3
‘ประเทศไทย’
“มุก...นั้นลูกกำลังจะไปไหน” เอกวุฒิเรียกลูกสาวที่มีทีท่ารีบร้อนออกจากบ้าน
“สวัสดีคะคุณพ่อ” หนูมุกทำความเคารพบิดา และเดินเข้าไปหา “คือมุกมีธุระด่วนนะคะ”
“ธุระด่วน?” เอกวุฒิมองหน้าลูกสาวแบบจับพิรุธ
“ค่ะ”
“เลื่อนได้มั้ย?”
“สำคัญคะคุณพ่อ”
“มากกว่าพี่อลัน?”
“แหม!...คุณพ่อมันไม่เกี่ยวกันเลยนะคะ” เอกวุฒิมองหน้าลูกสาวและส่ายหน้าไปมา เมื่อวานตอนอาหารมื้อเย็นเขาได้บอกให้หนูมุกรู้ว่า “อลันจะเดินทางมาถึงประเทศไทยในวันพรุ่งนี้” เขาบอกเพื่อให้เจ้าลูกสาวตัวแสบแสนงอน อยู่เพื่อได้เจอและเคลียกัน แต่นี้กลายเป็นว่าหาทางหลบเลี่ยงไม่เจอกันซะงั้น ทำให้เขาเหนื่อยใจจะให้บังคับก็ทำไม่ได้ เพราะตั้งแต่เล็กจนโตเขาใช้หลักเหตุและผลในการเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนลูกมาตลอด และปิ่นมุกไม่เคยสร้างปัญหาอะไรให้เขาเลย กลับตรงกันข้ามเธอนำพาแต่ความภาคภูมิใจมาให้ตลอด จะมีก็แต่เรื่องเดียวคือเรื่องของพี่อลันของเจ้าลูกสาวนี้แหละ ที่เธอไม่ยอมให้ใครเข้ามายุ่งเกี่ยวระหว่างปัญหาของพวกเขาทั้งสองนี้ก็สามปีแล้ว
เอกวุฒิมองหน้าลูกสาวแต่ก็ไม่พูดอะไรต่อ ได้แต่ตัดสินใจให้เป็นปัญหาของอลันเองแล้วกัน ปิ่นมุกเมื่อเห็นว่าพ่อไม่ขวางเธอแล้ว ก็วิ่งเข้าไปหอมแก้มฟอดใหญ่และกล่าวลาเพื่อที่จะออกไปข้างนอก และเมื่อออกมาก็ล้วงโทรศัพท์ออกมา เพราะเพื่อนที่เธอโทรไปหาเมื่อคืนขอนัดกะทันหันเมื่อคืนนี้ยังมาไม่ถึงหน้าบ้านเธอเลย
“เติ้ล!....แกอยู่ไหนแล้วเนี้ยะ...ทำไมช้าจัง” ปิ่นมุกแหวกใส่เพื่อนทันทีที่รับสาย
“ใกล้แล้วโว้ย!...วันนี้เป็นวันพระ...แวะไปส่งคุณแม่กับคุณย่าที่วัดเสร็จก็รีบมาหาแกแล้วนะเนี้ยะ...พระเจ้าก็ไม่ได้ไหว้ขอบุญติดตัวเลย” สุพัฒน์เพื่อนชายที่สนิทที่เหลือให้ปิ่นมุกได้คบเป็นเพื่อนได้ โชคดีว่าเจ้าเติ้ลเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียนอนุบาลมาด้วยกัน และรู้จักครอบครัวของเธอดีทุกคนรวมถึงพี่ชายท้องชนกันของเธอด้วย จึงทำให้เธอยังมีเพื่อนที่เป็นเพศตรงข้ามเหลืออยู่บ้าง
“เอ่อๆๆ...เร็วๆนะ...ยืนรอหน้าบ้านแล้ว..../...เฮ้ย!!!...” และไม่ทันที่ปิ่นมุกจะได้วางสายเธอก็เห็นรถของที่บ้านเลี้ยวเข้ามา และแน่นอนเธอรู้ทันทีว่าเป็นรถที่คุณพ่อให้เอาไปรับคนที่เธอกำลังหลบเลี่ยงที่จะเจออยู่
