บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 ปะป๊า

บ้านหลังขนาดกลางสไตล์โมเดิร์น ด้านนอกเป็นสีขาวและสีน้ำตาลอ่อนโทนอบอุ่นที่มองแล้วสบายตา ตัวบ้านมีสองชั้น พร้อมทั้งยังมีสวนขนาดย่อมอยู่ข้าง ๆ รายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่สี่ห้าต้นให้ความร่มเย็น ในสวนมีดอกไม้ใบหญ้าหลายชนิดที่เป็นไม้ประดับตกแต่งบ้านให้ดูมีสีสันน่าอยู่

ขณะนี้มีหญิงสาวหน้าตาน่ารัก ผิวขาวผ่องใสกำลังยืดรดน้ำต้นไม้ พลางมองดูดอกดาวเรืองสีเหลืองสดใสในกระถางที่วางเรียงอยู่ข้างโต๊ะเหล็กดัดสีขาวใต้เงาต้นไม้ใหญ่ เมื่อมีเวลาว่างเธอก็มักจะมารดน้ำและตกแต่งสวนนี้อยู่เสมอ

‘เคียงรัก บุญมี’ อายุยี่สิบสองปี หญิงสาวมีโครงหน้ารูปทรงไข่ ดวงตากลมโตประดับด้วยแพขนตายาวงอน ริมฝีปากอวบอิ่มชวนมอง ผิวขาวอมชมพูดูมีเลือดฝาด เธอมีสัดส่วนที่ดูสมวัย แต่ขนาดหน้าอกกลับใหญ่โตเสียจนทำให้เจ้าตัวมักหาซื้อเสื้อที่ตัวใหญ่กว่าตัวมาใส่ เนื่องจากไม่มีความมั่นใจในรูปร่างตัวเอง

เคียงรักเป็นคุณหนูของที่นี่ เป็นที่รักที่เอ็นดูของใครหลายคน ใครรู้จักแล้วก็ต่างหลงเธอกันทั้งนั้น

“คุณหนูส้มคะ คุณเขาเรียกไปทานข้าวเช้าแล้วค่ะ เดี๋ยวป้ารดน้ำต่อให้เอง” อรสา แม่บ้านของที่นี่เดินมาเรียกคุณหนูของตนที่ดูแลมาตั้งแต่หญิงสาวย้ายมาที่นี่ในวัยสิบสองขวบ

“ค่ะ ฝากด้วยนะคะป้าสา” เคียงรักส่งยิ้มให้และยื่นสายยางที่ถืออยู่ส่งให้แม่บ้านแทน จากนั้นจึงรีบก้าวขาเรียวเล็กเข้าไปยังในบ้านทันที เพราะไม่อยากให้คุณเขาที่ป้าสาเอ่ยถึงนั้นรอนาน

“ปะป๊าขา~” เมื่อเดินเข้าไปในห้องกินข้าว เคียงรักเห็นคนที่นั่งรออยู่หัวโต๊ะก็ร้องเรียกหาเสียงใสในทันที พลางรีบก้าวขาฉับ ๆ ไปนั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้าง ๆ

ช่วงนี้ปะป๊าทำงานหนักเสียจนไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง โทรคุยไม่ถึงห้านาทีก็จำต้องวางสายแล้ว ยังไม่ทันได้หายคิดถึง

“เรียกป๊าเสียงหวานเชียว ส้มมีอะไรหรือเปล่าครับ” คนที่โดนเรียกวางแก้วกาแฟที่จิบอยู่ลงบนโต๊ะ ก่อนจะหันมายิ้มตอบและเอ่ยถามลูกเลี้ยงสาวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น

‘พิธา ชัยยะนันท์’ ชายหนุ่มอายุย่างก้าวสามสิบปีเมื่อไม่นานนี้ รูปร่างกำยำ แม้จะแตะเลขสามแล้ว แต่ใบหน้าหล่อเหลาที่ผสมผสานกับความน่ารักได้อย่างลงตัวทำให้ดูเหมือนยังยี่สิบต้น ๆ คิ้วดกดำเป็นเส้นตรงรับกับดวงตาเรียวคมดุจเหยี่ยว ริมฝีปากหนาได้รูปชวนมองมักยกยิ้มให้หญิงสาวตรงหน้าเสมอ ทั้งใบหน้าที่เรียวเล็กคล้ายผู้หญิงและเครื่องหน้าที่ลงตัวชวนให้ลุ่มหลง ทำเอาเด็กสาวน้อยใหญ่มักจับจ้องเขาอยู่เสมอ

