บท
ตั้งค่า

บักสันดานหมา(1)

ข้าวหอมขี่รถพาย่าบุญจันทร์ไปนา ต้องผ่านทางโคกผีป่าหลอก เส้นทางนี้ถูกเรียกเนื่องจากกลางป่ามีเมรุเผาศพ หมู่บ้านนี้เวลามีคนตายส่วนใหญ่จะทำพิธีจัดงานศพที่บ้าน เคลื่อนย้ายศพมาเผาที่เมรุของวัดป่า

ด้วยชื่อนี้สมัยเด็กข้าวหอมกลัวมาก ไม่กล้าผ่านทางนี้ไปนาคนเดียว แต่พอโตขึ้นหน่อย สบายเลย ซิ่งรถกับเพื่อนถนนดินแดงฝุ่นกระจาย

ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงนาของย่าบุญจันทร์ ที่นาของย่าสองร้อยกว่าไร่ ย่าปลูกข้าวทั้งหมด ตอนนี้ข้าวใกล้ถึงเวลาเก็บเกี่ยว ย่าบอกว่าจ้างรถเกี่ยวทีเดียวเลยจบ ไม่ต้องเหนื่อย

“เป็นได๋ข้าวแม่งามบ่” (เป็นไงข้าวแม่สวยมั้ย) ย่าถามเมื่อเห็นหลานยืนมองทั่วทุ่ง

“งามจ้า” (สวยจ้า)

“บ้านเฮากะส่ำนี่ล่ะ แต่กะหากินได้ตลอด มีหยังกะแบ่งปันกัน ยามเดือดร้อนกะอาศัยกัน บ่ได่ใช้ชีวิตโก้หรู แต่สำบายในแบบของเฮา เจ็บป่วยมากะมีพี่มีน้องมาหุ้มมาตุ้ม” (บ้านเราก็เท่านี้ ก็แบบนี้แหละ แต่ก็หากินได้ตลอด มีอะไรก็แบ่งปันกัน เวลาเดือดร้อนก็อาศัยกัน ไม่ได้ใช้ชีวิตสวยหรู แต่ก็สบายในแบบของเรา เจ็บป่วยมาก็มีพี่น้องมารุมล้อมคอยห่วงใย)

“...”

“แต่ขั่นข้าวอยากกลับกรุงเทพ แม่กะมีเงินเก็บอยู่ แม่ให้ข้าวไปตั้งโตในกรุงเทพได้อยู่เด้ลูก” (แต่ถ้าข้าวอยากกลับกรุงเทพ แม่ก็มีเงินเก็บอยู่ แม่ให้ข้าวไปตั้งตัวที่กรุงเทพได้นะลูก)

ย่าเข้าใจว่าหลานสาวอาจจะผิดหวังจากงาน ผิดหวังจากความรัก หมดเงินหมดทองถึงได้กลับมาอยู่บ้านแล้วก็เสียใจอยู่บนบ้านคนเดียว ไม่เล่าอะไรให้ใครฟัง

ย่าอยากรู้ แต่ก็ไม่อยากเซ้าซี้นัก

“ข้าวบ่ได้อยากกลับไปอยู่กรุงเทพแล่วแม่” (ข้าวไม่ได้อยากกลับไปอยู่กรุงเทพแล้วแม่) คำพูดของย่าทำให้หลานสาวน้ำตาคลอ เธอรู้ดีว่าย่าอยากให้เธออยู่ด้วย แต่ย่าก็ยังจะเอาเงินให้เพื่อให้เธอได้ไปอยู่กรุงเทพ เพราะเธอเคยพูดไว้ว่าไม่อยากจะกลับมาที่นี่อีก

“แม่อยากให้หล่าอยู่นำแม่ แต่แม่เห็นหล่าบ่มีความสุขแม่กะทุกข์ไปนำ แม่บ่ฮู้เลยว่าอีหล่าของแม่ไปเจอเรื่องหยังมา” (แม่อยากให้หนูอยู่กับแม่ แต่แม่เห็นหนูไม่มีความสุขแม่ก็ทุกข์ใจไปด้วย แม่ไม่รู้เลยว่าลูกสาวของแม่ไปเจอเรื่องอะไรมา)