หนูมุกหันซ้ายหันขวาตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร ระหว่างกระโดดหลบเข้าข้างทางและมุดตัวกับกระถางต้นไม้หน้าบ้าน แต่คิดว่าคงไม่เป็นผลเพราะหน้าบ้านเธอเต็มไปด้วยไม้กระถางเล็กๆที่วางเรียงกันอย่างสวยงาม จึงตัดสินใจวิ่งกลับเข้าบ้านขึ้นไปห้องนอนทันที
เอกวุฒิเห็นหลังลูกสาวแว๊บๆ กำลังจะถามว่าลืมอะไร ก็ได้ยินเสียงรถเข้ามาจอดที่หน้าประตูทางเข้าบ้านเสียก่อนจึงเลือกจะออกไปตามเสียงรถนั้น เพราะรู้เหตุผลในการวิ่งแบบนั้นของลูกสาวทันที เอกวุฒิเดินออกมาพร้อมกับที่อลันลงมาจากรถ
“สวัสดีครับคุณพ่อ” อลันยกมือไหว้และกล่าวสวัสดี พร้อมกับเข้าไปกอดชายตรงหน้าที่รักไม่ต่างไปจากพ่อแท้ๆเลย
“เดินทางเป็นไงบ้าง...คงเหนื่อยสินะ...ลงจากเครื่องที่สุวรรณภูมิ...ก็ต่อเครื่องมาที่ภูเก็ตทันที”
“นิดหน่อยครับคุณพ่อ...”
“ไปๆ...เข้าบ้านก่อน...แล้วคนของลูกละ”
“ผมให้แยกเข้าที่พักเลยครับ...พี่แอลจัดการอยู่...สักครู่คงตามมาที่นี่ครับ”อลันตอบออกไปพร้อมกับสายตากวาดหา “เอ่อ...คุณแม่นีออนยังไม่กลับจากวัดเหรอครับ?”
“เดี๋ยวคงจะกลับมาแล้วละ...เพราะเขาบ่นคิดถึงอลันมาก” อลันยิ้มพร้อมพยักหน้า เพราะตลอดเวลาสามปีไม่ใช่แค่หนูมุกที่เขาไม่ได้เจอ รวมถึงพ่อแม่ทูนหัวของเขาด้วย เพราะเมื่อหนูมุกโกรธเขาพาลไม่ไปหาเขา ทำให้ทั้งพ่อกับแม่ทูนหัวไม่ได้ไปเยี่ยมเขาที่อังกฤษเช่นกัน เพราะสงสารและเป็นห่วงหนูมุกซึ่งเขาก็เข้าใจดีและเห็นด้วย เพราะที่เหตุการณ์เป็นแบบนี้สาเหตุก็มาจากตัวเขาเอง
“แล้วหนูมุกละครับ?” อลันถามไปอย่างนั้น แต่เมื่อกี้นี้เขาเห็นเธอตั้งแต่รถเลี้ยวเข้ามาแล้วว่าเธอยืนอยู่หน้าบ้าน แว๊บ!แรกเขาดีใจคิดว่าเธอออกมายืนรอรับเขา แต่แล้วจู่ๆเธอก็วิ่งกลับเข้าบ้านไปทันที
“สงสัยจะลืมของ เห็นบอกว่ามีธุระสำคัญต้องออกไปข้างนอก...วิ่งขึ้นห้องไปแล้ว” เอกวุฒิเลือกที่จะตอบและให้อีกเหตุผลอื่นไป แต่ทั้งเขาและเอกวุฒิต่างก็เข้าใจในการกระทำของหนูมุก อลันขมวดคิ้วทันทีและขอตัวไปหาต้นเหตุของการมาเมืองไทยครั้งนี้
“แกร๊ก...แกร๊ก” หนูมุกหันไปมองตามเสียงลูกบิดประตูทันที และไม่ทันที่เธอจะวิ่งไปยับยั้งประตูก็ถูกผลักเข้ามา พร้อมกับที่อลันผ่านประตูเข้ามาและปิดประตูลงพร้อมกับยืนขวางประตูด้วยรอยยิ้ม และโชว์พวงกุญแจที่เกี่ยวไว้กับนิ้วและควงเล่นอย่างท้าทายหญิงสาวตรงหน้า อลันคาดไว้อยู่แล้วว่าหนูมุกต้องล็อคห้องจึงแวะไปหยิบกุญแจก่อน
