กลับบ้านเรา(2)
ข้าวหอมกลับมาอยู่บ้าน ในทุกวันเธอเพียงตื่นมากินข้าวเวลาย่าเรียก จากนั้นก็ขังตัวเองอยู่ในห้องนอนชั้นสอง เสียงร้องสะอื้นไห้ทุกครั้งที่รู้สึกดิ่ง โทษตัวเองที่เดินทางผิด สุดท้ายก็ไปไหนไม่รอด
หมกตัวอยู่บนห้องเกือบสองเดือนที่เป็นอยู่อย่างนั้น ย่าคิดว่าหลานสาวเสียใจ ควรให้เวลาขณะที่คนเป็นพ่อร้อนใจ แต่ก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไร ในทุกเช้าเวลาพูดผ่านเสียงตามสายจึงมักพูดให้แง่คิด หลักการใช้ชีวิต ความผิดพลาดที่สามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ
พ่อหวังว่าคำพูดเหล่านี้จะเข้าหูลูกสาวบ้าง
แล้วในที่สุดความอดทนของย่าบุญจันทร์ก็หมดลง ก่อนจะปีใหม่หลานสาวไม่ควรทุกข์ทรมาน หลานทุกข์ย่าก็ทุกข์ไปด้วย
ย่าเดินขึ้นมาชั้นสอง เปิดประตูห้องหลานสาวเดินเข้ามาปิดเครื่องปรับอากาศ เปิดหน้าต่างออกทุกบานให้แสงส่องเข้ามาภายในห้อง
“คั้นโดนกว่านี้แม่สิใจขาดนำแล้วเด้ข้าวหอมเอ๊ย” (ถ้านานกว่านี้แม่จะใจขาดตามแล้วนะข้าวหอม) ย่าเอ่ยเสียงสั่นเมื่อเข้ามาในห้องเห็นหลานสาวนอนสะอื้น
ข้าวหอมดึงหูฟังออก กดปิดหน้าจอสมาร์ทโฟน ลุกขึ้นนั่ง เช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า
“ปะ ลุก ไปนากับแม่ ไปท่งไปท่าดีกว่าอยู่แต่เฮือน นอนไห้อยู่จั่งซี่” (ปะ ลุกไปนากับแม่ ไปทุ่งนาดีกว่าอยู่แต่บ้าน นอนร้องไห้อยู่แบบนี้)
วันนี้ย่าบุญจันทร์ตั้งใจจะไปทุ่งนาไปดูข้าวที่ใกล้เวลาเกี่ยวเต็มที ย่าตั้งใจขึ้นมาชวนหลานไปด้วย ควรเริ่มออกไปใช้ชีวิต ไม่ใช่เอาแต่ขังตัวเองแบบนี้
ต่อให้ทำผิดพลาดแค่ไหน ทุกชีวิตล้วนเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ
“ไปบ่ ขี่รถให้แม่แหน่ บักหอยมันไปเรียนบ่ทันกลับอยู่” (ไปไหม ขี่รถให้แม่หน่อย ไอ้หอยมันไปเรียนยังไม่กลับ) ย่าบุญจันทร์ถามซ้ำเมื่อหลานสาวนั่งเงียบ
บักหอยที่เอ่ยถึงเป็นเด็กที่ย่าบุญจันทร์รับเลี้ยง ปกติแล้วหอยเป็นเด็กวัด ถูกแม่ใจร้ายเอามาทิ้ง โตเพราะข้าววัด ย่าบุญจันทร์สงสารจึงรับเลี้ยง ให้ข้าวกิน ให้บ้านนอน ให้เรียนหนังสือ ปีนี้หอยอายุ 16 ปี เรียนวิทยาลัยเทคนิคหนองบัวลำภูปี1
ย่าเลี้ยงแล้วก็รักเหมือนลูกหลานจริงๆ บักหอยเป็นเด็กที่รักย่าบุญจันทร์มาก แต่ก็มีมุมดื้อตามประสาวัยรุ่น
“ร้านค้าไผเบิ่ง” (ร้านค้าใครดู) ข้าวหอมเอ่ยเสียงเรียบ
ย่าบุญจันทร์เปิดร้านค้าอยู่ข้างบ้าน เปิดขายของชำ ย่าเปิดตั้งแต่ยังสาวปัจจุบันก็ยังเปิดแม้อายุจะมากย่าก็ยังขยัน หางานทำไม่ให้ว่างเว้น
“ปิดไว่ ปะ” (ปิดไว้ ปะ)
“จ้า อาบน้ำแต่งโตก่อน” (จ้า อาบน้ำแต่งตัวก่อน)
“เออ แม่ไปปิดร้านก่อน”
“จ้า” ข้าวหอมลุกจากที่นอน ลงมาชั้นล่างเข้าห้องน้ำอาบน้ำล้างหน้าล้างตา ขึ้นห้องมาทาครีมกันแดด เสื้อแขนยาวทับซ้อนด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงวอร์มขายาวสีดำสมัยเรียนมัธยม หยิบแว่นกันแดดมาสวม เดินลงมาชั้นล่าง หยิบหมวกสานไม้ไผ่ที่แขวนอยู่เสาบ้านแล้วเดินมาหาย่าที่ร้านค้า
“ปะแม่” ย่าบุญจันทร์กำลังง่วนกับของในร้าน
“เออ ๆ แล่วๆ ไปๆ” (เออๆ เสร็จแล้ว ไปๆ) ย่าเดินออกจากร้านค้า ข้าวหอมดึงประตูเหล็กปิด
“ป้าด! ลูกแม่คืองามแท้” ย่ามองหลานสาวด้วยความชื่นชม ข้าวหอมเป็นผู้หญิงที่สวย ได้ความสวยมาจากแม่ของเธอล้วน ๆ
“ย่องหลานเจ้าของกะเป็น” (ชมหลานตัวเองก็เป็น)
“งามอีหลีเด้ ลูกหล่าแม่งามที่สุดแล้ว” (สวยจริงๆ ลูกสาวแม่สวยที่สุด)
“จ้า งามจ้า” แบมือขอกุญแจรถมอเตอร์ไซค์จากย่า “กุญแจรถ”
“ขี่ดีๆ เด้อ พาแม่เข้าป่าหมากเล็บแมวบ่เอาเด้” (ขี่ดี ๆ นะ พาแม่เข้าป่าต้นเล็บแมวไม่เอานะ)
*หมากเล็บแมว = ต้นเล็บแมว/เล็บเหยี่ยว
“ซิ่งเลยบ่แม่” (ซิ่งเลยไหมแม่)
“เอาพอดี แม่สิใจวายก่อน” (เอาพอดี เดี๋ยวแม่หัวใจวายก่อน)
“หยอกซื่อ ๆ” (ล้อเล่นเฉยๆ)
“จักล่ะ บาดเทื่อพาแม่ซิ่งอีหลี” (ก็ไม่แน่ เผื่อพาแม่ซิ่งจริงๆ)
ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ย่าบุญจันทร์ก็ขึ้นคร่อมรถมอเตอร์ไซค์ยามาฮ่าฟีโน่ 115 ซีซี สีชมพู ขาว รถคันนี้ซื้อตอนที่ข้าวหอมเรียนมัธยมปลาย ตอนนี้ก็เก่าเต็มที กลับมาอยู่บ้านแบบนี้ต้องถอยใหม่สักคัน
*แจ้งคุณนักอ่าน นิยายบทสนทนาเป็นภาษาอีสาน มีคำแปลต่อท้ายนะคะ ฝากติดตามผลงานไรท์ด้วยน้า ขอบคุณค่ะ