ข้าวหอมรู้ว่าย่าเป็นห่วงมาก แล้วมันก็ถึงเวลาที่เธอควรเล่าให้ย่าฟังได้แล้ว

“อ้ายเต้ยเพิ่นมีผู้อื่น เพิ่นนอกใจข้าว ผู้หญิงผู้นั่นกะหมู่เพิ่น คนที่ข้าวเคยเว่าให้แม่ฟังว่าเป็นเอื้อยฮักของข้าว อ้ายเต้ยขอให้ข้าวอยู่นำกันสามคนผัวเมีย ขั่นข้าวบ่ยอมเพิ่นสิบีบให้ข้าวออกจากงาน” (พี่เต้ยเขามีคนอื่น เขานอกใจข้าว ผู้หญิงคนนั้นก็เพื่อนเขา คนที่ข้าวเคยเล่าให้แม่ฟังว่าเป็นพี่สาวที่รักและสนิทกันมาก พี่เต้ยขอให้ข้าวอยู่แบบสามคนผัวเมีย ถ้าข้าวไม่ยอมเขาจะบีบข้าวออกจากงาน)

“บักฮากหมานี่ มันกล้าดีจั่งได๋มาเฮ็ดจั่งซี่” (ไอ้อ้วกหมานี่ มันกล้าดียังไงมาทำแบบนี้)

“ข้าวกะเลยตัดสินใจลาออก บ่อยากอยู่แล่วกรุงเทพ กะเลยกลับมาหาแม่” (ข้าวก็เลยตัดสินใจลาออก ไม่อยากอยู่แล้วกรุงเทพ ก็เลยกลับมาหาแม่)

“ดีแล่ว กลับมาหาแม่กะดีแล่วลูกหล่าของแม่ กลับมาอยู่นำแม่ มาอยู่บ้านเฮา แม่สิบ่ให้ไผมารังแกลูกหล่าของแม่อีก” (ดีแล้ว กลับมาหาแม่ก็ดีแล้วลูกสาวของแม่ กลับมาอยู่กับแม่ มาอยู่บ้านเรา แม่จะไม่ให้ใครมารังแกลูกสาวของแม่อีก)

“ฮักแม่เด้อ” (รักแม่นะ)

“แม่กะฮักลูกคือกัน ส่วนบักสันดานหมาน่ะ บ่ต้องไปคิดฮอดมัน โสมันถิ่ม โละมันถิ่มโลด บักจังไรไฟไหม้ บาดตอนนั่นส่อหล่อมาเว่าว่า ผมจะดูแลข้าวอย่างดี คุณย่าไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ บักห่ากินหัว บักพากมึงเอ้ย” (แม่ก็รักลูกเหมือนกัน ส่วนไอ้สันดานหมาน่ะไม่ต้องไปคิดถึงมัน โยนมันทิ้ง โละมันทิ้งเลย ไอ้คนจังไรไฟไหม้ ทีตอนนั้นทำมาเป็นสาระแนพูดว่าผมจะดูแลข้าวอย่างดี คุณย่าไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ไอ้ห่ากินหัว ไอ้ชั่วเอ๊ย)

“แม่อย่าสูน ข้าวบ่ได้ฮักเพิ่นแล่ว ข้าวเสียใจสุมื่อนี่กะย่อนว่าตัดสินใจผิดพลาด ไว้ใจคนซั่ว มองคนบ่ออกเลยถืกเขาตั๋ว” (แม่อย่าโมโห ข้าวไม่ได้รักเขาแล้ว ข้าวเสียใจอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะเป็นข้าวเองที่ตัดสินใจผิดพลาด ไว้ใจคนชั่ว มองคนไม่ออกถึงได้โดนเขาหลอก)