หนูมุกมองภาพนั้นอย่างไม่ชอบใจแต่ก็ไม่โวยวายอะไร อลันจ้องตาหนูมุกและไล่ลงมาที่จมูก,ปากและรูปร่างที่สมส่วนเอวคอดสะโพกกลมงอน ขาเล็กเรียวยาวภายใต้กางเกงยีนส์สีซีดเข้ารูปนั้น สามปีแล้วที่เขาไม่ได้เจอและได้ยินเสียงเธอแบบตรงๆ มีแต่ภาพแอบถ่ายในกิจกรรมต่างๆของเธอจากลูกน้องของพ่อที่เขาขอให้ส่งมาคอยติดตามดูแลเธออยู่ห่างๆ
อลันยังยืนอยู่ที่เดิม ทั้งๆที่ใจอยากจะดึงร่างบางนั้นเข้ามากอดและทำอะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย แต่เขาก็ต้องยับยั้งช่างใจไว้เพราะตอนนี้หญิงสาวตรงหน้าดูจากท่าทางและแววตาตอนนี้แล้วเธอคงยอมเขาหรอกนะ แต่อลันก็ใช่ว่าจะยอมแพ้
“คิดถึงจัง” หนูมุกหลี่ตามองผู้ชายตรงหน้าอย่างไม่วางใจ กับคำทักทายที่พึ่งเข้าหูไปหมาดๆ
“จะมาไม้ไหน” หนูมุกคิดในใจ เข้มแข็งไว้หนูมุกเธอตอกย้ำเตือนสติของตัวเอง ความรู้สึกที่ได้รับเมื่อสามปีก่อนเธอไม่เคยลืม ‘จูบแรก’เขาได้จูบแรกของเธอไปแล้ว หลังจากนั้นสิ่งที่เธอได้รับตอบแทนคือความห่างเหิน,หลบหน้า หนูมุกยอมรับว่าเสียใจเป็นอย่างมาก หลังจากคืนนั้นเมื่อสามปีก่อนที่เขาสอนให้เธอรู้จักสิ่งที่เรียกว่า ‘จูบ’ เขาทำกันอย่างไรและเขาก็ขอตัวออกไปทำงาน
หนูมุกยังจำความรู้สึกนั้นได้ว่ามันเป็นอย่างไร เธอทั้งตกใจและตื่นเต้นอย่างที่สุด เป็นประสบการณ์ใหม่ แต่ก็ทำให้เธอรู้สึกดี เพราะคนที่ให้ประสบการณ์นี้คือชายที่เธอทั้งรักและบูชาเป็นที่สุด คืนนั้นกว่าเธอจะหลับลงได้ก็ผ่านไปหลายชั่วโมง พี่อลันก็ยังไม่กลับมาจนเธอเผลอหลับไป และมาตื่นในตอนเช้าไร้ซึ่งเงาและร่องรอยการกลับเข้ามานอนของอลัน
แต่นั้นหนูมุกยังไม่ได้รู้สึกแย่แต่อย่างใด มันหลังจากนั้นต่างหาก ที่เขาให้เธอกลับประเทศไทยพร้อมคุณพ่อคุณแม่ และตลอดเวลาที่เหลืออยู่ที่นั้นหนูมุกมั่นใจเลยว่าพี่อลันหลบหน้าเธอ เขาไม่กลับมานอนที่บ้าน อ้างว่าต้องทำงานจะกลับมาเฉพาะเวลาทานมื้อเช้ากับมื้อเย็นเท่านั้น และบอกแต่เพียงว่าต้องกลับไปดูงาน การกระทำแบบนั้นของอลันทำให้หนูมุกรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าที่สุด
หลังจากที่เธอกลับมาเมืองไทยครั้งนั้น เธอก็พยายามที่จะใช้ชีวิตให้เป็นปกติทั้งในด้านความรู้สึกและกิจวัตรที่ตลอดสิบเจ็ดปี พี่อลันจะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจกับเธอทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องเรียนที่บางอย่างที่เธอไม่เข้าใจก็จะถามเขาตลอด แม้จะห่างกันคนละทวีปแต่ก็เหมือนอยู่ใกล้กัน อลันจะมีเวลาให้กับเธอทุกครั้ง ยามที่เธอต้องการพี่อลัน