แต่ถึงจะหล่อเหลาขนาดไหนก็ยังคงถือครองสถานะโสด ไม่ผูกมัดกับใคร หากต้องการปลดปล่อยก็เพียงแค่ซื้อกิน พิธามักใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่แต่กับงานและดูแลลูกเลี้ยงที่ทั้งรักทั้งหวงแหน

“หนูคิดถึงปะป๊าค่ะ ช่วงนี้ไม่ค่อยอยู่บ้าน ทำงานหนักทุกวันเลยนะคะ” เคียงรักตอบด้วยน้ำเสียงเง้างอน และจ้องมองใบหน้าหล่อ ๆ ของคนที่เธอเรียกปะป๊า

“ปะป๊ามีงานสร้างผับแห่งใหม่ครับ ช่วงนี้เลยยุ่ง ๆ แต่อีกไม่นานทุกอย่างก็จะลงตัวแล้ว หนูทนอีกหน่อยได้ไหมครับ”

“ได้สิคะ ขอแค่ปะป๊าไม่ทิ้งส้มคนนี้ก็พอ” เคียงรักพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปนั่งที่ตักแกร่งของชายหนุ่ม

“ปะป๊าไม่เคยคิด และไม่แม้แต่จะคิดทิ้งหนูเลยครับ เพราะงั้นไม่ต้องกลัวนะ” เขามองดูคนตัวเล็กบนตัก พลางลูบหัวของเธอเบา ๆ เป็นการปลอบโยน

“ค่ะ หนูจะไม่กลัว เพราะปะป๊าไม่มีทางทิ้งหนูไปไหนแน่ ๆ เพราะปะป๊ารักหนูใช่ไหมคะ”

“ใช่ครับ ปะป๊ารักหนูมาก ๆ เลยครับ" พิธาตอบลูกเลี้ยงทันที ทั้งชีวิตกว่าสิบปีที่อยู่ดูแลหญิงสาวมา เขาไม่เคยมีความคิดที่จะทิ้งเธอเลยสักครั้ง

มีแต่กลัวว่าตัวของหญิงสาว เคียงรักของเขาจะจากเขาไปเมื่อไหร่ จะช้าหรือเร็วที่เธอนั้นจะมีคนรัก

“หนูก็รักปะป๊าค่ะ รักมาก ๆ เลย รักที่สุดในโลก” เคียงรักโผเข้ากอดพิธา ปะป๊าที่หญิงสาวรักที่สุดในชีวิต ตั้งแต่ที่แม่ไม่แท้ของเธอทิ้งไป เคียงรักก็ไม่เคยคิดที่จะรักใครอีกเลย นอกจากปะป๊าพิธาที่เธอนั้นกอดอยู่

"ครับ ปะ หนูไปนั่งที่เก้าอี้ดี ๆ นะครับ จะได้ทานข้าวกัน" พิธาที่ปล่อยให้คนตัวเล็กนั้นกอดจนน่าจะพอใจแล้ว ก็เอ่ยบอกกับเธออย่างอ่อนโยน ซึ่งหญิงสาวเองก็เชื่อฟังแล้วยอมกลับไปนั่งยังเก้าอี้ประจำแต่โดยดี

เคียงรักที่ชายหนุ่มนั้นเรียกเป็นเด็กที่เรียบร้อย น่ารัก ไม่ดื้อไม่ซน ขี้อ้อน และเชื่อฟังเขาเป็นที่สุด ไม่เคยเรียกร้องอยากได้อะไร ยกเว้นแต่ความรัก

‘คัทยา’ แม่ของเคียงรักพาลูกสาวไปเร่ขายตั้งแต่ยังเด็ก แต่ก็ไม่มีใครอยากได้เพราะราคานั้นไม่ใช่น้อย ๆ ทั้งยังต้องเลี้ยงดูอีกตั้งสิบปีกว่าจะอายุครบสิบแปด