“ข้าวของแม่อายุส่ำนี่ มองคนผิดกะเป็นเรื่องปกติ เฮาเริ่มต้นใหม่ลูก แม่สิอยู่ข้างลูกเอง ลูกอยากเฮ็ดหยังแม่สนับสนุนเบิดเลยลูก” (ข้าวของแม่อายุเท่านี้ มองคนผิดมันเป็นเรื่องปกติ เราเริ่มใหม่ลูก แม่จะอยู่ข้างลูกเอง ลูกอยากทำอะไรแม่สนับสนุนหมดเลยลูก)

“แม่นบ่ ขั่นข้าวอยากนอนอยู่ซื่อ ๆ แม่สิบ่ว่าติ” (จริงเหรอ ถ้าข้าวอยากนอนอยู่เฉยๆ แม่จะว่าหรือเปล่า)

“นอนเลย แม่เลี้ยงได่ ขอแค่ลูกมีความสุขกะพอ” (นอนเลย แม่เลี้ยงได้ ขอแค่ลูกมีความสุขก็พอ)

“จ้า” ข้าวหอมยิ้มให้ย่า อืม ก็แค่มองคนผิดเป็นครั้งที่สอง คงไม่มีครั้งที่สามอีกแล้ว “มื่อได๋เกี่ยวข้าวแม่”

“อาทิตย์หน้า แม่นัดรถเกี่ยวไว้แล้ว”

“รถเกี่ยวบ้านไผแม่” (รถเกี่ยวบ้านใครแม่)

“รถเกี่ยวบ้านยายหม่อน ยายอีเพลินตาหมู่ข้าวนั่นล่ะ” (รถเกี่ยวบ้านยายหม่อน ยายของเพลินตาเพื่อนข้าวนั่นแหละ)

“เพิ่นออกรถเกี่ยวข้าวแล้วติ” (เขาออกรถเกี่ยวแล้วเหรอ)

“เออ ออกมาแล่ว เห็นว่าเป็นหมู่หล่าแม่กะเลยให้มาเกี่ยวให้ ซอยเหลือกัน แล่วกลับมาบ้านโทรหาหมู่แหน่ไป่” (เออ ออกมาแล้ว เห็นว่าเป็นเพื่อนของลูก แม่ก็เลยให้มาเกี่ยวให้ ช่วยเหลือกัน แล้วตั้งแต่กลับมาบ้านโทรหาเพื่อนบ้างหรือยัง)

“บ่ทันได่โทรหาไผ” (ยังไม่ได้โทรหาใคร)

“กะโทรหาหมู่ ไปหากันแหน่ ชวนกันไปเทียวแหน่ อย่าอยู่แต่ในห้องหลาย” (ก็โทรหาเพื่อน ไปหากันหน่อย ชวนกันไปเที่ยว อย่าอยู่แต่ในห้องนัก)

“จ้า แม่บ่ต้องเป็นห่วงแล่ว ข้าวตั้งใจว่าสิมานั่งขายของให้แม่ แม่สิได้เซาเมือย” (จ้า แม่ไม่ต้องเป็นห่วงแล้วนะ ข้าวตั้งใจว่าจะมานั่งขายของหน้าร้านให้แม่ แม่จะได้พักผ่อน ไม่เหนื่อยมาก)

“อีหยังกะได่ ขอแค่ลูกแม่ออกมาใช้ชีวิต แม่กะมีความสุขแล่ว” (อะไรก็ได้ ขอแค่ลูกแม่ออกมาใช้ชีวิต แม่ก็มีความสุขแล้ว)

“จ้า” ข้าวหอมยิ้มให้ย่าบุญจันทร์ ว่าแล้วก็โอบกอดย่าสักหน่อย อยู่บ้านเราอย่างน้อยก็ไม่เดียวดาย หันไปทางไหนก็ยังเจอคนรู้จัก ต่างจากอยู่กรุงเทพ อยู่ในถิ่นที่เธอไม่รู้จักใครเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่คุยด้วยหวังดีหรือหวังร้าย

*แจ้งคุณนักอ่าน นิยายบทสนทนาเป็นภาษาอีสาน มีคำแปลต่อท้ายนะคะ ฝากติดตามผลงานไรท์ด้วยน้า ขอบคุณค่ะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel