้ย ต้องคิดค่าเช่าซะละมั้ง แล้วนี่ทำไมยังไม่ย้ายออกไปอีกล่ะ”

เธอมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า ยังรู้สึกไม่พอใจหมอนี่อยู่ หน้าตาก็ดี แต่แต่งตัวอย่างกับพวกบ้ากาม

“อ้าวๆ มาถึงก็จะไล่เลยหราคร๊าบ ไปวัดมาน่าจะมีความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์บ้างนะคร๊าบคู๊ณ”

“ก็นี่นายได้อยู่ห้องของฉันมาจะเป็นเดือน ชั้นไม่เรียกเก็บค่าน้ำ ค่าไฟ ด้วยก็ถือว่าได้บุญแล้วล่ะยะ”

“อนุโมทนา สาธุ” เขายกมือไหว้ท่วมหัว ตีหน้าทะเล้นแล้วพูดต่อว่า

“คุณน่าจะชื่อนับตัง มากกว่านับดาวนะ ผมว่า”

เขาพูดพร้อมกับหัวเราะ

แต่นับดาวทำหน้าย่นๆใส่เขา แล้วหยิบกระเป๋าตรงเข้ามานั่งที่โซฟา ก่อนจะรีบต่อสายหาเพื่อนสนิท แต่ปลายสายกลับไม่มีคนรับ เธอจึงหันมาคุยกับชายแปลกหน้าคนเดิม

“นี่.....นายไปใส่เสื้อผ้าซะก่อน ไป๊”

“ทำไม ครับ เห็นผมถึงกับทนไม่ไหวเลยหราครับ”

“ใช่ นายมันทุเรศทุเรื่อ น่าเกลียดที่สุด”

เขาไม่พูดอะไรนอกจากไปหยิบเสื้อที่พาดอยู่ที่พนักโซฟามาสวม แล้วเขาก็ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาอีกตัวหนึ่งที่ตั้งอยู่ตรงข้ามนับดาว แล้วพูดขึ้นว่า

“ผมขอโทษ ที่อยู่นานไป แต่ช่วงนี้ผมจะอยู่ที่นี่ ถ้าคุณไม่รังเกียจจะอยู่ด้วยกันผมก็ยินดีครับ”

“ทำไมไม่ไปอยู่บ้านตัวเอง ดูหน้าฉันสิ คิดว่าฉันเป็นคนเชื่อคนง่ายหรา ข้ออ้าง...ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น” เธอไม่ค่อยจะเชื่อสิ่งที่ชายหนุ่มพูดมา

“อ้าว! คุณนี่แปลกนะไม่ฟังคนอื่นเลย คุณคร้าบ ล็อคดาวน์เมืองแบบนี้ ผมจะเดินทางไปมาได้ยังงัยกันครับ”

“ก็ขับรถไปสิ”

“ผมไม่มีรถครับ”

นับดาวมองหน้าชายแปลกหน้าคนนี้อย่างพินิจพิจารณาอีกครั้ง เขาก็ดูหน้าตาหล่อเหลาใช้ได้ แต่เสื้อผ้าที่ใส่อยู่ไม่ใช่ของแบรนด์เนม เหมือนกับเพื่อนชายคนอื่นของเมย์เลย แถมยังไม่ขับรถอีกด้วย ดูท่าจะฐานะแย่เอามากๆ

“ทำไมซำเหมาแบบนี้ ไหนเมย์บอกว่านายเพิ่งกลับมาจากเมืองนอก ไม่ไปอยู่ State Quarantine ล่ะ น่ากลัวจริงๆหลุดมาได้ไง ช่วยนั่งให้ห่างๆ ฉันด้วย โน่นไปนั่งหน้าประตูเลย” นับดาวทำท่ารังเกียจขึ้นมาทันที

“นี่ คุณ ผมกักตัว ๑๔ วันแล้ว และตัวผมปลอดเชื้อแน่นอนครับ ว่าแต่คุณนั้นหละ ไปเข้าวัดปฏิบัติธรรม อกหักสิท่า” ชายหนุ่มพูดปนหัวเราะ

“ฉันจะไปวัด แล้วมันใช่ธุระของนายมั้ย ไม่ต้องพูดมาก รีบเก็บของออกจากห้องฉันเดี๋ยวนี้” เธอยื่นคำขาด

“แล้วคุณจะให้ผมไปอยู่ที่ไหนคร๊าบ” แวบนึงที่เห็นสีหน้าเขาสลดลง แต่ก็กลับหันมาทำหน้ากวนประสาทได้ใหม่

“ก็โรงแรมสิ”

“ผมไม่มีเงิน แล้ววันนี้รัฐบาลก็ประกาศเคอร์ฟิวด้วยครับ”

“อะไรกัน ฉันน่ะดูข่าวมานะว่าคอร์ฟิวน่ะมันห้าทุ่ม ตอนเนี้ยะเพิ่งสองทุ่ม ไปเร็ว รีบเก็บของซะ”

“คือผมไม่มีเงินคร๊าบ”

“อะไรกัน ได้ไปเรียนถึงเมืองนอก แล้วทำงานอยู่ที่นั่นตั้งหลายปี จะไม่มีตังได้งัย ไม่เชื่อหรอก” นับดาวแปลกใจกับคำพูดของชายหนุ่มคนนี้ ดูเหมือนว่าหมอนี่จะกะล่อนพอตัว

“เฮ้ย! รู้ประวัติผมได้งัย นี่ผมเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยแล้วนะคร๊าบ ไม่เงิน” สีหน้าเขาเริ่มสลดลงอีกครั้ง

“งั้นก็รีบออกจากห้องฉันเดี๋ยวนี้ แล้วถ้าบิลค่าน้ำค่าไฟมา ฉันจะฝากยัยเมย์ไปเก็บจากนาย ถือว่าช่วยเหลือเพื่อนร่วมประเทศให้อยู่ฟรีไม่คิดค่าเช่า”

นับดาวถอดหายใจ มองหน้าเขา ส่วนชายหนุ่มแปลกหน้าก็มองหน้านับดาว ใบหน้าของเธอไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลยยังคงน่ารักสดใส จนเขาแทบอยากจะเข้าไปกอดเธอตั้งแต่พบเลยทีเดียว แต่ตอนนี้เขาพยายามใช้ความคิดหาวิธีทำอย่างไรถึงจะได้อยู่กับเธอคนนี้ และที่สำคัญเธอต้องยินดีที่จะให้เขาอยู่ด้วยความเต็มใจ