ซึ่งคัทยา แม่ที่เคยเลี้ยงดูเคียงรักนั้นมีคนของพิธาติดต่อเธอมาให้เขา ด้วยความที่พิธาเป็นคนชอบผู้หญิงช่ำชองและรองรับแรงของเขาได้อย่างไม่ติดขัดให้เสียอารมณ์ เพราะขนาดของเขาเองที่ใหญ่เกินมาตรฐานทำให้คัทยาจึงเป็นผู้หญิงคนโปรดที่พิธาเรียกหาเป็นประจำ

จนทำให้นานวันเข้าพิธาก็ซื้อคอนโดให้คัทยาอยู่เขาจะได้ไม่ต้องพาเข้าโรงแรมบ่อย ๆ แต่ไม่นานคัทยาก็พาเคียงรักมาอยู่ด้วย ซึ่งตอนที่พิธารู้ว่าคัทยามีลูกก็ตกใจและเป็นกังวลเรื่องสามีของเธอ แต่คัทยาก็ได้รีบอธิบายว่าเคียงรักนั้นไม่ใช่ลูกแท้ ๆ แต่เป็นลูกของน้องสาวที่ตายจากไปด้วยโรคประจำตัว พ่อของเคียงรักก็เลิกราไปตั้งแต่ที่รู้ว่าแฟนเขาท้อง เธอจึงต้องเอาหลานสาวมาเลี้ยงแทนพ่อแท้ ๆ ที่ไม่เคยติดต่อมา

จนวันหนึ่งพิธาไม่มีเวลาให้คัทยา และเธอเองที่เห็นว่าเขาเอ็นดูเคียงรักเป็นอย่างมาก คอยซื้อขนม และช่วยดูแลเด็กหญิงตอนที่เธอออกไปปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อน ๆ คัทยาจึงได้ตัดสินใจทิ้งพิธาและเคียงรักเอาไว้ก่อนจากไป โดยไม่ได้เรียกราคาจากเขาเพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่าถ้าเรียกราคาไปเขาจะสนใจไหม ถ้าไม่สนใจขึ้นมาเธอเองก็ต้องเลี้ยงดูเคียงรักต่อไปอีกนานจนกว่าหลานสาวจะโต

คัทยาจึงตัดสินใจเก็บของออกไปทันที โดยเอาไปแค่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ทิ้งเคียงรักเอาไว้ที่คอนโดหรูเพียงลำพัง ส่วนพิธาจะดูแลต่อหรือไม่ดูแลก็เรื่องของเขา จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็สุดแล้วแต่เวรกรรมของเด็กหญิง หลานสาวที่ทำให้หล่อนนั้นลำบากมาตลอดตั้งแต่ที่เคียงรักเกิดมา เป็นตัวภาระให้หล่อนต้องสละเวลาพักผ่อนมาป้อนข้าวป้อนน้ำให้ตั้งแต่แบเบาะ ในที่สุดคัทยาก็ได้เป็นอิสระเสียที อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้เลวทรามขนาดทิ้งหลานสาวเอาไว้ข้างถนนเสียหน่อย

คัทยาตัดสินใจเดินออกไปจากชีวิตทั้งสอง ปล่อยให้เคียงรักร้องห่มร้องไห้งอแงขณะวิ่งตามมาเกาะขา แต่สุดท้ายแรงเด็กก็ไม่อาจสู้ผู้ใหญ่ได้ คัทยาดึงมือน้อย ๆ ที่กอดขาเธอออก ก่อนจะสั่งให้เคียงรักเชื่อฟังและห้ามเดินตาม ไม่อย่างนั้นจะไม่มีใครรัก

ด้วยความเป็นเด็กเคียงรักจึงเชื่อฟังน้าสาวทุกอย่างเพราะกลัวคำขู่นั้น กลัวว่าตัวเองจะไม่มีใครต้องการอีก ทำได้แค่มองตามแผ่นหลังของน้าสาวที่หายลับสายตาไปหลังประตูปิด

แต่ใครจะรู้ว่าชีวิตต่อจากนั้นของเด็กหญิงกลับมีความสุขมากกว่าเดิม

เมื่อพิธาที่ต้องรับบทปะป๊าจำเป็นให้เคียงรักนั้นคอยเติมเต็มความรักที่เด็กหญิงโหยหา เติมเต็มความสุข ความอบอุ่นให้เธอจนยาวมาถึงปัจจุบัน

“ปะป๊าทานข้าวเสร็จจะเข้าบริษัทไปทำงานเลยเหรอคะ” เคียงรักที่กินข้าวไปด้วยชวนพิธาคุยไปด้วยถามคำถามออกมาไม่รู้กี่ครั้ง

แต่ปะป๊าของเธอก็ตอบกลับมาตลอด ไม่ได้แสดงท่าทีรำคาญหรือไม่พอใจใส่แม้แต่น้อย หากแต่เป็นคนอื่นเขาคงตวาดกลับให้เงียบปากตั้งแต่คำถามที่สามแล้ว

“ใช่ครับ หนูมีอะไรหรือเปล่า ฮึ หรือคิดถึงปะป๊า”

“ใช่ค่ะ คิดถึงปะป๊ามาก ๆ เลย หนูนั่งรอวันที่ปะป๊าจะมีเวลาให้หนูเหมือนกับเมื่อก่อนไม่ไหวแล้ว เพราะคิดถึงมาก ๆ จนรักของปะป๊าอิจฉางานแล้วค่ะ ได้เจอปะป๊าทุกวันทุกเวลาเลย เยอะกว่าเจอส้มคนนี้เสียอีก”

“ไม่น้อยใจนะครับ ใกล้แล้ว อีกนิดเดียว” พิธาหัวเราะน้อย ๆ ให้กับคำพูดซื่อตรงของหญิงสาว น่ารักเสียจนทำเอาปะป๊าคนนี้ต้องยิ้มตาม

“ค่ะ แต่ถ้าเป็นแบบนี้บ่อย ๆ หนูคงต้องเหงาตลอดไปแน่ ๆ”

“โอ๋ ๆ ไม่นานขนาดนั้นครับ”

“งั้น... ถ้าปะป๊าไม่อยากให้ส้มคนนี้น้อยใจ ปะป๊าต้องทำอะไรให้หนูหนึ่งอย่างนะคะ” เคียงรักที่เคี้ยวอาหารจนหมดปากแล้ววางช้อนส้อมลง ก่อนจะเอียงหน้ามองปะป๊าของตัวเองอย่างออดอ้อน อีกทั้งยังชูนิ้วชี้อย่างน่ารักน่าเอ็นดูออกมาเป็นเลขหนึ่งประกอบ

“บอกมาได้เลยครับ ปะป๊าคนนี้ย่อมทำทุกอย่างให้หนูได้ทั้งนั้น ขอแค่บอก”

“ปะป๊าขี้โม้อ๊ะเปล่าเนี่ย”

“ระดับนี้พูดจริงทำจริงครับ ไม่มีอะไรที่ปะป๊าจะทำให้ไม่ได้” พิธายิ้มและส่ายหน้าอย่างเอ็นดูเคียงรัก จากเด็กน้อยที่มอมแมมในวันนั้น สู่เด็กสาวที่สวยงามดั่งดอกไม้บริสุทธิ์ตรงหน้าในตอนนี้

“คิก ปะป๊าน่ารักที่สุดเลยค่ะ” เคียงรักยิ้มกว้างจนเผยให้เห็นฝันขาวเรียงสวยของตัวเอง ตาหยีบ่งบอกถึงความจริงใจว่าเธอนั้นมีความสุขขนาดไหน

“ก็คงน่ารักเท่าส้มคนนี้ไม่ได้หรอกครับ” พิธาตอบกลับหญิงสาวแทบจะทันที ในโลกนี้ไม่เถียงหรอกว่ายังมีคนอีกมากมายที่สวยหรือน่ารักกว่าเคียงรัก แต่ภายในสายตาของเขานั้นคนที่น่ารักที่สุดก็คือหญิงสาวตรงหน้าคนนี้

เคียงรักของเขาเปรียบเสมือนสิ่งมีค่าที่สวยงามและบริสุทธิ์เสียจนทำให้ชายหนุ่มนั้นหลงใหลเธอไปโดยไม่รู้ตัว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel