
‘ลูกไม้’มาเฟีย [ Heir Of Mafia ] เซต Romance Of Mafia ลำดับที่ 3
บทย่อ
“ถือซะว่าพี่เป็นสินค้า...ที่เต็มใจให้หนูมุกได้ทดลองใช้ได้ตามใจ...ครับ”อลัน ซาวันเดอร์ (พี่อลัน) ปัจจุบัน อายุยี่สิบเจ็ดปี ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ที่ต้องพลัดพรากจากพ่อแม่ ไปอยู่และเติบโตที่ประเทศไทย โดยมีพ่อและแม่ทูนหัวเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนจนถึงอายุสิบห้า แต่ตอนที่อลันอายุได้เจ็ดขวบพ่อและแม่ทูนหัวที่เลี้ยงดูเขามา ได้ให้กำเนิดบุตรสาว ผู้ซึ่งที่จะมาครอบครองหัวใจของเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข ปิ่นมุก อัครถาวรกุล (หนูมุก) ปัจจุบัน อายุยี่สิบปี ที่เกิดมาท่ามกลางความรักของคนรอบข้าง และรวมถึงผู้ที่จะมาเป็นเจ้าของหัวใจ ‘พี่อลัน’ ชายเพียงคนเดียวที่เธอต้องรักเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข เมื่อลมหายใจแรกของเธอที่เกิดขึ้นนั้นมาพร้อมกับภาระที่ยิ่งใหญ่ เมื่อเธอต้องเป็นสะใภ้ใหญ่ของตระกูลซาวันเดอร์ หนูมุกจึงถูกเลี้ยงดูให้พร้อมกับหน้าที่ตำแหน่ง ‘เมีย’ ของพี่ชายท้องชนกัน ที่เขาไม่ใช่เป็นเพียง อลัน ซาวันเดอร์ แต่เขาคือ ‘ลูกไม้’มาเฟีย ที่มีเลือดส่วนนี้ไหลเวียนเป็นส่วนใหญ่ในร่างกาย ‘ให้ตายเถอะ!!!’ คำนี้ต้องเกิดขึ้นกับอลันแทบทุกวัน เมื่อเขาคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เขาต้องรับเจ้าสาวตัวจริงของเขามาดูแลต่อจากพ่อแม่ เพื่อรอเวลาที่เหมาะสมที่เขาจะมอบตำแหน่ง ‘เมีย’ ที่ถูกต้องตามกฎหมายให้กับเธอ แต่เมื่อเธอทั้งแสบ ทั้งดื้อ และรักเขามากมายจนทำให้เขาต้องกระทำบางอย่างเพื่อปกป้องเธอจากภัยร้ายที่ครอบครัวเขาต้องพบเจอ ‘ให้ตายเถอะ!!!’ เขาเกลียดตัวเองที่ต้องทำให้ ‘หนูมุก’ เสียน้ำตาครั้งแล้วครั้งเล่า เขาจึงต้องชดเชยให้กับเธอด้วยการมอบตัวเองให้ตกเป็นของเธอครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อฆ่าเวลารอคอยวันที่เธอจะเข้ามารับตำแหน่ง ‘ภรรยา’ ในอีกหนึ่งปีข้างหน้า “ถือซะว่าพี่เป็นสินค้า...ที่เต็มใจให้หนูมุกได้ทดลองใช้ได้ตามใจ...ครับ”SET : Romance Of Mafia ลำดับที่ 1 ; จังหวะรักมาเฟีย [ Mafia’s Rhythms Of Love ] ลำดับที่ 2 ; มาเฟีย'จ้าว'ชีวิต [ Mafia’s King ] ลำดับที่ 3 ; 'ลูกไม้'มาเฟีย [ Heir Of Mafia ] ลำดับที่ 4 ; นางฟ้ามาเฟีย [ Mafia’s Fairy ] SET : Romance Of Mafia ภาคพิเศษของเอ็ดเวิร์ด และ น้ำใส จอมใจมาเฟีย [ Mafia’s Beloved ]
1
‘ประเทศไทย’
“line....” จันทร์ฉายคว้าโทรศัพท์เมื่อได้ยินเสียงข้อความของไลน์เข้า เมื่อเธอดูมัน มาจากพี่สาวของจันทร์ฉายคือพี่ปกฉัตรซึ่งตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ที่ประเทศอังกฤษ
“เฮ้!...มุกดูนี้สิ...พี่ฉัตรส่งรูปว่าที่พี่เขยมาให้ดูว๊ะ...หน้าตาดีมากเลยว๊ะแก” ฉาย หรือ จันทร์ฉาย เพื่อนของปิ่นมุก โชว์หน้าจอภาพคู่ชายหญิงที่ประคองกอดให้ดู พร้อมรายงานสถานะของคนในภาพเรียบร้อย
ปิ่นมุก กำลังก้มหน้าก้มตาทบทวนเนื้อหาเพื่อเตรียมตัวเข้าห้องสอบวิชาตัวสุดท้ายของภาคเรียนนี้
“เมื่อกี้...แกว่า...อะไรนะ” ปิ่นมุกทวนคำของเพื่อนอีกครั้งทันทีอย่างติดขัดในด้านความรู้สึกและลมหายใจ หลังจากเงยหน้ามามองภาพดังกล่าว ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่ได้ยิน แต่อยากฟังอีกครั้งว่าที่ได้ยินตอนแรกไม่ผิด
“ว่าที่พี่เขย...พี่ฉัตรเขาว่าอย่างนั้น...ดูสิพี่เขาบอกว่าเป็นลูกครึ่ง ไทย-อเมริกันด้วย หน้าตาดีมากเลยว๊ะแก...แถมยังพูดไทยชัดเวอร์อีกต่างหาก” จันทร์ฉาย กล่าวต่ออย่างไม่รู้สึกถึงความผิดปกติของเพื่อนร่วมโต๊ะ ที่ตอนนี้หน้าถอดสีซีดอย่างเห็นได้ชัด เพราะมัวแต่จับจ้องอยู่ที่หน้าโทรศัพท์โต้ตอบกับพี่สาวที่อยู่ต่างแดน
“มุก...ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ...เจอกันที่ห้องสอบเลยแหละกัน” ปิ่นมุกพูดพร้อมกับปิดหนังสือและลุกเดินออกไปจากตรงนั้น
“เฮ้ย!...มุก...มุก” จันทร์ฉายร้องเรียกเพื่อนที่จู่ๆก็หุนหันลุกและเดินจากไป “สงสัยจะปวดมาก” บ่นพึมพำกับตัวเองและก้มหน้าพิมพ์ไลน์คุยกับพี่สาวต่อเพื่อฆ่าเวลารอเวลาสอบ
ปิ่นมุกวิ่งไปหยุดที่ริมสระน้ำ และยืนใต้ต้นไม้ใหญ่มองไกลออกไป ยังกับว่าเธอกำลังใช้ดวงตาคู่สวยมองไปถึงประเทศอังกฤษ เพื่อที่จะได้มองเห็นใครคนหนึ่งที่เธอเฝ้ารอคอยมาตลอดหลายปีนี้ ด้วยแววตาเศร้าอย่างไม่อาจปิดบังได้
‘ประเทศอังกฤษ’
“ขอบคุณครับ พี่แอล” อลันกล่าวขอบคุณแอลหรือมิคาแอลที่เป็นมือขวาและพี่เลี้ยงของอลัน มาตั้งแต่เขาเดินทางมาศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษเมื่ออายุ สิบห้า และเป็นการจากเมืองไทยมาตั้งแต่ตอนนั้นและจากวันนั้นถึงวันนี้เขาอายุยี่สิบเจ็ดปี สิบสองปีแล้วที่ตัวเขาไม่ได้กลับเมืองไทยที่เขาเติบโตมาตลอดสิบห้าปีเพราะอีกสองวันเขาจะเดินทางไปประเทศไทย เพื่อไปจัดการภาระกิจที่ไม่มีใครสามารถจัดการได้ นั้นคือการไปรับ ปิ่นมุก หญิงสาวที่เป็นดั่งดวงใจและชีวิตเขา
แอลจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินในการเดินทางครั้งนี้และแจ้งเพิ่มเติมว่า “ผมจัดการ์ดไปเพิ่มอีกเจ็ดคน”
“รวมพี่กับผมก็เก้าคน...แล้วคุณพ่อวุฒิท่านทราบเหรอยังครับ”
“ครับ...ท่านบอกว่าไม่มีปัญหาครับ...ท่านสำรองบ้านพักให้เรียบร้อยครับ” อลันพยักหน้ารับทราบ แต่การไปครั้งนี้ถ้าทุกอย่างเรียบร้อย เขาคงสามารถเดินทางกลับได้ภายในหนึ่งสัปดาห์
“หนูมุก...อีกสองวันเราก็จะได้เจอกันแล้ว” อลันบ่นพึมพำกับตัวเองและตั้งหน้าตั้งตาเคลียงานให้เสร็จก่อนการเดินทาง
แอลมองอลัน นายหนุ่มรุ่นน้องอายุน้อยกว่าเขาสองปี เขาในฐานะที่เป็นทั้งเพื่อนและพี่เลี้ยงมองอย่างกังวลใจ เรื่องงานเขาไม่เป็นห่วงเลยเพราะอลันทั้งเก่งและฉลาดในการทำงาน แม้แต่การเรียนเขาก็ไม่ธรรมดาสมกับเป็นคนตระกูล ซาวันเดอร์ทายาทอันดับหนึ่งเพียงคนเดียว แต่นายเขาคนนี้ยังมีน้องชายที่ห่างกันสามปีแต่สองคนใช้นามสกุลคนละนามสกุล เพราะน้องชายของเขากลับเป็นทายาทของตระกูลเบนเน็ต ใครก็ตามที่ไม่ได้ใกล้ชิดหรือเป็นคนใน จะไม่รู้ถึงความเป็นมาของครอบครัวนี้ เพราะนายใหญ่ของตระกูลนี้ไม่ธรรมดาวางแผนจัดการทุกอย่างได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ความกังวลของเขาคือเรื่องหัวใจของชายหนุ่มต่างหาก หนูมุก หรือ ปิ่นมุก อัครถาวรกุล บุตรสาวที่เหลือเพียงคนเดียวของเอกวุฒิ นักธุรกิจเจ้าของฟาร์มมุกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเจ้าของเกาะมุก,รีสอร์ท อีกหลายแห่ง และเอกวุฒิกับภรรยายังมีตำแหน่งเป็นพ่อแม่ทูนหัวของอลันด้วย แต่ปัญหาอยู่ที่หญิงสาววัยยี่สิบปี นามว่า ปิ่นมุก เพราะเธอไม่ธรรมดา เรื่องนั้นอลันนายหนุ่มของเขารู้ดี และคิดว่าคงกำลังกังวลเรื่องนี้เป็นแน่
แอล...มือขวาพ่วงตำแหน่งเลขาขอตัวและเดินออกจาห้องไป อลันก็เงยหน้าพิงพนักและถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจและเป็นกังวล เขาย้อนกลับไปคิดถึงเหตุการณ์เมื่อสามปีก่อนที่เป็นสาเหตุของการสร้างปัญหาให้เขา ณ ปัจจุบันนี้
เหตุเกิดที่ร้านอาหารในประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นวันที่พร้อมหน้ากันทุกคนไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ของเขา และพ่อแม่ทูนหัวก็คือคุณพ่อคุณแม่ของหนูมุกนั่นเอง และอดัมน้องชายเพียงคนเดียวของเขา เพราะเป็นวันสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทของเขา ทุกอย่างควรจะเป็นในแบบที่เขาจัดการและวางแผนไว้ แต่เนื่องจากเขาไม่ได้ทำการจองแบบปิดร้านเพื่อความเป็นส่วนตัว แต่แค่ให้มีการจัดสถานที่แยกออกมาเฉพาะครอบครัว เพราะฉะนั้นทางร้านก็ยังคงเปิดร้านรับแขกท่านอื่นได้ ถึงแม้บริเวณโดยรอบของโต๊ะเขาจะมีการจัดสถานที่เพื่อครอบครัวเขา และไหนจะการ์ดของพวกเขาอีกรวมกันก็สามสิบคนได้ ถ้ามองมาจากโต๊ะอื่นของลูกค้าท่านอื่นของร้านจะไม่เห็นพวกเขา แต่ห้องน้ำสิยังคงใช้ร่วมกัน
“คุณแม่ขา...หนูมุกอยากเข้าห้องน้ำ” หญิงสาววัยสิบเจ็ด เอ่ยกับมารดาของตนที่นั่งอยู่ข้างๆ แต่ไม่ทันที่นีออน แม่ของหนูมุกจะได้พูดอะไร