อลันสังเกตว่าเหมือนหนูมุกเหม่อๆ กำลังตกอยู่ในภวังค์คิดอะไรอยู่ ก็เลยค่อยๆขยับเดินเข้าไปหา แต่แค่เพียงก้าวที่สองหนูมุกได้สติกลับมา พร้อมถอยห่างเขาไปสองก้าวทันทีรักษาระยะห่างไว้ อลันหยุดการลุกล้ำและจ้องมองเข้าไปในดวงตานั้นอย่างท้าทาย
หนูมุกก็ไม่ยอมแพ้เมื่อเจอสายตาท้าทาย ถ้าหลบตาก็จะหาว่าเธอกลัวอลันก้าวเข้าไปหาหนูมุกอีกหนึ่งก้าวและเป็นไปตามที่คาด หนูมุกถอยหนึ่งก้าว แต่ก็ไม่ยอมละสายตาจากกัน และเหมือนเดิมอลันทำเหมือนเดิมหนูมุกก็สนองกลับเหมือนเดิม อลันยิ้มเล็กน้อยที่มุมปากตามเอกลักษณ์นิสัยของเขาที่ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้
หนูมุกเอะใจกับรอยยิ้มนั้น แต่ช้าไปแล้วเมื่อคราวนี้อลันเปลี่ยนเป็นก้าวยาวๆและเร็วขึ้น หนูมุกตกใจถอยหลังแต่ได้แค่เพียงก้าวเดียวเธอก็หงายหลังลงสู่พื้นผิวผ้าปูที่นอนที่เก็บเรียบร้อยแล้วนั้นทันที
“ว้าย!!!!” หนูมุกร้องออกมาด้วยความตกใจ และร้องออกมาอีกครั้งเมื่อ อลันตามลงมาใช้ทั้งแขน,ขา และรวมถึงตัวเขาทั้งตัวกักขังตัวเธอไว้
ตาจ้องตากันโดยที่ใบหน้าห่างกันแค่หายใจรดกัน อลันลดสายตาลงมามองที่ปากบางสีชมพูอ่อนๆด้วยลิปสติกบางๆ เขาค่อยๆขยับเข้าไปใกล้ด้วยวัตถุประสงค์เดียวที่ตลอดสามปีมานี้ต้องหักห้ามใจ ทั้งๆที่โหยหาเป็นที่สุด
“อืม!...ปล่อยนะ” ประโยคแรกในรอบสามปีที่หนูมุกพูดกับเขา เพื่อมาขวางกั้นการบรรลุวัตถุประสงค์ของเขา
“ยอมพูดออกมาจนได้” หนูมุกเสมองไปทางอื่นทันที เพราะตอนนี้ผิวหน้าอมชมพูของเธอแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด เพราะเสียงกระซิบที่ตอบกลับมานั้นห่างริมฝีปากเธอแค่มดวิ่งผ่านได้เท่านั้น หนูมุกเม้มปากแน่นตามสัญชาติญาณโดยทันที
เพียงแค่อลันขยับใบหน้าอีกนิดเดียว เขาก็กำลังจะได้ในสิ่งที่เขาต้องกักเก็บมันไว้ตลอดสามปี หนูมุกหลับตาลงพร้อมกับเม้มปากบางนั้นด้วยความรู้สึกที่สับสน ไม่รู้ว่าโหยหาหรืออยากผลักใส แต่หนูมุกก็ไม่ได้ดิ้นรนขัดขืนหนีออกจากการเกาะกุมนี้
“ครืด...ครืด...” อลันหยุดชะงักความตั้งใจทันที เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ของหนูมุกดัง เป็นดั่งเสียงระฆังหนูมุกลืมตาและดิ้นรนออกจากการคุมขังนี้ อลันก็ปล่อยอย่างง่ายดาย และนั่งอยู่ที่ปลายเตียงแต่ก็ไม่ลืมที่จะรั้งเอวหนูมุกไว้ ก่อนที่เธอจะลุกออกไปไกล
“ปล่อยนะ...”
“ไม่รับโทรศัพท์?” อลันกลับพูดไปอีกเรื่อง
“ปล่อยได้แล้ว” หนูมุกย้ำความต้องการอีกครั้ง และพยายามจะลุกออกจากตรงนั้นไปให้ไกลจากสถานการณ์อึดอัดนี้ และไม่ทันที่อลันจะได้ถาม เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้งจากที่รอบแรกหนูมุกไม่ได้รับ อลันส่งสายตาให้หนูมุกรับสายตรงนี้
“มุก แกอยู่ไหน ไหนบอกว่ายืนรออยู่หน้าบ้านไง ฉันมาจอดรถรอแกนานแล้วนะโว้ย....ไหนว่ารีบนักรีบหนา” นายเติ้ลใส่ปิ่นมุกเป็นชุดทันที โดยที่เธอยังไม่ได้กล่าวอะไรเพียงแค่กดรับสาย
“เอ่อๆ...รอตรงนั้นแหละ...กำลังไปแล้ว” หนูมุกอยากจะตะบันหน้าเพื่อนตัวแสบให้หายโมโห “ไม่ใช่เพราะแกมาช้าหรือไง ฉันต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์ชวนอึดอัดแบบนี้” หนูมุกคิดต่อในใจเมื่อวางหูจากเพื่อน
“จะไปไหน?” อลันถามอย่างไม่พอใจ เพราะเขาก็ได้ยินเสียงปลายสายนั้น เพราะเขาแนบหูของตัวเองกับโทรศัพท์ของหนูมุกอย่างที่หนูมุกชอบทำกับเขาเวลาที่อยู่ที่ประเทศอังกฤษที่พ่อกับแม่โทรไปหา
“จะบอกมั้ย?...โอเค!...ถ้าไม่บอกก็ไม่ต้องไป.../ว้าย!!!...” อลันพูดพร้อมกับนอนลงไปอีกครั้งพร้อมดึงหมอนข้างมีชีวิตนามว่าหนูมุกตามลงไปด้วย
“พี่ Jet Lak อยากนอนอยู่พอดี...หนูมุกนอนเป็นเพื่อนพี่หน่อยนะ” อลันกระชับอ้อมแขนกอดรัดหญิงสาวมาแนบกายมากขึ้น
“ไม่ได้...เพื่อนมารออยู่หน้าบ้านแล้ว”
“อยากไป?”
“ใช่”
“อ้อนวอนขอร้องพี่สิ”
“ทำไมมุกต้องทำอย่างนั้นด้วย”
“ก็ตามใจ...พี่ก็จะกอดหนูมุกไว้แบบนี้...มีแรงดิ้นหนีไปได้ก็เอาสิ” อลันพูดพร้อมรัดวงแขนมากขึ้น โดยแผ่นหลังของหนูมุกแนบสนิทกับหน้าอกแกร่ง อลันสูดดมเส้นผมดำเงางามยาวสลวยของหนูมุกด้วยความถวิลหาและหลงไหลเป็นที่สุด
