2. ลูกสาวบุญธรรม (บดินทร์&ธิดา)
ย้อนกลับไป
เมื่อ10กว่าปีที่แล้ว
บดินทร์เป็นทายาทเพียงผู้เดียวของตระกูลที่ร่ำรวย เขาเป็นผู้สืบทอดมรดกและกิจการทุกอย่างของครอบครัว
เขามีเพียบพร้อมทุกอย่างไม่ว่าจะหน้าตาหรือฐานะเขาไม่เคยรู้สึกขาดอะไรในชีวิต
เขาบอกกับตัวเองเสมอว่าชีวิตนี้เขาจะไม่มีภรรยา เขาจะไม่ยอมผู้หญิงคนไหน และคำว่ากลัวเมียจะไม่เกิดขึ้นกับคนอย่างเขาเด็ดขาด ถึงเขาจะมีความคิดที่ว่าในอนาคตเขาอยากมีลูกแต่เขาก็ไม่อยากมีภรรยาอยู่ดี
หากแต่เขาเกิดอยู่ในตระกูลที่ร่ำรวย สิ่งที่เขาต้องพบเจอ คือการที่ต้องมีทายาทและการแต่งงานเพราะเขาเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของตระกูล
พ่อแม่ของเขาก็อยากเห็นเขามีชีวิตที่สมบูรณ์แบบก่อนที่จะหมดลมหายใจไปเสียก่อน
เพราะตอนนั้นพ่อแม่ก็แก่มากแล้ว พ่อแม่ของเขา มีเขาในวัยที่แก่แล้ว
ในตอนนั้นทางพ่อแม่ก็แนะนำผู้หญิงตระกูลต่างๆ ให้เขาได้รู้จัก เผื่อเขาจะถูกใจใครบ้าง แต่เขาไม่ถูกใจใครเลย
ถ้าหากที่สุดแล้วเขาไม่ถูกใจใคร พ่อแม่ก็จะเป็นคนจัดการให้เอง ไม่ต่างกับคลุมถุงชน
ที่เขาไม่อยากแต่งงานเพราะเขาต้องการอิสระในชีวิตเขาไม่อยากโดนผูกมัด ถ้าหากเขายอมแต่งงานตามที่พ่อแม่อยากให้เป็น เขาต้องยอมผู้หญิงคนนั้น ต้องทิ้งอิสระ ต้องทำหน้าที่สามี ซึ่งไม่ใช่ตัวเขา เขาไม่เคยคิดที่จะต้องการใคร
ถึงแม้ชีวิตเขาจะมีผู้หญิงมากมายเข้ามาวนเวียนรอบตัวเขาก็ตาม ผู้หญิงที่เข้ามาทุกคนก็แค่ชั่วคราว แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะเอาใครมาอยู่ข้างๆ และเป็นภรรยาของเขา
และความดื้อรั้นของเขาในตอนนั้น เขาพูดเด็ดขาดกับพ่อแม่ของเขา ว่าเขาไม่พร้อมแต่งงาน แต่เขาจะหาหลานมาให้แทน
ซึ่งก็ทำให้พ่อแม่ของเขาเอือมระอากับเขาเสียจริง เขาเป็นคนที่เก่งเรื่องงานเรื่องนี้พ่อแม่เขายอมรับ แต่เขาก็เป็นคนดื้อรั้นในบางเรื่องจนพ่อแม่เขาก็รับไม่ได้เหมือนอย่างเช่นเรื่องแต่งงานเรื่องมีครอบครัวที่เขาไม่ยอมเสียเลย
เขาไม่พูดเปล่า บดินทร์ในตอนนั้น เขาบอกกับพ่อแม่ว่าเขาจะมีหลานให้พวกท่าน เขาก็ได้ทำจริงๆ โดยไม่ปรึกษาอะไรทั้งสิ้น ด้วยความที่อยากให้หมดปัญหาเรื่องลูก เขาคิดว่าพ่อแม่ของเขาอยากได้หลาน อยากให้เขามีลูกมีครอบครัว บดินทร์เลยจัดการหาหลานให้พ่อแม่เขาทันที
และในที่สุดบดินทร์ก็ได้อุปการะเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เขาเลือกเด็กผู้หญิงเขาคิดว่าคงเลี้ยงง่ายและไม่วุ่นวาย เขากลัวว่าหากเลี้ยงลูกผู้ชาย ก็กลัวจะกลายเป็นแบบตัวเอง เขารู้ว่าเขาไม่ใช่คนว่านอนสอนง่าย เขาก็กลัวว่าเด็กผู้ชายจะเป็นแบบเขาเสียเอง
หลังจากที่เขาอุปการะเด็กผู้หญิงมา ก็สร้างความปวดหัวให้กับพ่อแม่ไม่น้อยเพราะบดินทร์ไม่มีความรู้เรื่องการเลี้ยงลูก ไม่เคยผ่านการมีครอบครัว ไม่เคยได้ดูแลใคร แต่เขากลับรับเด็กมาเลี้ยงทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตคู่ไปตามขั้นตอน
แต่เมื่อเขารับมาแล้ว พ่อแม่ก็ว่าอะไรไม่ได้ ช่วงแรกๆ เขาก็ไม่ได้สนใจเด็กน้อยที่เขาอุปการะมาเท่าไหร่ เพราะเขาไม่มีความผูกพันกับเด็กเลย เขาไม่มีความรู้สึกรัก เขาก็ปล่อยให้พ่อแม่และแม่นมของเขาช่วยเลี้ยงช่วยดูแลไป ส่วนตัวเขาก็ยังใช้ชีวิตสนุกสนาน ตามปกติ เพราะตอนนั้นเขายังวัยรุ่น
เมื่อเวลาผ่านไปด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูของเด็กผู้หญิงก็ทำให้พ่อแม่ของเขาหลงรักเธอและเอ็นดูเธอ พ่อแม่ของเขารักเธอเหมือนลูกเหมือนหลานที่แท้จริง
และไม่ใช่เพียงพ่อแม่ของเขาที่ตกหลุมรักเด็กผู้หญิงตัวน้อย ตัวเขาก็เช่นกันที่พอวันเวลาผ่านไป เขาก็เริ่มรักเริ่มเอ็นดูเริ่มสนใจเด็กผู้หญิงตัวน้อยขึ้นมา เมื่อเด็กตัวน้อยเริ่มเติบโตเริ่มพูดเริ่มแสดงความน่ารักออกมา ทำให้เขาเริ่มรู้สึกมีความผูกพัน มีความรักและหวงแหนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
และถือว่าการที่เขารับเด็กหญิงตัวน้อยมาเลี้ยงในวันนั้นช่วยให้เขาหลุดพ้นจากการที่จะถูกคลุมถุงชนได้
วันเวลาผ่านไปทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปตามอายุเรื่อยๆ และพ่อแม่เขาก็จากไปอย่างสงบด้วยอายุขัยส่วนตัวเขาก็เข้าสู่วัยผู้ใหญ่ตามกาลเวลา
ช่วงเวลาในตอนนั้น ตัวเขาก็เริ่มได้เรียนรู้การเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น และมีความรับผิดชอบมากขึ้น และเหตุการณ์ในช่วงนั้น ก็ผ่านมา 10 กว่าปีแล้ว