“เดี๋ยวพี่พาไป” อลันเป็นฝ่ายพูดมาซะก่อนด้วยภาษาไทย อลันจะใช้ภาษาไทยกับพ่อแม่ทูนหัวและหนูมุก รวมถึงแม่เขาเองด้วยคือคุณแม่หนูนาเท่านั้น และจะมีเป็นครั้งคราวกับน้องชายของเขาคือ อดัม เพราะทั้งเขาและอดัมสามารถใช้ภาษาไทยสื่อสารได้แต่อาจจะไม่คล่องแคล่วและเข้าใจในเรื่องของการใช้สำนวนไทยก็เขาและอดัมเป็นลูกครึ่งไทยอเมริกันที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ฝั่งยุโรปจึงถนัดการใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกันมากกว่าระหว่างสองพี่น้อง
อลันยืนรอหนูมุกอยู่เยื้องๆหน้าห้องน้ำหญิง หลังจากที่เขาออกมาจากห้องน้ำชาย แต่เลยจากเขาไปก็จะมีบอดิการ์ดตามมาด้วยอีกสองคนและยืนอยู่ห่างๆออกไปเล็กน้อย ในขณะที่อลันยืนและล้วงมือไว้ในกระเป๋ากางเกงอยู่นั้น
“Hi….ที่รัก” ซาบีน่าเพื่อนท้องชนกันเป็นครั้งคราวของเขา โผเข้าหาอลัน จากทางออกห้องน้ำ อย่างดีใจและเซอร์ไพรส์ จนเข้าทำการประกบปากอลันทันที แบบที่อลันไม่ทันตั้งตัว ซาบีน่าจูบอลันอย่างดูดดื่มและสองมือของเธอโอบรอบคออลันไว้อย่างคนเป็นงาน
“ซา...บี....น่า” อลันพยายามเปล่งเสียงและรีบเอามือออกมาจากกระเป๋ากางเกงทันที แต่ก็ยังช้ากว่าที่ใจคิดเพราะหนูมุกเดินออกมาจากทางออกของห้องน้ำ เห็นภาพนั้นอย่างจังและมุมที่เธอยืนอยู่ประกอบกับแสงไฟสลัวๆ มือของ อลันที่ยกขึ้นมาเพื่อที่จะดึงร่างของซาบีน่าออกนั้น กลายเป็นว่าหนูมุกเห็นเป็นการโอบซะงั้น!!! หนูมุกมองภาพนั้นด้วยหัวใจเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเธอก็ไม่เข้าใจ หนูมุกหันหลังกลับไปในห้องน้ำอีกครั้งด้วยความรวดเร็ว และเหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่างและเมื่อหาได้และจัดการตามต้องการ
หนูมุกเดินออกมาจากห้องน้ำอีกครั้งเพียงเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีพร้อมของที่อยู่ในมือ และวิ่งตรงไปยังหนุ่มสาวที่กำลังพัลวันอย่างไม่ทันรู้ตัว
“สาดดดด...../...กรี๊ดดดดดดด/....เฮ้ย!.....” เสียงทั้งสามดังออกมาในเวลาไล่เลี่ยกันตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้ประสบ “โครม!.....” และหนูมุกก็โยนถังน้ำที่เหลือแต่ถังใส่อลันอย่างไม่พอใจ แต่ไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากหนูมุก และเธอก็ก้าวเท้ากำลังจะเดินผ่านสองคนนั้นไป
“แก!.........โอ้ย!......” แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดคือซาบีน่า คว้าแขนหนูมุกไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง และอีกข้างเงื้อมมือหมายจะสั่งสอนเด็กสาวชาวเอเชียคนนี้ที่บังอาจเอาน้ำผสมแป้งมาสาดใส่เธอกับอลัน แต่กลับเป็นซาบีน่าที่ต้องร้องออกมาอย่างคาดไม่ถึง เมื่อชายที่เธอต้องผละจูบออกมาจากการกระทำของเด็กสาวเอเชียคนนี้ กลับคว้าข้อมือข้างที่เงื้อมจะจัดการเด็กตรงหน้า และมองเธออย่างสายตาเหี้ยมเกรียม
“เธอคิดจะทำอะไร...ซา...บี...น่า” พร้อมเสียงที่เยือกเย็นทำให้คนที่ได้ยินหนาวจับขั้วหัวใจ และมือหนานั้นก็บีบข้อมือของซาบีน่า จนเธอต้องร้องออกมา
“ปล่อยมือเธอออกมาเดี๋ยวนี้” อลันออกคำสั่งและเหลือบตาไปมองมืออีกข้างของซาบีน่าที่ยังคงจับแขนของหนูมุกไว้ ซาบีน่ามองตามและทำตามนั้นทันที เพราะอลันเพิ่มน้ำหนักการรัดข้อมือเธอมากขึ้น
“อลัน...ซาบีน่า....เจ็บ...เจ็บนะคะ” ซาบีน่าร้องออกมาและเอามืออีกข้างมาแกะมืออลันออกจากการรัดข้อมือเธอทันที หลังจากปล่อยแขนหนูมุกให้เป็นอิสระ
ปิ่นมุกเมื่อได้อิสระด้วยอาการที่นิ่งไม่แสดงความรู้สึกและพูดอะไรออกมาสักคำ ขยับก้าวเท้าออกจากตรงนั้นปลายทางคือโต๊ะที่จากมา อลันก็ไม่ได้ทักท้วงห้ามปรามใดๆ แต่ส่งสายตาไปที่การ์ดที่ยืนดูเหตุการณ์และรอคำสั่ง ให้ตามปิ่นมุกไป ทั้งสองคนน้อมรับและเดินไปทิศทางเดียวกับปิ่นมุก
“อลัน...นี้มันอะไรกัน...” ทันทีที่หญิงสาวเอเชียเดินจากไป และอลันปล่อยข้อมือ เธอร้องถามทั้งที่น้ำตาคลอดวงตาและนวดข้อมือที่เจ็บของตัวเองอย่างไม่เข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไหนเนื้อตัวเธอก็เปียกไปด้วยน้ำและคราบแป้ง ซึ่งไม่แตกต่างจากชายตรงหน้าในชุดทักซิโด้ แต่คราบน้ำคราบแป้งก็ไม่ได้ทำให้ความดูดีในตัวเขาลดน้อยลงเลย
“ถ้ายังอยากเป็นเพื่อนกัน...อย่าทำแบบนี้อีก...” อลันพูดเพียงแค่นั้นและเดินจากมา ทิ้งให้ซาบีน่ายืนอ้าปากค้างและมองตามชายตรงหน้าเดินจากไปอย่างไม่เข้าใจ “อย่าทำแบบนี้อีก” ของเขาคือหมายรวมทุกเหตุการณ์เหรอเปล่า แต่ ซาบีน่าก็ไม่ได้เดินตามเขาไป เพราะนี้เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นสีหน้าแบบนี้ของเพื่อนท้องชนกัน ยอมรับว่าเธอค่อนข้างกลัวเขาเหมือนกันแบบไม่ทันตั้งตัว
เมื่ออลันเดินกลับมาที่โต๊ะในเวลาห่างจากหนูมุกเพียงไม่กี่นาที ในสภาพที่ทั้งเปียกและเลอะเทอะ อลันทำเพียงถอดเสื้อตัวนอกออกและส่งให้กับคนของเขาและนั่งลงข้างๆหนูมุก ทุกคนต่างเงียบกันโดยปริยาย และสร้างความแปลกใจให้กับทุกคน เพราะล้วนแล้วแต่มองออกว่าสองคนนี้ต้องมีปัญหากันแน่นอน และคงเป็นบุญตาของทุกคนเลยว่าได้เพราะนี้เป็นครั้งแรกที่ อลัน กับ หนูมุก มีปัญหา เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมาของทั้งสองคนไม่เคยสักครั้งที่จะมีปัญหากัน
ทุกคนเลือกที่จะเงียบปล่อยให้ทั้งสองคนจัดการและแก้ปัญหากันเอง และเมื่อมาถึงเวลาสิ้นสุดของDinner ปีเตอร์กับหนูนาเดินทางกลับด้วยรถส่วนตัวที่ปีเตอร์มักจะชอบขับเองจนถึงปัจจุบันนี้ ส่วนอดัมที่กลับด้วยรถอีกคันไปตามทิศทางเดียวกับพ่อและแม่ ส่วนอลันกับหนูมุกและพ่อแม่ทูนหัวเดินทางกลับด้วยรถตู้ มุ่งหน้าไปยังบ้านของอลัน และการ์ดของแต่ละคนก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองว่าเข้าสังกัดใครก็ไปตามทิศทางนั้น
